สรรพสามิตรับประชานิยมทำจัดเก็บรายได้ต่ำเป้า “ยุทธพงศ์” แฉกลาง กมธ.งบฯบุรีรัมย์คอนเนกชั่น เลี่ยงภาษีไวน์ดัง อธิบดีกรมศุลฯ ยอมรับแจ้งนำเข้า 400-5,000 บาท แต่ราคาขาย 22,000-1.3 แสนบาท สั่ง จนท.สอบราคาจริง ด้าน “ชูวิทย์” ไล่บี้รีดภาษีอ่าง...
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 โดยยังคงพิจารณาในส่วนหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง ได้แก่ กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร และกรมสรรพากร โดยนางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้แจงว่า ทางกรมฯได้วางเป้าหมายจัดเก็บภาษีในปี 2555 ไว้ที่ 4.05 แสนล้านบาท สูงกว่าปี 2554 ร้อยละ 0.29 แต่ยอมรับว่าโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนของรัฐบาล อาทิ โครงการรถยนต์คันแรก รวมถึงการเปิดการค้าเสรี เป็นอุปสรรคสำคัญต่อการจัดเก็บภาษี รวมไปถึงปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ส่วนนโนบายการผ่อนปรนภาษีสินค้านำเข้านั้น เป็นสิ่งที่ต้องทบทวน
ทั้งนี้ กรรมาธิการฯหลายคน ได้ซักถามประเด็นปัญหาการเลี่ยงภาษี ที่กระทบต่อรายได้รวมของประเทศ โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมาธิการฯจากพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดเก็บภาษี ไม่สามารถเก็บได้ตามเป้า เพราะมีการเลี่ยงภาษี โดยมีข้าราชการร่วมรู้เห็น ตนมีหลักฐานการเลี่ยงภาษีบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่ง ที่ใกล้ชิดกับนักการเมืองผู้หนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ แจ้งนำเข้าไวน์มูตอง รอธไชลด์ ปี 2002 ในราคาขวดละ 10 ยูโร หรือประมาณ 400 บาท แต่ราคาขายจริงอยู่ที่ 22,000 บาท และไวน์มูตอง รอธไชลด์ ปี 1982 ที่แจ้งนำเข้าขวดละ 5,000 บาท แต่ราคาขายในตลาดขวดละ 130,000 บาท โดยแจ้งไว้ที่ด่านศุลกากรลาดกระบัง ซึ่งตนได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว แต่นายตำรวจยศ พล.ต.อ. ได้เบรกคดีไว้ อย่างไรก็ตาม ตนไม่ยอมเพราะพรรคตนเป็นรัฐบาลแล้ว หากยังจะเบรกต่อไป จะแฉข้อมูลทั้งหมด
ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ชี้แจงว่า ประเด็นนำเข้าไวน์ต่างประเทศนั้น จากฐานข้อมูลพบว่ามีการแจ้งราคานำเข้าขวดละ 500-20,000 บาท แต่ส่วนที่ระบุว่าเสียภาษีนำเข้าและแจ้งราคาถูกแล้วนำมาขายแพงนั้น ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องราคาแล้ว
ขณะที่นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร ชี้แจงว่า จากภัยน้ำท่วมส่งผลให้ 7 นิคมอุตสาหกรรม หรือ 108 โรงงาน ได้รับความเสียหาย ยอมรับว่ากระทบต่อการเก็บภาษีในส่วนดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 6.08 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แต่ยังมีภาคที่ได้รับประโยชน์ช่วงน้ำท่วมราว 200-300% จากยอดประกอบการที่ผ่านมา อาทิ บ้านพัก น้ำดื่ม ฟาสฟู๊ด สายการบินในประเทศ และภายหลังน้ำลดเชื่อว่า กลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ ซ่อมแซมบ้าน ทำความสะอาด อุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์สำนักงาน จะทำรายได้ดี และกรมสรรพากรจะมีรายได้จากการเก็บภาษีในส่วนดังกล่าวเพิ่มประมาณ 4 พันล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรรมาธิการฯหลายคนแสดงความเป็นห่วงการจัดเก็บภาษีของ 3 กรม ในภาวะที่ประเทศต้องประสบปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ จึงคาดว่าในปี 2555 อัตราการจัดเก็บภาษีจะลดลง จึงขอให้ทั้ง 3 หน่วยงาน ดูแลการเก็บภาษีอย่างเข้มงวด และหาทางเฝ้าระวัง ป้องกันการลักลอบสินค้าเข้าประเทศผิดกฎหมาย
ทางด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย กล่าวว่า ขอให้กรมศุลกากรเข้มงวดกับขบวนการลักลอบนำเข้าข้าวผ่านทางชายแดน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กรมศุลฯเข้าไปเกี่ยวข้อง ในส่วนกรมสรรพสามิต ขอให้จัดเก็บรายได้เพิ่มจากภาษีบาป ในสถานประกอบการต่างๆ เหมือนที่ทำกับร้านขายก๊วยเตี๋ยวที่ส่งเจ้าหน้าที่ไปนั่งนับจำนวนชาม โดยส่งเจ้าหน้าที่ไปนับจำนวนห้องแทนการเก็บภาษีตามใบอนุญาต คาดว่าจะเพิ่มรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท.
...