หลักไมล์บอกเส้นทาง
หลักชัยคืออะไรล่ะ...
ที่เห็นและเป็นอยู่ในบ้านนี้เมืองนี้ นอกจากรอว่ารัฐบาลจะปรับ ครม. ออกมาแล้วหน้าตาจะเป็นอย่างไร รับกันได้ไหม
กำลังรอคำตอบกันอยู่...
แต่โน่นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยบรรดานักศึกษา-ประชาชนเขาบอกลายแทง 3 ประการ ให้แล้วว่าสิ่งที่รัฐบาลพึงต้องนำไปปฏิบัติให้เวลา 2 สัปดาห์ไปตัดสินใจ
1.หยุดคุกคามประชาชน 2.ยุบสภา 3.แก้ไขรัฐธรรมนูญ
แต่ละเรื่องล้วนเป็น “ยาขม” แค่อมๆไม่ต้องกลืนเข้าคอก็ขื่นเหลือทนแล้ว นั่นเป็นแค่หอกที่ยื่นให้จนกว่าถึงเวลาที่จะทิ่มแทงใส่กัน
ดูๆแล้วคงไม่แคล้วแน่!
ถอดบทเรียนจากประวัติศาสตร์การเมืองไทยเมื่อเข้ามาสู่ “จุดอับ” ในความเป็นไปแล้วเมื่อผู้ปกครองกับผู้ถูกปกครองหันหลังให้กัน
แม้ไม่อยากให้เกิด แต่ก็มันคงหนีไม่พ้นแล้วกระมัง...
ฟากฝั่งรัฐบาลกำลังชุลมุนชุลเกเพื่อวางสูตรในการปรับ ครม. และการหาบุคคลเข้าไปสู่อำนาจ
ในความต่างกันอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นคือ นักการเมืองโหยหาที่มุ่งหวังจะเป็นรัฐมนตรี แต่ที่ไม่ใช่ฟากการเมืองกลับหลีกหนีด้วยเหตุและผลเพื่อบอกปฏิเสธ
นั่นแหละคือภาพสะท้อนที่เป็นจริง
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องประสบพบเจอ เพราะไม่ใช่การบ้านธรรมดาๆ
มันเป็นโจทย์ใหญ่ที่เดิมพันว่าด้วยเรื่องเศรษฐกิจที่จะต้องมีทีมงานมือฉมัง เพราะภาวะมันถึงขั้นถดถอยพร้อมจะเซลงไปได้ตลอดเวลา
คนที่เป็นเป้าหมายหวังจะให้เข้ามาช่วยกอบกู้วางบิลไป 4 คืนกลับมาแค่ 1 แม้ใจอยากจะช่วยแต่ขออยู่เบื้องหลังน่าจะเหมาะกว่า
ไม่ใช่คุ้มไม่คุ้ม แต่เมื่อมองลอดช่องเข้าไปเห็นอะไรล่ะ...
...
แม้นายกฯ ซึ่งคงประเมินในใจแล้วว่าได้แค่ไหนเอาเท่านั้นด้วยการวางบทบาทตัวเองเอาไว้ที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพื่อควบคุมสั่งการและประสานนโยบายให้ไปในทิศทางเดียวกันได้
เพราะมีองค์ประกอบที่เป็นผู้ร่วมคิด-ร่วมทำอยู่แล้วทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐและทีมที่ปรึกษาจากภาคเอกชน ซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว
เพียงขอแค่ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ความสามารถและสังคมยอมรับไม่กี่คนก็น่าจะเดินหน้าขับเคลื่อนไปได้
แต่นั่นเป็นเรื่องที่คิดเองเออเองมากกว่า
แค่ว่ากระทรวงพลังงานที่หมายมั่นจะดึงคนนอกเข้ามาดูแลเนื่องจากอยู่ในระดับเกรดเอมีผลประโยชน์มากมายจึงต้องสอดส่องเป็นพิเศษ
ก็ไม่ต้องแปลกใจจึงเป็นที่หมายปองของนักการเมือง ซึ่งต้องการเข้าไปบริหาร แค่ในพลังประชารัฐก็เหวี่ยงใส่กันแล้วหลายคน มิต้องพูดถึงนายทุนพรรคก็อยากได้คนภายใต้คอนโทรล
เมื่อการเมืองที่เป็นจริงยังเป็นเรื่องอำนาจและผลประโยชน์ จึงหาความลงตัวได้ยาก แม้จะคลี่ออกมาได้ก็จริง แต่รูปการณ์ที่จะออกมานั้นน่าจะเป็นว่าไม่สวยแต่รูปจูบก็ไม่หอมอีกด้วย
แวดวงการเมืองให้จับตาดูที่กระทรวงมหาดไทยกันให้ดีที่บอกว่าไม่แต่เป็นจริงทุกที นักการเมืองนั้นต่อรองแลกประโยชน์หลงเคลิ้มกันมานักต่อนัก
“พี่น้อง 3 ป.” ที่ว่าแข็งแกร่งหนักหนาระวังให้ดีเถอะ...
“สายล่อฟ้า”