“นักเรียนเลว” คึกคัก จัด “บอกลาเครื่องแบบ” คืนชุดหน้า ศธ. เตรียมอุดมฯ จัดเต็มแฟนซี “แฮร์รี พอตเตอร์” เด็กสตรีวิทย์ เอาชุดมาเปลี่ยน สวนกุหลาบรังสิตฉะปิดกั้นอัตลักษณ์เด็ก สามเสนฯ บอกต้องทดลองถึงรู้ นร.บดินทร์ฯ โวยถูกขู่ไม่ให้จบ ครูหอวังเรียกผู้ปกครองมารับตัวกลับหลายจังหวัดยังกล้าๆกลัวๆ สุรนารีฯห้ามเด็กแต่งไปรเวตเข้า “ณัฏฐพล” ฮึ่มยังไม่แก้ระเบียบต้องอยู่ในกฎ “บิ๊กตู่” ยกข้อดีแต่งเครื่องแบบ ของขึ้นนิดๆ ถูกจี้ถามปมบ้านพักในค่ายทหาร โยนอยู่ที่ศาล รธน. ตัดสิน “บิ๊กป้อม” ปัดไม่มีรายชื่อนายกฯสำรอง ม็อบ ราษฎรยกเลิกนัดหน้าศาล รธน. ย้ายวิกมาห้าแยกลาดพร้าว ทีมการ์ดแตก “โตโต้” แจงเหตุยุติบทบาท ห่วงมีหน่วยแทรกซึมทำลายชอบธรรม “ไมค์” เรียกการ์ดจัดระเบียบใหม่ พท.บ่นเสียดายทีม “หญิงหน่อย” ไขก๊อก เผยถูกริบอำนาจเหี้ยน

ตามที่กลุ่มแนวร่วม “นักเรียนเลว” นัดหมายนักเรียนทั่วประเทศแต่งชุดไปรเวตไปเรียนในวันเปิดเทอม 2 ของปีการศึกษา 2563 ปรากฏว่ามีนักเรียนหลายแห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดพากันแต่งชุดไปรเวตตามนัด แต่มีหลายจังหวัดที่นักเรียนยังกล้าๆ กลัวๆ จากมาตรการตรวจสอบเข้มของผู้บริหารการศึกษา

...

เตรียมอุดมฯแต่งไปรเวตตามนัด

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 ธ.ค.ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา มีกลุ่มเด็กนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาจำนวนหนึ่ง ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และมัธยมศึกษาปีที่ 5 ร่วมกิจกรรมแต่งชุดไปรเวตมาเรียน ในวันเปิดภาคการเรียนที่ 2 เป็นวันแรก ตามที่กลุ่ม “นักเรียนเลว” นำโดยนาย ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ และ น.ส.เบญจมาภรณ์ นิวาส ใช้สื่อสังคมออนไลน์ประกาศเชิญชวนนักเรียนทั่วประเทศให้ร่วมกิจกรรม เพื่อรณรงค์ให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ยกเลิกการบังคับใส่ชุดนักเรียน ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธินักเรียน พร้อมเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมในสถานศึกษา และเสรีภาพในการ แสดงออกของนักเรียน บรรยากาศเป็นอย่างคึกคัก นักเรียนบางคนแต่งตัวในชุดแฟนซี ตามภาพยนตร์ชื่อดังแฮร์รีพอตเตอร์ นักเรียนหญิงบางคนใส่ชุดนักเรียนชาย บางคนสวมหมวกทรงสูง ถือป้ายข้อความ “ทรงผมบังเพื่อน” เป็นการล้อเลียนผู้บริหารกระทรวงศึกษาฯ

แต่งอะไรก็ยังเป็นนักเรียนที่นี่

นักเรียนคนหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมกล่าวว่า วันนี้ถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของสังคมไทยเลยก็ว่าได้ ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการแต่งกายแบบนี้อย่าง จริงจัง วันนี้มีนักเรียนหลายคนที่ร่วมกันใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียน รู้สึกดีใจที่หลายคนรับรู้ถึงสิทธิของตัวเอง ได้แสดงความคิดเห็นและความต้องการที่หลากหลาย ทั้งนี้ การใส่ชุดไปรเวตมาโรงเรียนไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อคะแนน เพราะไม่ว่าเราจะใส่ชุดอะไรก็ยังคงเป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้อยู่

สตรีวิทย์เอาชุดมาเปลี่ยนที่ ร.ร.

ที่ ร.ร.สตรีวิทยา นักเรียนทั้งระดับ ม.ต้น และ ม.ปลาย ส่วนใหญ่ยังคงแต่งเครื่องแบบนักเรียนตามปกติ มีเพียง 2-3 คนที่แต่งชุดไปรเวตมา แต่ครูเวร ยังคงให้เดินเข้าโรงเรียนตามปกติ โดยครูคนหนึ่งให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆว่า ทุกโรงเรียนมีระเบียบเครื่องแต่งกายนักเรียน โรงเรียนสตรีวิทยายังไม่พบการแต่งชุดไปรเวตมา หากนักเรียนแต่งมาคงพูดคุยถามถึงเหตุผล แต่คงไม่ได้มีการลงโทษใดๆ หากพูดคุยไม่เข้าใจอาจเชิญผู้ปกครองมาทำความเข้าใจเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตัวแทนนักเรียนบางคนให้ข้อมูลว่ามีการนัดแนะให้นำชุดไปรเวตติดตัวมาเพื่อเปลี่ยนในโรงเรียน และมีบางคนเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวตเข้าห้องเรียน จึงถูกครูนำตัวไปทำความเข้าใจที่ฝ่ายปกครอง แต่ส่วนใหญ่ยังคงแต่งเครื่องแบบเข้าเรียน

เด็ก ส.ก.รังสิตจัดเต็มชูสามนิ้ว

ที่ ร.ร.สวนกุหลาบรังสิต ตั้งแต่ช่วงเช้ามีกลุ่มนักเรียนนัดกันแต่งชุดไปรเวตทยอยเดินเข้าโรงเรียนหลายสิบคน บางคนพอมาถึงหน้าโรงเรียนได้แสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว บางคนชูแผ่นป้ายข้อความ อาทิ “ไม่ว่าคุณจะใส่ชุดนักเรียนหรือไปรเวต ทุกคนมีเสรีภาพ” “แต่งกายเสรี ยกเลิกเครื่องแบบ” จากนั้นแกนนำนักเรียนมีการปราศรัยถึงปัญหาของชุดนักเรียน ที่ส่งผลเสีย เช่น การกดทับอำนาจบนเนื้อตัวร่างกายของนักเรียน การปิดกั้นอัตลักษณ์ส่วนบุคคล การกำหนด ให้นักเรียนเป็นได้แค่เพศหญิง เพศชาย การสร้างความเชื่อผิดๆเรื่องความเหลื่อมล้ำในสังคมว่าชุดนักเรียนทำให้คนเท่าเทียมกัน ระหว่างนั้นนายภาสกร โชคขจิตสัมพันธ์ รอง ผอ.ร.ร.สวนกุหลาบรังสิต เดินเข้ามาพูดคุยกับกลุ่มนักเรียนดังกล่าว พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น นายภาสกรกล่าวว่า การเรียกร้องสิทธิพอเข้าใจได้ แต่เมื่อมาอยู่ในโรงเรียนที่มีกฎอยู่ก็ควรปฏิบัติตามกฎ เพราะจะทำให้เกิดเงื่อนไขอื่นตามมา

นักเรียนเลวติดป้าย “บอกลาเครื่องแบบ”

ส่วนบรรยากาศบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลว 3 คน นำไวนิลผืนใหญ่ ไปติดที่แผงเหล็กกั้นรอบๆอนุสาวรีย์ฯ ระบุว่า “เล็บกู ผมกู ร่างกายกู แต่ไปหนักหัวครู # 1 ธันวา บอกลา เครื่องแบบ” หนึ่งในตัวแทนกลุ่มให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่ตี 4 ได้นำไวนิลตระเวนไปติดตามจุดสำคัญ ทั้งที่กระทรวงศึกษาธิการ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ อโศก ศาลาแดง สะพานลอยแยกปทุมวัน และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่าย เคารพในสิทธิเสรีภาพของนักเรียนในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ใช่การบังคับเหมือนนักเรียนเป็นตุ๊กตากระดาษ การอ้างว่าเครื่องแบบเป็นการลดความเหลื่อมล้ำนั้น จริงๆควรไปแก้ที่ต้นตอเศรษฐกิจมากกว่า การแต่งชุด ไปรเวตยังช่วยลดอำนาจครู ที่มักใช้อำนาจบังคับเด็ก

นักเรียนสามเสนบอกต้องทดลองถึงรู้

ที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ตั้งแต่เวลา 06.30 น. มีนักเรียนชายและหญิงจำนวนหนึ่งแต่งชุดไปรเวตมาโรงเรียน ทั้งนี้ ไม่มีการต่อต้านจากครูในโรงเรียน ขณะที่นายบุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต ผอ.โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ออกมาต้อนรับนักเรียนในวันแรกของการเปิดเทอมด้วย ขณะที่นักเรียนชายชั้น ม.5 ที่แต่งชุดไปรเวตมาเรียน กล่าวว่า เพื่อนในห้องเรียน นัดกันแต่งชุดไปรเวตมาเรียนจำนวนหนึ่ง มองว่าการแต่งชุดไปรเวตก็เหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์ หากเราไม่เริ่มทดลองทำจะรู้ได้อย่างไรว่าผลสำเร็จดีหรือไม่ดี เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่จะต้องมานั่งถกเถียงกัน เพราะความเหลื่อมล้ำมันมีอยู่แล้ว ไม่ใช่ แค่เรื่องการแต่งกายเท่านั้น ขอย้ำว่าการแต่งชุดไปรเวต คือการทดลอง เพื่อจะได้รู้ว่าระเบียบเครื่องแต่งกายที่ล้าหลังต้องมีการเปลี่ยนแปลง

หอวังเรียกผู้ปกครองรับตัวกลับ

ส่วนบรรยากาศ ที่โรงเรียนหอวัง มีนักเรียนเดินทางมาโรงเรียนตั้งแต่เวลา 05.30 น. มีนายประวัติ สุทธิประภา ผอ.โรงเรียน นำคณะครูมายืนรอรับ ทั้งนี้ นักเรียนส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดนักเรียน มีเพียง 1 คน ที่สวมชุดไปรเวตมาจากบ้าน และอีกประมาณ 10 คน แต่งชุดนักเรียนมาแล้วมาเปลี่ยนเป็นชุดไปรเวต ภายหลัง จากนั้นเดินมารวมกลุ่มกัน โดยครูได้เชิญตัว เข้าไปในห้องกลุ่มบริหารงานบุคคล เพื่อสอบถามและ ทำความเข้าใจ จากนั้นให้ผู้ปกครองมารับตัวกลับบ้าน ทั้งนี้ ช่วงเวลา 08.00 น. ระหว่างยืนเข้าแถวเคารพ ธงชาติ มีนักเรียนชาย 2 คน ยกมือแสดงสัญลักษณ์ ชู 3 นิ้ว นายประวัติกล่าวว่า ทางโรงเรียนไม่ปิดกั้น การแสดงออกของนักเรียน ไม่มีการไล่ออกและยังคง ให้เรียนได้ตามปกติ แต่หากใครแต่งชุดไปรเวตมา ต้องทำความเข้าใจกันถึงระเบียบของทางโรงเรียน

แก่นนครฯมาเต็มทุกระดับชั้น

ขณะที่บรรยากาศตามโรงเรียนในต่างจังหวัด ที่ ร.ร.แก่นนครวิทยาลัย อ.เมืองขอนแก่น มีกลุ่มนักเรียนชาย-หญิงตั้งแต่ชั้น ม. 1-6 แต่งชุดไปรเวตรวมตัวกันกว่า 50 คน ส่วนใหญ่ใส่กางเกงขายาวสะพายกระเป๋า ชูสมุดเรียน บัตรนักเรียน บางคนชู 3 นิ้ว เดินเข้าโรงเรียน มีนายนพดล สิงหศรี รอง ผอ. ร.ร.แก่นนครวิทยาลัย นำคณะครูฝ่ายปกครองคอย สังเกตการณ์ดูความเรียบร้อย และเข้าพูดคุยกับกลุ่มนักเรียนดังกล่าว เรียกให้เข้าไปพบพูดคุยกับนายศักดาเดช ทาซ้าย ผอ.ร.ร.แก่นนครวิทยาลัย ที่ห้องโสตทัศนศึกษา ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟัง.

สุรนารีห้ามเด็กแต่งไปรเวตเข้าโรงเรียน

ที่โรงเรียนสุรนารีวิทยา โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่ช่วงเช้ามีนักเรียนหญิงทยอย เดินเข้าโรงเรียน ส่วนใหญ่แต่งกายชุดนักเรียนปกติ มีนายวิลาศ ดวงเงิน ผอ.ร.ร.สุรนารีวิทยา นำคณะครู ยืนรับหน้าประตูทางเข้า ขณะที่กลุ่มนักเรียนหญิงในนาม “Korat No เผด็จการ” หลายคนแต่งชุด ไปรเวต สวมเสื้อยืดทั้งแขนสั้น แขนยาว กางเกงขายาว สวมรองเท้าผ้าใบ สวมรองเท้าแตะแบบหูหนีบ และกระเป๋าสะพายแบบผ้า (ย่าม) เมื่อถึงจุดคัดกรองถูกอาจารย์ผู้หญิงนำตัวไปพูดคุยที่บริเวณใต้ตึก 9 ชั้น ก่อนมีการเข้าแถวเคารพธงชาติ ทั้งนี้ทางโรงเรียน ไม่อนุญาตให้เด็กกลุ่มนี้เข้าไปภายในโรงเรียน และที่ ร.ร.อุดรพิทยานุกูล จ.อุดรธานี มีเด็กนักเรียนบางส่วน แต่งชุดไปรเวตยืนเคารพธงชาติ และชู 3 นิ้ว โดยมี คณะครูคอยชี้แจงเรื่องกฎระเบียบ แต่ไม่ได้เข้าไปห้ามการแสดงออก

สตูล-ชลบุรีแต่งชุดนักเรียนปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้หลายโรงเรียนดังทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ จะมีนักเรียนแต่งชุดไปรเวตมาเรียน แต่อีกหลายจังหวัดนักเรียนยังคงกล้าๆกลัวๆ อาทิ ที่ ร.ร.พิมานพิทยาสรรค์ จ.สตูล ก่อนหน้านี้มีกลุ่มนักเรียนออกมาแสดงออกด้วยการชู 3 นิ้ว แต่ปรากฏว่านักเรียนส่วนใหญ่ยังคงใส่ชุดเครื่องแบบนักเรียนตามปกติ ไม่มีการแต่งชุดไปรเวตตามประกาศของกลุ่มนักเรียนเลว เช่นเดียวกับที่ ร.ร.ชลราษฎรอำรุง หรือชลชาย จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวเฝ้าสังเกตการณ์ดู ไม่พบมีนักเรียนแต่งชุดไปรเวตมาเรียน แต่มีผู้บริหาร และอาจารย์ฝ่ายปกครองจับตาตรวจสอบเข้ม จากการสอบถามผู้ปกครองที่มาส่งระบุว่าได้ยินข่าวทางทีวีอยู่บ้าง แต่ถ้าลูกแต่งชุดไปรเวตมาก็ไม่ชอบ เพราะยังเป็นนักเรียนอยู่ ไม่สมควรไปยุ่งเรื่องอื่น ให้ตั้งใจเรียนดีกว่า รวมถึง ร.ร.สตรีนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ และ ร.ร.เฉลิมขวัญสตรี จ.พิษณุโลก ไม่พบว่ามีนักเรียนแต่งชุดไปรเวตเช่นกัน

เชียงใหม่-อุทัยฯไม่มีแหกคอก

ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังกลุ่มงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ ยืนยันว่ายังไม่มีรายงานจากโรงเรียนทั้งของรัฐและเอกชนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่เพจ “นักเรียนล้านนา” ซึ่งเป็นช่องทางสื่อสารและแสดงออกทางการเมืองของกลุ่มนักเรียนมัธยมใน จ.เชียงใหม่ โพสต์เชิญชวนเพื่อนนักเรียนให้เลิกแต่งชุดนักเรียน โดยมีเพจ “ประชาคมมอชอ” โพสต์ข้อความสนับสนุน พร้อมเรียกร้องให้ครูอาจารย์รับฟังด้วยเหตุผล ขณะที่ จ.อุทัยธานี ร.ร.อุทัยวิทยาคม และ ร.ร.หนองฉางวิทยาคม โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ 2 โรงเรียนขนาดใหญ่ของจังหวัด ไม่ปรากฏหรือพบว่ามีนักเรียนแต่งชุดไปรเวตมาโรงเรียน

นักเรียนเลวคืนชุดนักเรียนหน้ากระทรวง

ต่อมาเวลา 16.00 น. กลุ่มนักเรียนเลวนัดหมายจัดกิจกรรม “1 ธันวา บอกลาเครื่องแบบ” ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ มีนักเรียนเข้าร่วมทั้งชุดนักเรียนและชุดไปรเวต สำหรับเด็กที่สวมชุดนักเรียนมาทางผู้จัดกิจกรรมจะแจกสติกเกอร์ขนาดใหญ่ให้ปิดชื่อโรงเรียน พร้อมแจกสายรัดข้อมือ เพื่อแบ่งอายุผู้ร่วมชุมนุม แกนนำกลุ่มนักเรียนเลวชี้แจงกับผู้มาชุมนุมว่า ทางกลุ่มไม่ได้ต้องการให้ยกเลิกเครื่องแบบนักเรียน แต่ต้องการให้ยกเลิกการบังคับการใส่เครื่องแบบนักเรียน ให้ทุกคนเลือกแต่งกายได้เสรี ให้เราเลือกใส่ทั้งชุดนักเรียน ชุดพละ ชุดไปรเวต วันใดก็ได้ พร้อมกับเชิญชวนนักเรียนที่นำชุดนักเรียนมาด้วย นำไปแขวนไว้ที่หน้าประตูกระทรวงศึกษาธิการ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าขอคืนชุดนักเรียนกลับไปให้กระทรวงศึกษาฯและแขวนป้ายผ้าข้อความว่า “ชุดนักเรียนไม่ปลอดภัย”

แค่ทำให้ตื่นรู้ไม่หวังล้มล้างกฎ

กระทั่งเวลา 17.00 น. แกนนำนักเรียนเลวนำโต๊ะนักเรียน 4 ตัวมาต่อกัน ดัดแปลงเป็นเวทีปราศรัย ตัวแทนกลุ่มนักเรียนเลวกล่าวว่า วันนี้มีนักเรียนส่วนหนึ่งแต่งชุดไปรเวตไปโรงเรียน เป็นการแสดงพลังสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมไทย พวกเราอยากเติบโตอย่างงดงามตามแนวทางของเรา ไม่ใช่แนวทางที่ใครบอก ทุกคนมีสิทธิเลือกการแต่งกาย ไม่ว่าจะแต่งชุดอะไรก็ไม่ได้ส่งผลให้เรียนดีขึ้น หรือแย่ลง พวกเราไม่คาดหวังว่าจะผลักดันให้กฎระเบียบต่างๆให้หายไปทันที แต่คาดหวังให้ผู้คนตื่นรู้ให้กระแสการถกเถียงเรื่องชุดนักเรียนกลับมาอีกครั้ง ให้กระทรวง ผู้บริหาร ครู หันมาแก้ปัญหานี้อีกครั้ง โดยคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นคนของนักเรียนด้วย

นักเรียนบดินทร์ฯโวยถูกขู่ไม่ให้จบ

จากนั้นนักเรียนที่ร่วมชุมนุมพากันนำผืนผ้าสีรุ้งไปปิดกำแพงด้านหน้ากระทรวงศึกษาฯ เป็นแนวยาวตั้งแต่แยกมิสกวันไปจนถึงฝั่งคลองผดุงกรุงเกษม เปรียบเป็นการแต่งแต้มสีรุ้งบนกำแพงของกระทรวงฯที่เป็นสีขาวจืดชืด ให้มีสีสันรับฟังความเห็นที่หลากหลาย ระหว่างติดมีการเปิดเพลงประวัติศาสตร์ของศิลปินสาวชื่อดัง “คริสติน่า อากีลาร์” ขณะที่หนึ่งในตัวแทนกลุ่มบดินทร์ไม่อินเผด็จการ กล่าวปราศรัยว่า นักเรียนบดินทร์ฯบางคนที่แต่งชุดไปรเวตเข้าโรงเรียนถูกขังในเรือนไทย 3-4 ชั่วโมง ไม่ทราบว่าเป็นนักโทษหรือนักเรียน ทั้งที่เป็นร่างกายและสิทธิของเรา ทั้งยังมีครูมาขู่ด้วยว่าก่อนจบอย่าทำอะไรเกินตัว เพราะอาจไม่จบ จึงขอบอกกลับถ้าเราไม่จบ ครูก็จบแน่

แม่พาลูกแจ้งดำเนินคดีครูหอวัง

เวลา 09.14 น. ที่ สน.พหลโยธิน นางนรรัตน์ ทัพพะรังสี นำบุตรชาย นักเรียนโรงเรียนหอวัง เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.อนุชา เปลี่ยนสมัย รอง สว. (สอบสวน) สน.พหลโยธิน ให้ดำเนินคดีกับรองผอ.ร.ร.หอวัง ข้อหาละเมิดสิทธินักเรียน นางนรรัตน์กล่าวว่า พาลูกชายแต่งชุดไปรเวตมาส่งที่โรงเรียนหอวัง แต่ได้รับแจ้งจากรอง ผอ.ว่าไม่สามารถ เข้าห้องเรียนได้ หากไม่สวมเครื่องแบบนักเรียน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้รับแจ้งจาก ผอ.ร.ร.หอวังว่าสามารถเข้าเรียนได้ แต่ต้องได้รับการตักเตือนก่อน ไม่ได้ติดใจอะไรหากจะมีการตักเตือนหรือตัดคะแนน แต่ไม่ใช่การไม่อนุญาตให้เด็กเข้าห้องเรียนเช่นนี้ ทำให้ลูกชายถูกลิดรอนสิทธิ์ จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีถึงที่สุด เหตุที่สนับสนุนให้ลูกใส่ชุดไปรเวต เพราะมองว่าการใส่ชุดนักเรียนไม่ได้ส่งผลให้เด็กเป็นคนดีมากขึ้น การแต่งกายเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้กระทบการเรียน และการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำควรแก้ที่รากฐานของปัญหา ไม่ใช่เครื่องแต่งกาย

สพฐ.จดสถิติแต่งไปรเวตทั่วประเทศ

นายนิพนธ์ ก้องเวหา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า นายอัมพร พินะสา เลขาธิการ กพฐ.มอบหมายให้มารับฟังข้อเรียกร้องของนักเรียน เพื่อนำไปพิจารณา นายอัมพรย้ำว่าโรงเรียนต้องเป็นสถานที่ปลอดภัยกับนักเรียน ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับรายงานจากโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศว่า มีนักเรียนแต่งชุดไปรเวตมาโรงเรียน ประมาณ 580 คน

“ณัฏฐพล” ฮึ่มต้องอยู่ในระเบียบ

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ระเบียบเครื่องแต่งกายของกระทรวงศึกษาฯมีอยู่แล้ว ถ้าแต่งชุดอื่นมาโรงเรียนถือว่าผิดระเบียบ เพราะยังไม่มีการแก้ไขระเบียบ รวมถึงเรื่องทรงผมด้วย จึงต้องใช้ระเบียบเดิมไปก่อน เชื่อว่าทางโรงเรียนจะมีมาตรการ และต้องพูดคุยกับนักเรียนว่าเราอยู่ในสังคมต้องมีระเบียบวินัย เมื่อกฎระเบียบยังไม่เปลี่ยนต้องปฏิบัติตาม หากไม่ทำตามจะมีผลกระทบ สำหรับบทลงโทษแต่ละโรงเรียนมีมาตรการแตกต่างกัน แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นไล่ออก เรื่องที่เกิดขึ้นไม่โทษนักเรียน แต่แกนนำคนที่คิดเรื่องนี้ใจร้าย เอานักเรียนมายืนเผชิญหน้ากับสถานศึกษา แต่เวลาชุมนุมกลับไม่เห็นคนที่อยู่เบื้องหลัง คนที่ได้รับผลกระทบคือนักเรียน ในฐานะ รมว.ศึกษาฯมีหน้าที่รักษากฎระเบียบของกระทรวง กำลังพิจารณาความเหมาะสมเรื่องการแต่งกาย ยังติดปัญหาให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวตมาเรียนทั้งประเทศไม่ได้ เพราะอาจสร้างปัญหาให้กับครูและผู้ปกครอง ว่าชุดที่นักเรียนใส่มีความเหมาะสมแล้วหรือไม่ เพราะชุดอาจโป๊ หรือไม่เหมาะสมกับสถานที่ แต่เป็นไปได้ว่าในอนาคตจะให้แต่งชุดไปรเวตได้ 1 ครั้งต่อเดือน หรือ 1 ครั้งต่อเทอม ยืนยันว่าทุกปัญหาพร้อมรับฟังและพยายามแก้ไข มั่นใจว่ามีนักเรียนและผู้ปกครองมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ยังสบายใจที่จะใส่ชุดนักเรียน

ม็อบยกเลิกนัดหน้าศาลรัฐธรรมนูญ

วันเดียวกัน เวลา 15.25 น. คณะราษฎรประกาศ ผ่านเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม เปลี่ยนแปลงการนัดชุมนุมในวันที่ 2 ธ.ค. จากเดิมนัดรวมตัว ฟังการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม อาศัยบ้านพักในค่ายทหาร ที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนเป็นชุมนุมที่ห้าแยกลาดพร้าว เวลา 16.00 น. ระบุว่า วันที่ 2 ธ.ค. ถือเป็นอีกหนึ่งวันในหน้าประวัติศาสตร์สำคัญ ชี้ชะตาการเมืองไทยจะเดินไปทิศทางใด จึงขอเรียกระดมพี่น้องราษฎรทั้งหลาย ออกมากัน ทุกคนเจอกัน

“โตโต้” แจงเหตุยุติบทบาทการ์ด

ขณะที่นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดมวลชนอาสาราษฎร หรือ wevo โพสต์ลง เฟซบุ๊ก ชี้แจงกรณีประกาศลดบทบาทการทำหน้าที่การ์ดม็อบราษฎร ระบุว่า ข้อเท็จจริงการใช้ความรุนแรงจากการ์ดอาสา (ส่วนน้อยบางกลุ่ม) ในพื้นที่ชุมนุมเกิดขึ้นจริง การสื่อสารผ่านทุกช่องทางไปถึงขบวนการนำคงมากพอที่จะทำให้ตระหนักถึงภัยที่กำลังมาถึงในรูปแบบของ “มิตร” เมื่อใครก็ได้สามารถรวมกลุ่มกันขึ้นมาเป็นการ์ด แง่หนึ่งคือเรื่องดี อีกแง่หนึ่ง คือความอ่อนแอด้านความมั่นคงของขบวนการ ที่ง่ายต่อการแทรกซึม ที่เห็นเค้าลางนี้มาสักระยะ เพียงแต่ไม่สามารถจัดการเชิงระบบได้ ถ้าเขาจะทำลายขบวน การการต่อสู้ จะทำลายการ์ดเป็นกลุ่มแรก เรื่องที่รับไม่ได้คือเหตุที่เกิดบริเวณหน้า ร.11 ทม.รอ. เวลานี้ทราบตัวผู้ก่อเหตุมีหลักฐานชัดเจน ทั้งภาพนิ่ง และคลิปวิดีโอจากกล้องที่ติดบนหมวกของทีม wevo เตรียมนัดทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญาให้ถึงที่สุด

ห่วงมีแทรกซึมทำลายชอบธรรม

นายปิยรัฐกล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว จำเป็นต้องยุติการทำกิจกรรมของ wevo ทั้งหมดโดยไม่มีกำหนด เพื่อความปลอดภัยจากการตกเป็นเป้าของกลุ่มคนไม่หวังดี หรือผู้ที่ประสงค์ใช้ความขัดแย้งของการ์ดมาเป็นเครื่องมือทำลายความชอบธรรมของม็อบ จากนี้จะพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของ wevo ให้พร้อมกับภารกิจใหม่ เพิ่มบทบาทกลุ่มจาก “การ์ด” ให้กลายเป็น “นักปฏิบัติการเฉพาะกิจในภารกิจพิเศษ” แต่ยืนยันว่าพวกเราจะไม่ทิ้งพี่น้องไปไหนแน่นอน ทั้งนี้ ผู้ที่ก่อเหตุเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ไม่ใช่กลุ่มอาชีวะทั้งหมด ไม่เกี่ยวกับกลุ่มฟันเฟืองเพื่อประชาธิปไตย

“ไมค์” เรียกการ์ดจัดระเบียบใหม่

ด้านนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า “เพื่อให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในขบวนการต่อสู้กับเผด็จการ ขอให้การ์ดทุกกลุ่มส่งรายชื่อการ์ดของกลุ่มตัวเองเพื่อขึ้นทะเบียนการ์ดกับคณะทำงานกลาง โดยมีผมเป็นผู้รับผิดชอบ และแบ่งหน้าที่รับผิดชอบที่ชัดเจนในทุกการชุมนุม”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในระยะหลังที่ม็อบเริ่มจุดติด มีกลุ่มบุคคลตั้งกลุ่มเข้ามาเป็นการ์ดอาสาหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มอาชีวะ ทำให้แต่ละกลุ่มล้วนต่างอยากมีบทบาท โดยเฉพาะเวลาเข้าปะทะ แต่ถูกทีม wevo เบรกหลายครั้ง จนบานปลายเป็นความขัดแย้ง

ศาลรัฐธรรมนูญห้ามคนไม่เกี่ยวฟังคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารชี้แจงกรณีนัดอ่านคำวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 หรือไม่ เพื่อรักษาความเรียบร้อยในบริเวณที่ทำการศาล เพื่อคุ้มครองประโยชน์สาธารณะ และเพื่อให้การดำเนินกระบวนการพิจารณาของศาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ศาลจึงมีคำสั่งกำหนดบุคคลให้เฉพาะผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้รับมอบฉันทะ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่เท่านั้นอยู่ในห้องพิจารณาคดี และมีการออกประกาศศาลรัฐธรรมนูญเรื่องอาณาบริเวณหรือพื้นที่ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญ และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติงาน รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย

ฝ่ายความมั่นคงแจ้งมีสิ่งบอกเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้การออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยคดีอื่น ไม่เคยมีการออกประกาศในลักษณะนี้มาก่อน ประกาศศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาครั้งนี้ยังระบุเหตุผลด้วยว่าหน่วยงานความมั่นคงได้แจ้งต่อสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีสถานการณ์ที่มีสิ่งบอกเหตุ หรือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าอาจมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย และความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้น เพื่อให้กระบวนการพิจารณาของศาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจึงอาศัยอำนาจตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 38 วรรคสอง ประกอบข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ ข้อ 4 ข้อ 5 และข้อ 8 (8) และระเบียบศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในที่ทำการศาล ข้อ 16 ประธานศาลรัฐธรรมนูญโดยความเห็นของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจึงออกประกาศดังกล่าว โดยให้ประกาศนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. เวลา 00.01-23.59 น. ขณะเดียวกัน เว็บไซต์สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ มีข้อความพร้อมลิงก์สำหรับรับชมการถ่ายทอดสดการอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในคดีนี้ ผ่านยูทูบแชนแนล “สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ”

นายกฯชวนคนไทยสวดมนต์

ช่วงเช้าที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำคณะผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ประชาสัมพันธ์งานจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล ทุกวันเสาร์ เนื่องในโอกาสวันชาติและวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และวัดตามจังหวัดต่างๆ พร้อมนำชมนิทรรศการพระบารมีปกเกล้า ร.9 (คนไทยกับในหลวง) โดยนายกฯร่วมรับฟังขับเสภาเชิญชวนร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์จากศิลปิน และกล่าวขอบคุณ พศ. และมหาเถรสมาคม (มส.) ที่จัดกิจกรรมดังกล่าว การสวดมนต์เป็นการสร้างความเป็นสิริมงคล สร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ทั้งยังแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

ยกข้อดีสวมใส่เครื่องแบบ นร.

จากนั้นคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ นำคณะเข้าพบนายกฯ นำเยี่ยมชมนิทรรศการพระบารมี และนิทรรศการโครงการพัฒนา สื่อเสมือนจริง (AR) เพื่อการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และโครงการพัฒนานวัตกรรมสื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ทั้งนี้นายกฯยังพูดคุยกับเด็กนักเรียนโรงเรียนอนุบาล สามเสน โรงเรียนพญาไท และนักศึกษาจากมหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวย้ำถึงความสำคัญ การศึกษาประวัติศาสตร์ ให้เยาวชนรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติความเป็นมา เกิดความรักและความกตัญญูต่อชาติ ในช่วงท้ายนายกฯกล่าวถึงเครื่องแบบนักเรียนว่า ส่วนหนึ่งช่วยทำให้น้องๆนักเรียนเป็นที่สังเกตง่าย หากเกิดเหตุอันตรายในที่สาธารณะ และยังสิ้นเปลืองน้อยกว่าการแต่งชุดไปรเวตที่อาจต้องมีหลายชุด จากนั้นร่วมถ่ายเซลฟี่กับนักเรียน พร้อมชูมือเป็นสัญลักษณ์ไอเลิฟยู บอกให้สู้ๆ

ของขึ้นนิดๆถูกจี้ถามเรื่องคดี

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังประชุม ครม. ถึงการส่งตัวแทนไปฟังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 2 ธ.ค.ว่า ฝ่ายกฎหมายคงไปฟังกัน ควรสนใจว่าจะตัดสินอย่างไรมากกว่า อยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ แยกหน้าที่กันให้ดีหน่อย เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม วันที่ 2 ธ.ค. นอกจากตรวจราชการติดตามงาน ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับตัวเองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบอย่างมีอารมณ์เล็กน้อยว่า มันเกี่ยวอะไรกัน ที่ผ่านมามีคดีมีการตรวจสอบก็ชี้แจงไป ผิดคือผิด ไม่ผิดก็ไม่ผิด จบ เหมือนคดีทั่วไป เคารพคำตัดสิน วางกำหนดการไว้ล่วงหน้าไว้ 2-3 อาทิตย์แล้ว ทำงานทั้งวันไม่เคยหยุดทำงาน

“บิ๊กป้อม” ไม่สนปัญหาพรรคอื่น

เมื่อเวลา 08.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พร้อมแกนนำหลายคนลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย มีแนวโน้มจะชวนให้มาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ว่า เรื่องของเขา เมื่อถามย้ำว่าการลาออกดังกล่าวเป็นเกมอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยบริเวณศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 2 ธ.ค. ที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีบ้านพักหลวงในค่ายทหารของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ว่าเป็นเรื่องกระบวนการทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องการชุมนุมของกลุ่มราษฎรมีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแล และพื้นที่ศาลไม่ควรไปทำอะไร

ปัดเตรียมรายชื่อนายกฯสำรอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไม่มีเหตุไม่คาดฝันใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีหรอก ไม่มี และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไปอยู่ในที่ของศาลอยู่แล้ว จะอยู่ดูแลข้างนอก ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายกฯบ้างหรือไม่ถึงคำตัดสินที่จะออกมา มีความกังวลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ได้กังวล เป็นเรื่องของศาล เมื่อถามย้ำว่าพรรคพลังประชารัฐได้เตรียมรายชื่อนายกฯสำรองไว้หรือไม่ พล.อ.ประวิตรรีบหันมาตอบผู้สื่อข่าวทันทีว่า “ไม่มี”

“ธีรัจชัย” ขอตุลาการเป็นเสาหลัก

ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงว่า กรณีนายกฯใช้บ้านพัก ทหาร รัฐธรรมนูญมาตรา 184 บอกว่า ห้ามไม่ให้รับเงินหรือประโยชน์อื่นใด คือห้ามรับแม้จะมีสิทธิ์รับก็ตาม การที่ ทบ.มาแก้ระเบียบในปี 63 ไม่ได้ช่วยให้พ้นจากบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญได้เลย ไม่สามารถนำกฎหมายที่ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญมาทำให้พ้นผิดได้ เราเคยมีการตัดสินคดีนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกฯ ทำกับข้าวออกทีวี ต้องพ้นจากนายกฯ ภายหลังมีบางคนบอกว่าอาจจะคลาดเคลื่อน อย่าเกิดขึ้นอีกเลย อยากให้องค์กรที่เกี่ยวเนื่องกับตุลาการเป็นหลักของบ้านเมืองได้ ตัดสินอย่างตรงไปตรงมา เราเคารพการตัดสินในฐานะที่เป็นองค์กรชี้ขาด แต่ขอให้ คำนึงถึงการเป็นจุดยืนหลักของประเทศ อย่าให้เป็นที่สงสัยหรือวิจารณ์ได้ นักกฎหมาย นักนิติศาสตร์ กำลังจดจ้องถึงเหตุผลจะเขียนออกมาอย่างไร สิ่งนี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า เหตุผลชอบธรรมตามกฎหมายหรือไม่ ตรงไปตรงมาหรือไม่

บ่นเสียดาย “หญิงหน่อย” ไขก๊อก

ที่พรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรค พร้อมแกนนำหลายคน ยื่นลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคว่า คุณหญิงสุดารัตน์เป็นบุคลากรสำคัญที่ทุ่มเททำงานให้พรรคมาตลอด การลาออกครั้งนี้ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับพรรคเพื่อไทย แต่ถึงอย่างไรพรรคยังต้องเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อไป เราจะใช้บุคลากรที่มีทั้งหมดทำหน้าที่เป็นปากเป็นเสียง เป็นตัวแทนประชาชนที่เลือกเรามาอย่างดีที่สุด เมื่อถามว่าการลาออกครั้งนี้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเกิดจากความขัดแย้งภายใน นายประเสริฐตอบว่า การลาออกครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง ในอนาคต ยังคงสามารถทำงานการเมืองร่วมกันได้

รับอาจเกิดจากปัญหาในพรรค

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ยังไม่ทราบเหตุผลการตัดสินใจลาออกจากพรรคของทีมคุณหญิงสุดารัตน์ และไม่ทราบว่าจะไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่ ตอนนี้ที่มีความชัดเจนคือการแยกกันทำงาน แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าการแยกกันทำงานครั้งนี้เป็นปัจจัยจากรัฐธรรมนูญ หรือยุทธศาสตร์ หรือมีปัญหาสั่นคลอนในพรรคเพื่อไทย สามารถมองได้ทั้ง 2 แบบ แต่คิดว่ากลุ่มคนที่ลาออกไปยังคงมีอุดมการณ์เดียวกับพรรคเพื่อไทย เพียงแต่อาจมีวิธีการทำงานที่ต่างกัน ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ที่เป็นหนึ่งในแคนดิเดต นายกฯลาออกไป ยังมีข้อสงสัยในข้อกฎหมายว่าจะยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯที่พรรคยื่นไว้ต่อ กกต.หรือไม่ แต่หากเทียบเคียงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จึงคาดว่าคุณหญิงสุดารัตน์น่าจะยังคงอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรค แต่พรรคไม่ได้เตรียมพร้อมสถานการณ์การอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 2 ธ.ค.นี้

เผย “เจ๊หน่อย” ถูกริบอำนาจเหี้ยน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุการตัดสินใจลาออกของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รวมทั้งแกนนำอย่างนายโภคิน พลกุล นายวัฒนา เมืองสุข และนายพงศกร อรรณนพพร เพราะแนวทางการทำงานไม่ตรงกับกลุ่มผู้บริหารพรรคชุดใหม่ เป็นปัญหามาต่อเนื่องตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมทั้งการแต่งตั้งกรรมการอีกหลายชุด ปรากฏว่าทีมงานสายตรงของคุณหญิงสุดารัตน์ ถูกโละทิ้งแทบไม่เหลือ ที่สำคัญบทบาทการนำในพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง โดยคณะกรรมการชุดที่มีอำนาจสูงสุด หรือ “โปลิตบูโร” ไม่มีคุณหญิงสุดารัตน์หรือทีมงานเข้าไปเกี่ยวข้อง คณะกรรมการชุดดังกล่าวมีเพียง 7-8 คน นำโดย “คุณแจ๋ว” นางจุฑารัตน์ เมนะเศวต เพื่อนสนิทและเลขาฯส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด

“บิ๊กบี้” เมินทัวร์ลงภาพ ทบ.ไอโอ

ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกรณีที่โซเชียลมีเดียยังคงเผยแพร่ภาพกำลังพลของ ทบ. เข้าอบรมการทำปฏิบัติการข่าวสาร (ไอโอ) ว่า เป็นธรรมชาติของโลกโซเชียล ทุกคนมีโอกาสใช้ได้ทั่วไป การนำเสนออาจเป็นแค่ข้อมูลบางส่วน ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ ห้ามความคิดคนไม่ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณรงค์พันธ์ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ในเรื่องการเมือง รวมถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยการใช้บ้านพักทหารของนายกฯว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดย พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบเพียงว่า จะตอบคำถามงานในหน้าที่เท่านั้น

“ช่อ” แฉวงจรอุบาทว์ปั่นไอโอ

ที่อาคารไทยซัมมิท น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า แถลงข่าว “เปิดวงจรอุบาทว์ไอโอ ผู้มูฟออนเป็นวงกลม” ว่า เวลานี้มีกระบวนการของกองทัพผ่านแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ บรอดแคสและฟรีเมสเซนเจอร์ ปั่นแท็กขึ้นมาในทวิตเตอร์ โดยกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์มีถึง 17,562 บัญชี มี 600 รายชื่อ มียศทหาร ตำแหน่ง และหน่วยงานชัดเจน บางคนเปิดหน้าเป็นทหารชัด เช่น คนใช้ชื่อ “เฮียตือหนามเป้า” เป็นทหารยศนายพันคนหนึ่ง โพสต์ข้อความ ภาพ และแฮชแท็กเดียวกันกว่า 1,000 ครั้ง ยังพบว่ามีบุคคลที่เป็นนักธุรกิจอยู่เบื้องหลังแอปพลิเคชันที่ใช้ในการปฏิบัติข้อมูลข่าวสารด้วย เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าไปอบรมเป็นวิทยากรจิตอาสา เป็นคนที่เข้านอกออกในกองทัพได้ นักธุรกิจคนนี้เป็นเจ้าของบริษัท 20 แห่ง เคยถูก ก.ล.ต.เตือนว่าห้ามให้ขายหุ้นกู้ให้กับประชาชน แต่ฝ่าฝืนคำสั่งจนต้องถูก ก.ล.ต.ปรับ ถ้าท่านยังไม่หยุด เราก็จะไม่หยุดจนกว่ากองทัพจะเป็นประชาธิปไตยที่รบกับศัตรูของประชาชน