รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ในประเทศไทย ณ วันที่ 10 เม.ย. ก่อนสงกรานต์เพียง 2 วัน พบผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 ในระดับที่สูง แบบก้าวกระโดด คลัสเตอร์จาก สถานบันเทิงย่านทองหล่อ เป็นเหตุติดไปจนถึงงานปาร์ตี้ที่ ภูเก็ต อย่างน้อยๆก็ 3 งานด้วยกัน มี ดารา คนดัง ไฮโซ คนใหญ่คนโตมากมายที่ติดเชื้อ รวมทั้งนักการทูต จากคลัสเตอร์ แหล่งบันเทิงย่านทองหล่อ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ และมาตรการด้านความปลอดภัยในการควบคุมโรค ทำไมถึงมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน ระหว่าง สถานบันเทิงย่านไฮโซ กับ ร้านค้า ร้านอาหารทั่วไป

คงไม่ต้องไปถามหาความสำนึกหรือความรับผิดชอบจากใครที่ไหน แต่ที่ต้องถามหาคือ จิตสำนึกการทำหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง มีมากน้อยแค่ไหน หัวหน้ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล ผบ.ตร. พล.ต.อ. สุวัจน์ แจ้งยอดสุข ผอ.ศบค. พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) จะใช้มาตรฐานใดในการลงโทษกับบุคคลที่ฝ่าฝืนมาตรการของรัฐ

การที่รัฐบาลเทน้ำหนักให้กับ การกระตุ้นเศรษฐกิจระดับบน โดยไม่คำนึงถึง ผลกระทบกับธุรกิจระดับล่าง คนที่ต้องหาเช้ากินค่ำ การที่รัฐบาลเปิดให้ คนเข้าออกประเทศโดยมีมาตรการยกเว้นเป็นพิเศษ การที่รัฐปล่อยให้สถานบันเทิงที่มีประสบการณ์แล้วว่าเป็นแหล่งคลัสเตอร์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เท่ากับเป็นการแสดงถึงจิตสำนึกของความรับผิดชอบต่อความทุกข์สุขของประชาชน มีหรือไม่มี หรือมีมากน้อยแค่ไหน

...

การออกมาแบกรับ การกระทำความผิดของคนในรัฐบาลเอง แล้ว โยนภาระให้กับชาวบ้านตาดำๆ ก็ไม่แฟร์ การควบคุมอำนาจการบริหารจัดการวัคซีน แบบผูกขาด จนเกิดปัญหา วัคซีนไม่เพียงพอทันต่อความต้องการของการระบาดของไวรัสโควิด-19 คืออะไร

กับข้อเสนอ การกู้เงินหลักแสนหลักล้านล้าน เพื่อมาเยียวยาผลกระทบจากโควิด-19 คุ้มกับการที่ต้องแลกด้วยการกระตุ้นการท่องเที่ยว ในขณะทุกประเทศทั่วโลกกำลังประสบกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างรุนแรงไหม ไม่ใช่แค่ต้องคิดให้รอบคอบอย่างเดียว

แต่ต้องมีจิตสำนึกด้วย

เพราะไม่ใช่ทำให้เกิดความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจภาพรวม ของประเทศเท่านั้น แต่ เรายังต้องสูญเสียชีวิตและความปลอดภัย ของคนไทย อีกจำนวนหนึ่งด้วย

วันนี้ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะออกมาเปิดเผยว่า เปิดกว้างให้เอกชน สั่งวัคซีนโควิด-19 เองได้ แล้ว แต่ในทางปฏิบัติกลับตรงกันข้าม มีบริษัทเอกชน จำนวนมากที่ขออนุญาตในการนำเข้าวัคซีน แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาจาก หน่วยงานด้านสาธารณสุข ทั้งๆที่รู้ว่าประเทศไทยกำลังขาดแคลนวัคซีนอย่างหนัก

บางบริษัทพร้อมที่จะนำเข้าวัคซีนไม่ต่ำกว่า 20 ล้านโดส มีการอนุมัติจากบริษัทผู้ผลิตเรียบร้อยแล้ว ตกลงซื้อขายกันไปแล้ว รอแค่กระทรวงสาธารณสุขเซ็นอนุมัติ วัคซีน 20 ล้านโดส เข้าไทยทันที

แต่จนบัดนี้ ยังเงียบเป็นเป่าสาก.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th