ถึงจะเอาไม่อยู่ แต่นายกฯตู่ก็ยืนยันไม่ท้อ ทำอย่างที่สุดแล้ว แต่ประชาชนท้อไปถึงตาตุ่ม นายกฯตู่ล็อกดาวน์ กทม.ตั้งแต่ 12 ก.ค. ถึงวันนี้ 2 ส.ค. 22 วันแล้ว สถานการณ์ไม่ดีขึ้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่และเสียชีวิตเพิ่มขึ้นน่าตกใจ 31 ก.ค. ทำสถิติใหม่ติดเชื้อทะลุ 18,912 ราย เสียชีวิต 178 ราย วันนี้ครบกำหนดล็อกดาวน์ ผมเขียนคอลัมน์ล่วงหน้า ไม่รู้ว่าจะต่อล็อกดาวน์หรือไม่ แต่ วัคซีน เตียงผู้ป่วย ยารักษาโควิด ก็ยังขาดแคลนไปหมด

จน ชมรมเภสัชชนบท ทำจดหมายเปิดผนึกถึง คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. ขอร้องให้ องค์การเภสัชฯ และ โรงงานเภสัชกรรมทหาร ช่วยกันผลิต “ยาฟาวิพิราเวียร์” ให้เพียงพอ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยารักษาโควิด เพื่อลดการเสียชีวิต นายกฯตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน บ้างไหม?

ไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ไม่เลือกเด็กผู้ใหญ่ วันนี้มีเด็กติดเชื้อโควิดมากขึ้นและมีการเสียชีวิตมากขึ้น แต่กลับไม่มียารักษาโควิดสำหรับเด็ก ยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้รักษาผู้ใหญ่ ก็เป็นยาเม็ดเด็กรับประทานไม่ได้ ผมมีโอกาสพบกับ พล.อ.ต.นพ.สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ท่านเล่าให้ฟังว่า โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ กำลังพัฒนา “ยาน้ำฟาวิพิราเวียร์” สำหรับรักษาเด็กที่ติดเชื้อโควิด ตอนนี้พัฒนาไปถึงขั้นท่ีผลิตมาใช้งานได้แล้ว ผมถือเป็นข่าวดีมากๆ รออีกไม่นานได้ใช้แน่นอน

วันนี้ไม่เพียงเด็กที่เข้าไม่ถึง ยาฟาวิพิราเวียร์ ที่ใช้รักษาโควิด ผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนมากก็เข้าไม่ถึงยาฟาวิพิราเวียร์ ส่วนใหญ่ได้ยาช้าไม่ทันกาล ไวรัสเข้าปอดแล้ว จดหมายเปิดผนึกของ “ชมรมเภสัชชนบท” ระบุว่า ข้อมูลจากอาสาสมัครช่วยงานใน กลุ่มผู้ป่วยที่กักตัวที่บ้าน Home Isolation พบว่า มีผู้ป่วยไม่ได้รับยาเป็นจำนวนมาก บางรายเสียชีวิตเพราะไม่สามารถเข้าถึงยา ข้อมูลจากพื้นที่สะท้อนว่า ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟาวิพิราเวียร์รวดเร็ว ช่วยชะลอการเสียชีวิต และ เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยได้อย่างชัดเจน

...

ชมรมเภสัชชนบท จึงเรียกร้องให้ องค์การเภสัชฯ และ โรงงานเภสัชกรรมทหาร เร่งช่วยกันผลิตยาฟาวิพิราเวียร์ให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยเดือนละ 30 ล้านเม็ด หรือ 1 ล้านเม็ดต่อวัน โดยให้ชะลอการผลิตยาชนิดอื่นออกไปก่อน ให้เร่งผลิตยาฟาวิพิราเวียร์แทน

ผมเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของ ชมรมเภสัชชนบท ความจริง พล.อ.ประยุทธ์ และ คุณอนุทิน ไม่ควรรอให้เรียกร้องด้วยซ้ำ เป็นหน้าที่ขององค์การเภสัชฯและรัฐบาลต้องทำอยู่แล้ว ที่ผ่านมา การจัดซื้อวัคซีนล่าช้า ก็เพราะปัญหาการจัดซื้อขององค์การเภสัชฯ คราวนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ องค์การเภสัชฯผลิตเองได้ จึงไม่มีข้อแก้ตัวใดๆอีก

วันก่อน นพ.เกียรติภูมิ ปลัด สธ. แถลงว่า สิงหาคมนี้จะมียาฟาวิพิราเวียร์สำรอง 40 ล้านเม็ด กันยายนอีก 40 ล้านเม็ด นายกฯ มีนโยบายให้ยาฟาวิพิราเวียร์เร็วที่สุด แต่ดูจากจดหมายเปิดผนึกของชมรมเภสัชชนบทแล้ว ทำไมยาฟาวิพิราเวียร์ 40 ล้านเม็ด จึงกระจายลงไปไม่ถึงผู้ป่วย โดยเฉพาะ ผู้ป่วยที่กักตัวในบ้าน และ ผู้ป่วยที่กักตัวในชุมชน ตามนโยบายใหม่ของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาเตียงไม่เพียงพอ

ถ้าทุกฝ่าย ทำงานอย่างโปร่งใส เปิดเผยทุกขั้นตอน ตรวจสอบย้อนได้ การแก้ปัญหาจะง่ายขึ้น เช่น สหรัฐฯ เมืองเล็กๆที่มีประชากรไม่กี่พันคน ได้รับวัคซีนกี่โดส ฉีดไปกี่โดส ฉีดผู้หญิงผู้ชายเท่าไหร่ ยังไม่ฉีดอีกกี่คน เปิดคอมพ์ดูจากเมืองไทยได้เลย ไม่มีอะไรต้องปิดบังเป็นความลับ ยุคนี้ต้องสู้กับโควิดด้วยข้อมูลที่เปิดเผยครับ ข้อมูลที่ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน ไม่ใช่ เปิดปุ๊บ ล่มปั๊บ เปิดใหม่เต็มแล้ว มันเป็นงงจริงๆ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”