"กิตติพงษ์" เผยนายกฯย้ำในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ จะให้อิสระหนุน คอป.เต็มที่ ส่วนกรณีปล่อยตัวคนเสื้อแดงดูเป็นรายบุคคล คอป.ชี้เสื้อแดงโดนตั้งข้อหาเกินสมควร โยนรัฐบาลชี้ขาดปล่อยตัวชั่วคราว "กี้ร์" รวมถึง "จรัล-ดารณี"...

วันที่ 29 ก.ย. ทำเนียบรัฐบาล นายกิตติพงษ์ กิตติยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) กล่าวภายหลังเข้าร่วมการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ว่า นายกรัฐมนตรีพูดชัดเจนในที่ประชุมหัวหน้าส่วนราชการ ว่าจะให้อิสระแก่คณะกรรมการ คอป. เช่นเดียวกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ เคยให้อิสระในช่วงที่ผ่านมา และยังย้ำถึงนโยบายรัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนการทำงานของ คอป. รวมทั้งข้อเสนอแนะที่ได้เสนอไปแล้ว โดยคอป.คงไม่ได้หาข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ความขัดแย้งในเดือน เม.ย.-พ.ค. 53 แต่คงต้องดูลึกไปกว่านั้นว่าสาเหตุความขัดแย้งเกิดจากอะไร และขอพื้นที่จากสื่อนำข้อมูลมาเสนอแนะต่อสาธารณะ เพื่อจะได้เข้าใจสถานการณ์สาเหตุปัญหาร่วมกัน โดยได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ อดีตผู้บริหาร อดีตประธานาธิบดี และอดีตเลขาธิการยูเอ็นจะทยอยมาประเทศไทย เพื่อพยายามช่วยกันหาทางออก ซึ่งส่วนนี้นายกฯก็ยินดีที่จะให้การสนับสนุน

เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการพิจารณาการยื่นถวายฎีกาขออภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของทาง รมว.ยุติธรรมโดยตรง ที่ได้มอบหมายให้ทางกรมราชทัณฑ์ให้ความเห็นแล้วนำเสนอไปยังรองปลัดกระทรวงที่ดูแลกรมราชทัณฑ์ โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานของปลัดกระทรวง ส่วนที่รัฐบาลก็ออกมารับลูกข้อเสนอของ คอป. เราก็รอความชัดเจนจากรัฐบาลในการตั้งคณะกรรมการเยียวยา ที่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกฯ ได้รับมอบหมายให้เป็นประธาน ทางคอป.เราก็รอที่จะไปพูดคุยกันถึงความชัดเจนเรื่องข้อเสนอแนะ โดยหลักเกณฑ์การเยียวยาเราเขียนชัดเจนในข้อเสนอ คือต้องเป็นกรณีที่ไม่ใช่เรื่องของการสงเคราะห์ แต่เป็นการให้ค่าชดเชย ค่าตอบแทนในความสูญเสีย ในเหตุการณ์เฉพาะกิจ ไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ซึ่งต้องดูมาตรฐานสากลเป็นหลัก ส่วนเรื่องการให้ปล่อยตัวคนเสื้อแดงนั้นคงไม่ใช่ปล่อยทั้งหมด แต่ให้ทบทวนการตั้งข้อหาว่าตั้งข้อหาโดยสมควรหรือไม่ การให้ประกันปล่อยตัวชั่วคราวเป็นสิทธิพื้นฐาน ต้องดูว่าเขาได้รับสิทธิพื้นฐานนั้นหรือไม่ เมื่อรัฐบาลได้แนวทางแล้วก็คงต้องมาพิจารณาเป็นรายกรณีไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางผู้นำฝ่ายค้านระบุว่านักโทษทางการเมืองที่จะได้รับการเยียวยาคืนความเป็นธรรมไม่อยากจะให้เหมารวมผู้ก่อการร้ายเผาเมือง นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า คงต้องมาแยกแยะกันอีกที คอป.ได้ตั้งข้อสังเกตไปเพียงว่าจากข้อมูลที่เราทราบมีบางกรณีที่มีการตั้งข้อหาเกินสมควร มีบางกรณีเขารู้สึกคับแค้นว่าไม่ได้หลักประกันในสิทธิพื้นฐานของเขา ผู้เกี่ยวข้องต้องมาแยกแยะว่ามีกรณีใดบ้าง เราไม่ได้บอกว่าทุกกรณีเป็นเช่นนั้น เมื่อถามว่า ใครจะเป็นเจ้าภาพในการเร่งดำเนินการทบทวนการตั้งข้อหาหรือพิจารณาให้ปล่อยตัวชั่วคราว ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า รัฐบาลจะให้มีคณะกรรมการประสานงานขึ้นมา ซึ่งมีนายยงยุทธ เป็นประธาน คอป.ก็รออยู่ว่าเมื่อมีคณะกรรมการประสานงานชุดนี้แล้วก็น่าจะมีการกำหนดกรอบ ว่าเรื่องใดใครจะรับผิดชอบ ในส่วน คอป.คงไม่ได้เกี่ยวข้อง

ส่วนคดีของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. ที่ตั้งเงื่อนไขว่าต้องได้ประกันตัวถึงจะกลับมาสู้คดี รวมทั้งนายจรัล ดิษฐาอภิชัย นางดารณี กฤตบุญญาลัย จะอยู่ในข่ายได้รับการพิจารณาด้วยหรือไม่ นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า คอป.เสนอในหลักการทั่วไป แต่รายกรณีทางรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่ามีกรณีใดบ้างที่อยู่ในกรอบที่คอป.เสนอไป เมื่อถามว่า นายอริสมันต์ โดนคดีร้ายแรงจะเป็นไปได้ที่จะได้รับการพิจารณาด้วยตามที่คอป.เสนอแนะ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า คงต้องมาดูในรายละเอียดว่า เนื้อหาหรือเจตนาในการดำเนินการต่างๆ และความเหมาะสมตามหลักกฎหมาย คอป.ไม่ได้ระบุกรณีใดกรณีหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เป็นเรื่องทั่วไปที่ยึดตามกรอบกฎหมาย หลักนิติธรรม และสิทธิพื้นฐานของบุคคลและดูถึงการลงโทษให้เหมาะสมกับพฤติกรรมเป็นหลัก ซึ่งก็ยังไม่ได้ระบุว่าจะทำเรื่องใดก่อนหลัง ต้องรอคณะกรรมการประสานงาน

เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ต้องหาความผิดตามม.112 กว่า 500 คน จะต้องปล่อยตัวก่อนหรือไม่ นายกิตติพงษ์ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล คอป.เสนอแนวคิดกว้างๆ รัฐบาลควรต้องรับเสนอ คอป.มาดูว่าจะทำได้แค่ไหนอย่างไร โดยหน่วยงานใด โดยเราก็อยากจะให้เกิดผลโดยเร็วที่สุด

"ส่วนข้อเสนอของกลุ่มนิติราษฎร์ที่ต้องการให้ลบล้างผลพวงจากการปฏิวัติรัฐประหารนั้น ไม่ขอวิจารณ์ สำหรับข้อเสนอของนายคณิต ณ นคร ประธาน คอป. ที่จะให้เปลี่ยนข้อหาก่อการร้ายเป็นความผิดการกระทำอันเป็นอั้งยี่ ยังไม่ใช่ข้อเสนอของ คอป. แต่เป็นความเห็นทางวิชาการของนายคณิต ที่กำลังหารือว่าอาจจะต้องระดมความคิดกันอีกนิด" นายกิตติพงษ์ กล่าว.

...