ซักฟอกรัฐบาล อีกเกมของฝ่ายค้าน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างหนักจนรัฐบาลต้องประกาศล็อกดาวน์พื้นที่แดงเข้มเป็น 29 จังหวัง จนถึงวันที่ 31 ส.ค.64 เป็นต้นไป
แต่สถานการณ์ผ่านไป 14 วัน จะมีการประเมินอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในแต่ละวันว่าเป็นอย่างไร
หากมีแนวโน้มที่ดีหมายถึงว่าตัวเลขลดลงเป็นลำดับ ก็จะตัดสินอีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
นั่นคือผ่อนปรนมาตรการลดความเข้มข้นลง
เว้นแต่ไม่มีอะไรดีขึ้นหรือหนักลงไปกว่าเก่า ก็คงต้องเพิ่มมาตรการให้เข้มข้นขึ้นไปอีก เพิ่มจังหวัดควบคุมมากขึ้นไปอีก
ก็ต้องลุ้นกันไปทั้งประเทศ เนื่องจากเกี่ยวพันไปหมดทุกกลุ่ม
ในห้วงนี้พอดีกับการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านกำลังเตรียมการ เพื่อยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นรายบุคคล
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ คือเป้าที่ 1
แต่รัฐมนตรีคนอื่นๆยังไม่เปิดเผยว่าจะเป็นใครกันบ้าง เนื่องจากแต่ละพรรคแต่ละคนก็มียุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่แตกต่างกันไป
อยู่ที่ “รัฐมนตรี” คนไหนจะเกี่ยวพันกับแผนหรือไม่
เท่าที่ดูแล้วอีกคนที่แน่นอนคือ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและรัฐมนตรีสาธารณสุข เพราะอยู่ในเนื้องานโควิด-19 เกือบทั้งหมด
ซึ่งฝ่ายค้านคงทำการบ้านเอาไว้หลายชุดแล้ว
แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นเป้าใหญ่ในศึกซักฟอกครั้งนี้ แต่หากการแพร่ระบาดมีแนวโน้มที่ลดลงก็แทบจะหลุดจากวงโคจรไปได้เลย
ก็จะเป็นเรื่อง “การเมือง” เต็มๆอย่างที่มีการขับไล่กันอย่างทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งก็จะทำให้การเมืองขนาบทั้ง 2 ด้าน
คือในสภาและนอกสภา
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ประธานสภาผู้แทนฯในวันที่ 16 ส.ค.64 คาดว่าการอภิปรายจะดำเนินการได้ช่วงปลายเดือน ส.ค. หรือต้นเดือน ก.ย.64
...
ว่าไปแล้วการซักฟอกรัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติทางการเมืองของฝ่ายค้านที่จะต้องมีหน้าที่ตรวจสอบการทำงาน
เพียงแต่จะต้องมี “นํ้าหนัก” ที่จะชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาด บกพร่อง ทุจริต คอร์รัปชัน แบบที่พูดกันว่า “ใบเสร็จ” นั่นแหละ
คือความศักดิ์สิทธิ์ที่จะได้รับการยอมรับของสังคม
รัฐบาลชุดนี้เคยถูกยื่นซักฟอกมา 2 ครั้งแล้ว แต่ปรากฏว่ารัฐบาลเป็นฝ่ายชนะอย่างราบคาบ ไม่สามารถที่จะเจาะไข่แดงได้
หนำซํ้าฝ่ายค้านกลับมีปัญหากันเสียเอง...
คราวนี้มีโควิด-19 มาเป็น “นํ้าเชื้อ” อย่างดี ไม่ว่าจะแตะตรงไหนก็เจอปัญหาความผิดพลาดบกพร่องเป็นส่วนใหญ่
อยู่ที่ว่าฝ่ายค้านจะหาข้อมูลมานำเสนอได้แค่ไหน
ยิ่งถ้าโควิด-19 หยุดระบาดเสียก่อน...ก็จืดไปทันที.
“สายล่อฟ้า”