“การอภิปรายครั้งที่ผ่านมาพวกเราถูกพรรคร่วมฝ่ายค้านประณาม ซึ่งต้องกราบขอโทษเขา เพราะพวกเขาเข้าใจว่า เวลาที่เหลือสามารถขออภิปรายต่อได้”แทรกจังหวะ ระหว่างศึกอภิปรายทั่วไปไม่ไว้วางใจรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย เอ่ยปากขอโทษพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยเฉพาะค่ายก้าวไกล อดีตพรรคอนาคตใหม่ ย้อนความไปในการอภิปรายฯรอบก่อนออกตัวกับพวกเดียวกัน ซ่อนวาระพิเศษ “เคลียร์” คนดูข้างเวที เพื่อไทยไม่ซูเอี๋ยเกี้ยเซียะล้างภาพจำบ้อท่าจากงวดก่อนแล้วก็เป็นไปได้อย่างที่ออกตัว นอกจาก “หมอชลน่าน” อัดข้อมูลแน่นๆเข้าถล่ม “บิ๊ก ป.” ทั้ง 3-4 ป. โยงใยขบวนการแรงงานต่างด้าว และปม “ส่วย” ถึงบิ๊กๆต้นเหตุโควิดระบาด ชนิด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ งัวเงียลุกขึ้นมาตอบนอกจากนี้ บรรดาขุนพลเพื่อไทย รอบนี้ไม่ได้เน้นแค่โวหารลีลาจี๊ดจ๊าด แต่เนื้อหาจัดเต็ม คืนฟอร์มเกือบครบ แต่ก็ยังมีข้อสงสัย ต้องจ้องพิรุธ รุ่นใหม่ไต่ชั้นโคตรเซียนหาลำไพ่พิเศษแต่ที่แน่ๆที่คงเส้นคงวา บรรดาลูกทัพสีส้มจากอนาคตใหม่มาเป็นพรรคก้าวไกลวันนี้ ขุนพลทีเด็ดหายไปหลายราย แต่ที่เหลือแถว 2 แถว 3 ก็รับไม้ต่อได้ครบ คับแก้วในเรื่องเสาะแสวงหาข้อมูล“นักรบกูเกิล” ที่ผู้นำค่อนขอดก็ไม่เสียหาย ถ้ายิงเข้าเป้านั่นก็เป็นคิวโฟกัส 2 ค่ายหลักฝ่ายค้าน ยกระดับได้อีกขั้น โวหารลีลาลดดีกรีลงไปเยอะหันมาดูปีกรัฐบาล 3 ป. ทหารเฒ่าเป้าถล่มหลัก หนักสุดก็ ป. น้องเล็ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้นำเลยโดนทุกเรื่อง ส่วนประเด็นร้อนที่คนจับตา ทั้งปมบ่อน-ส่วยแรงงานต่างด้าวต้นเหตุโควิดระบาดรอบสอง ข้อมูลฝ่ายค้านแค่เฉี่ยวๆไม่ได้ใจกองเชียร์ไม่โดน เหมือนที่บิ๊กสื่อชำแหละลาก “ของร้อน” ไปถึงศูนย์กลางอำนาจก่อนหน้านี้ศึกนี้ตำรับผู้นำใช้วาจาคารมเป็นคัมภีร์หลบกระสุนได้ทุกทิศทางอีกรายที่รับของหนักล้วนๆ ป.พี่รอง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ยาวนาน ตั้งแต่ยุค คสช. ทั้งปม “ต่อสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว” โยงรถไฟฟ้าสายสีส้ม “มหาสงครามตัวแทน” ของ “ทุน” รมต.ต้องเด้งเชือกตอบ “ความผิดยังไม่เกิด”จนถึงโรงขยะ-โรงไฟฟ้า รักษาทรง โยนให้องค์กรปกครองท้องถิ่น รมต.แทรกแซงไม่ได้“นุ่ม-นิ่ม” รับของหนัก “นิ่งอย่างเดียว” แบบพี่ใหญ่เคยให้คำจำกัดความรายนี้ไว้ขณะที่ “พี่ใหญ่” โดนแค่แฉลบๆ ในฐานพี่ชายที่แสนดี เอี่ยวรับแรงกระแทกร่วมน้องๆวันนี้นั่งเก้าอี้ลอย รองนายกฯ ลุงพี่ใหญ่เลยได้ชิลสรุปได้ว่า ศึกนี้คณะ 3 ป. ทหารเฒ่า แม้ที่ผ่านมามีหงุดหงิดขัดใจ เครือข่ายไพร่พลในก๊กกระทบกันบ้าง แต่ถึงที่สุดก็หันกลับมากลมเกลียว เพราะมาด้วยกัน จะพังก็พังด้วยกัน ยามมีศึกนอก 3 ป. จึงกลับมาปึ้กที่หนักหนา กลายเป็นเป้านิ่งให้ฝ่ายค้านเข้าตี รอจังหวะเข้าแทรกหากเป้าหมายโดนเขี่ยทิ้ง รมต.ค่ายประชาธิปัตย์ โดยเฉพาะ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ระดับพ่อบ้านเพื่อไทย “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ออกโรงโซ้ยเอง อภิปรายปม อคส.ทุจริตถุงมือยางตำรับ “อู๊ดด้า” ต้องท่องกฎหมาย ปัดเป่ากระสุนพัลวันรวมทั้งที่ดูเหมือนจะเป็นเป้าใหญ่ของฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพลพรรคเพื่อไทย เหมือนได้สัญญาณจากหน่วยเหนือ “นายใหญ่” พร้อมใจกันดาหน้าเข้าตี “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคมถล่มศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม น้องในไส้ “สายเน” หนักหน่วง ทั้งรถไฟสายสีส้ม-สีเขียว ที่เปิดศึกชิงมหาขุมทรัพย์กับ “ป.พี่รองทหารเฒ่า” จนเป็นเรื่องเป็นราว ล้มประมูล ไปจนกระทั่งโดนขุดปมฮุบที่ดินรถไฟ จ.บุรีรัมย์สรุปความ มหาสงครามอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้ ถึงผ่านพ้นไปได้ด้วยแต้มรัฐบาลเป็นต่อท่วมท้น แต่ต้องตาม ลงเขียงรอดดาบในสภาฯมีเรื่องให้เคลียร์ต่อ สำหรับรัฐมนตรีที่โดนยื่นเรื่องตรวจสอบปมทุจริตและแน่นอนจะมีแรงสะเทือนต่อ ม็อบยังเจนฯ กลุ่มราษฎร ได้หัวเชื้อจุดไฟ นัดรวมพลเขย่าอำนาจนั่นไม่เท่ากับปมสนิมเนื้อในกัดกร่อนพรรคร่วมรัฐบาลรอยร้าวสัมพันธ์ พลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ประชาธิปัตย์ เริ่มขยายห่างอย่างเห็นได้ชัด.ทีมข่าวการเมือง