กรณีที่ แบงก์ชาติ ประกาศเงื่อนไข ห้ามไม่ให้ แบงก์พาณิชย์ จ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นคืน มาจากสาเหตุเดียวคือ แบงก์ชาติรู้แล้วว่า ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ จะนำไปสู่ วิกฤติการเงิน ระลอกใหม่แน่นอน จึงไม่อยากให้นำเงินจากกองทุนมาใช้ในตอนนี้ จนกว่า วิกฤติไวรัสโควิด และ วิกฤติเศรษฐกิจ ในช่วงนี้จะผ่านไปก่อน ไม่เช่นนั้น แบงก์เองถ้าไม่มีเงินสำรองเอาไว้ใช้ในยามวิกฤติ จะเกิด ปัญหาแบงก์ล้ม ตามมาอีกระลอกการใช้งบประมาณรายจ่ายปี 2564 ก็เช่นกัน รัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบใช้งบให้น้อยที่สุดและให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ใช่เอะอะก็แจกเงินจนเลี่ยนไปหมด ไม่เป็นการช่วยแก้ปัญหาอะไรเลยนอกจากจะมีปัญหาหนี้สินตามมา งบประมาณ กระทรวงกลาโหม มีจำนวนมากจนอึ้ง ปี 2564 ขอไว้ 2.23 แสนล้าน เพิ่มจากปี 63 ที่ได้รับ 2.13 แสนล้าน ดังนั้น การโอนงบประมาณปี 2563 จำนวน 1.7 หมื่นล้าน เป็นแค่การโยกงบจากปีหนึ่งไปอีกปีหนึ่ง ในยามวิกฤติไวรัส งบซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้น เรือดำน้ำ ฝูงบินกองทัพอากาศ ก็ยังอยู่ครบ มีการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีเอาไว้ถึง 1.7 แสนล้านบาท ในขณะที่รัฐบาลมีหนี้ผูกพันอยู่ที่ 1.19 ล้านล้านบาทต้องยอมรับว่า การเงินการคลังของประเทศไทย อยู่ในอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ ถ้าไม่รู้จักใช้งบประมาณของประเทศทุกเม็ดให้เกิดประโยชน์สูงสุด หรือ คิดแต่จะสร้างโครงการ เพื่อสร้างรายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง ท้ายที่สุดประเทศไทยหนีไม่พ้น เข้าสู่ภาวะของการล้มละลาย การผุพังของเศรษฐกิจประเทศในปีนี้เป็นต้นไป มีการทำนายกันว่าจะ เป็นการเผาจริง หนักกว่าวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 หลายเท่าเมื่อไม่กี่วันมานี้ กรมสรรพสามิต ได้ออกประกาศประกอบกับประกาศของ กระทรวงการคลัง กำหนดวิธีการชำระภาษีของ สินค้าสุราแช่ชนิดเบียร์ ที่ผลิตในประเทศ ให้เป็นสินค้าที่ผู้ประกอบอุตสาหกรรมอาจขอชำระภาษีภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดจากการนำสินค้าออกจากโรงงานอุตสาหกรรมโดยมีหลักประกัน ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมจะต้องติดตั้งระบบมาตรวัดและระบบคอมพิวเตอร์สื่อสารทางไกลของกรมสรรพสามิตรองรับตามที่อธิบดีเป็นผู้กำหนดข้ออ้างที่ตามมาก็คือ ปัจจุบันระบบมาตรวัดและระบบคอมพิวเตอร์สื่อสารทางไกลที่มีการใช้งานอยู่ช่วยตรวจสอบภายในโรงงานอุตสาหกรรมก่อนที่จะนำสินค้าออกจากโรงงานเท่านั้น ไม่สามารถติดตามตรวจสอบได้ว่าสินค้าเสียภาษีไว้ถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้ทำสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่จะตรวจสอบได้ทันทีกรมสรรพสามิต เลยเสนอ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสินค้าสุราแช่ชนิดเบียร์ที่ผลิตในประเทศ ขึ้นมา อ้างว่าสามารถที่จะใช้ตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ได้หลังออกจากโรงงานไปแล้วคือให้ใช้รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ โดยงานนี้ขอให้ กระทรวงการคลัง อนุมัติให้จ่าย เงินจากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต วงเงิน 8,200 ล้านบาท สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องมืออุปกรณ์ในโครงการมาสู่คำถามที่ว่า เหตุใดจึงต้องเปลี่ยนแปลงระบบจัดเก็บภาษี มีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาระบบการตรวจสอบควบคุมหลังจากที่ออกจากโรงงานอีกหรือไม่ สามารถใช้กลไกตรวจสอบให้เรียบร้อยในระหว่างอยู่ในกระบวนการหรือไม่ เงินรายได้ประเทศที่หายากอยู่แล้ว สมควรที่จะนำไปใช้จ่ายในกรณีนี้โดยไม่จำเป็นหรือไม่ หรือมีเหตุผลอื่นใดอธิบดีกรมสรรพสามิตและอธิบดีกรมบัญชีกลางต้องเฉลยด้วย.หมัดเหล็ก
