น้องไปต่อ “พี่ใหญ่” ไหวเปล่า? ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เคยร้อนแรงมาหลายเดือนติดต่อกันเริ่มชิลๆลง แม้ฉากหลังจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

คือยุทธศาสตร์ยังเหมือนเดิม แต่ในเชิงยุทธวิธีต้องขยับบ้าง

นั่นทำให้ฝ่ายคุมอำนาจได้หายใจเต็มปอดไม่ซีเรียสเหมือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะการชุมนุมของม็อบสารพัดชื่อเริ่มเบาบางลง

ไม่ต่างกับปรอทที่พุ่งทะยานขึ้นจนติดเพดาน แต่ยังไปไม่ถึงจุดแตกหักได้ ก็ต้องลดเพดานลงไปตามภาวะที่เป็นจริง

จะยกระดับเพิ่มเพดานไปมากกว่านี้ก็ไร้ประโยชน์

ที่สำคัญก็คือฝ่ายตั้งรับที่ถูกรุกกระหน่ำมาตลอด เริ่มตั้งลำได้แม้จะไม่ได้ออกอาวุธมากนักเท่าใด แต่ก็ยังรักษาด่านหน้าเอาไว้อย่างมั่นคงเหนียวแน่

เพราะกระบวนยุทธ์ทางการเมือง ณ พ.ศ.มันกินลึกไปทั้งองคาพยพจากสูงสุดไล่ลงไปถึงล่างสุดล้วนได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง

ไม่แยกวัย ไม่แยกเพศ รุ่นเก่า-รุ่นใหม่ต่างได้ร่วมขบวนอย่างถ้วนหน้าเป็นความเสมอภาคทางสังคมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ต้องมีการปรับตัวไปตามภาวะ เพื่อความอยู่รอดอย่างหนึ่ง เพื่อให้มีพื้นที่ยืนอย่างหนึ่ง

แม้จะมีฝ่าย มีพวก มีกลุ่ม แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้คือต้องช่วยตัวเองด้วย

จึงไม่แปลกที่จะได้เห็นการปรับเปลี่ยนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ประเทศไทย แต่ก็ได้เห็นกันแล้ว

มิฉะนั้นก็ไม่สามารถจะมั่นใจได้ว่าการดำรงอยู่อย่างที่ผ่านมาจะรักษาเอาไว้ได้หรือไม่ เพราะความคิดคนนั้นห้ามกันไม่ได้

นี่เป็นอีกฉากหนึ่งทางการเมืองในยุคดิจิทัลสะท้อนความจริง

มีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าจะเข้ากับสถานการณ์เมื่อ “วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ” โหร คมช.เก่าที่เกาะเกี่ยวกับรัฐบาลทหารเข้าสู่ “ยุคที่ 2”

...

นิมิตล่าสุดของหลวงปู่เกวลินฟันธงอีกแล้วว่า คนดวงดีอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯหลังพ้นคดี “บ้านหลวง” มาได้สดๆร้อนๆ

จะยืนระยะบนอำนาจต่อไปอีกนาน นอกจากจะอยู่ครบเทอมแล้วยังได้ไปต่อในสมัยต่อไปอีกด้วย

นั่นคงหมายถึงว่าการเมืองปกติมีการเลือกตั้งตามวาระ

แต่ถ้าเป็นการเมืองไม่ปกติ “หลวงปู่” ไม่ได้ให้ลายแทงเอาไว้

ลำพังแค่บอกว่าจะได้อยู่จนครบเทอมก็อิ่มเอมแล้ว นี่ยังไปไกลถึงขั้นว่าจะได้ไปต่อไปไกลบนสนามเลือกตั้งด้วย

พูดง่ายๆอะไรจะขนาดนั้น!

ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ว่ากันไป แต่คนที่อยู่ใน “ลายแทง” นี้ จะสุขใจแค่ไหนคงไม่ต้องบอก ยกเว้นถ้าไม่เป็นไปตามนั้นก็ไปไล่บี้กันเองก็แล้วกัน

แต่อย่างน้อยสังคมการเมืองทั้งระบบก็ต้องตั้งโจทย์หาคำตอบเหมือนกัน

มีก็แต่ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คนนั้นแหละที่บอกว่า “ไม่ไหว” จะด้วยเพราะสุขภาพตามอายุขัยพอจะเข้าใจได้

แล้วใครจะเชื่อล่ะ...

“สายล่อฟ้า”