มวลชนรำลึก 24 มิ.ย.ยึดแนวคณะราษฎรทวงสัญญาแก้ รธน. บิ๊กแดงสวนกระแสเชิดชู ‘กบฏบวรเดช’“สมคิด” โบ้ยไม่ต้องพูดเรื่องปรับ ครม.แล้ว ลั่นคนเก่าต้องทำงานให้ได้ ทำไม่ได้ก็ไม่ต้องอยู่ คนใหม่มาทำไม่ได้ ไม่ต้องมา “บิ๊กตู่” ยันพรรคร่วม รบ. ปึ้ก เข้มแข็งดี ฮึ่มกว่า 80 ปี ปชต. มาล้มวันเดียวไม่ได้ สั่งคุมเข้มรำลึก 24 มิถุนา 2475 ตร.งัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินเล่นงาน “บิ๊กแป๊ะ” สกัด 12 จว.เสี่ยง “บิ๊กแดง” สวนกระแสทำบุญเชิดชู “กบฏบวรเดช” มวลชนพรึ่บ 88 ปี เปลี่ยนการปกครอง “อานนท์” วางหมุดยึดเจตนารมณ์คณะราษฎร กลุ่มเลือกข้าง ปชต.จี้ยุบสภาใช้ รธน.40 เลือกตั้ง ครช.ทวงสัญญา รธน.ฉบับประชาชน วงเสวนา พท. กระทุ้งโละ รธน.เผด็จการ “ประวิตร” ชี้การข่าวมีกลิ่นกลุ่มจ้องป่วน “สุวัฒน์” ถกกองปราบฯล่าเจ้าของคลังแสงโยงการเมือง ผบ.ทบ.เช็กยิบ อาวุธร้ายพันก่อเหตุไม่สงบ “บิ๊กป้อม” ไม่หวั่นถูกร้องใช้มูลนิธิป่ารอยต่อลุยงานการเมือง พท.บี้ ผบ.ทบ.อนุญาตผิดวัตถุประสงค์หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกมาตอกย้ำว่ายังไม่ปรับ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงนี้ ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่าขณะนี้ไม่ต้องมาพูดถึงการปรับ ครม.แล้ว พร้อมทั้งเปรยด้วยว่าคนใหม่ทำไม่เป็น ทำไม่ได้ ไม่ต้องมา มาทำไม คนเก่าอยู่ทำไม่ได้ ไม่ต้องอยู่“สมคิด” โวยอย่ามาโทษทำ ศก.พังเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่โรงแรมคอนราด แบงคอก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าว ในงานแถลงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงสร้างไทยและโครงการ New Gen Hug บ้านเกิดว่า อย่ามาโทษกันว่าใครทำให้เศรษฐกิจแย่ คนตกงานเยอะ อย่าบิดเบือนข่าว ขณะนี้ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติต้องมาช่วยกันคิดจะหาทางออกให้ประเทศไทยอย่างไร จะต้องทำให้ไทยเข้มแข็งอย่างไร ต้องบาลานซ์ให้ได้ระหว่างภายในกับภายนอกประเทศ เรื่องการส่งออก ไทยควรใช้โอกาสปีนี้และปีหน้าสร้างฐานไทยให้เข้มแข็ง “โบราณว่า มังกรเหินฟ้า เวลาบินไม่ได้ ต้องหัดพ่นไฟไว้ พอฟ้าเปิดลมทะยาน ต้องพร้อมบิน ไม่ใช่คุยอย่างเดียวเป็นศูนย์การอาหาร แต่ใช้ไม่ได้เลย” นายสมคิดกล่าวตีกันคนใหม่ทำไม่เป็น ไม่ต้องมานายสมคิดกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะนี้ไม่ต้องพูดถึงการปรับ ครม.แล้ว ใครจะมาหรือเก่าไปใหม่มา เก่าไม่ไป ใหม่ไม่มา ไม่ต้องพูดไม่มีอะไรสำคัญ สำคัญที่ว่าเก่าอยู่หรือใหม่มา ต้องเดินตามหลักการตรงนี้ เพื่อให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง และสร้างงานให้คนไทย ถ้าคนเก่าอยู่แล้วไม่สามารถทำได้ ก็ไม่ควรอยู่ ถ้าคนใหม่มา ทำไม่เป็นหรือทำไม่ได้ก็ไม่ต้องมา จะมาทำอะไร “ขณะนี้คนเก่ายังอยู่ แต่ถ้าอยู่แล้วช่วยประเทศไม่ได้ ไม่ต้องอยู่ นี่คือหลักการในการบริหารประเทศ ไม่ว่าเก่าอยู่หรือใหม่มาต้องเดินตามนี้ เพื่อให้ท้องถิ่นเข้มแข็ง คนใหม่ทำไม่เป็น ทำไม่ได้ ไม่ต้องมา มาทำไม คนเก่าอยู่ทำไม่ได้ ไม่ต้องอยู่ ทุกคำพูดลงข่าวให้เป๊ะนะ”7 พรรคย้ำหนุน “เต้” นั่ง รมต.ไม่ได้มโนที่รัฐสภา นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวถึงกรณี 7 พรรคเล็กสนับสนุนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เป็นรัฐมนตรีว่า 7 พรรคเล็กจาก 11 พรรคสนับสนุนนายมงคลกิตติ์เป็นเสียงข้างมากเพียงพอแล้ว อีก 4 พรรคเล็กไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร ไม่ได้กดดัน แต่ถ้าพรรคเล็กมีคนเป็นรัฐมนตรี จะนำนโยบายไปแก้ปัญหาต่างๆได้ พรรคเล็กบางพรรคที่ไม่สนับสนุนไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นเรื่องของเขา ส.ส. 500 คนยังมีฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาล คน 11 คนมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ยังทำงานร่วมกันต่อได้นายพีระวิทย์ เลืองลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม กล่าวว่า 7 พรรคเล็กยินดีสนับสนุนนายมงคลกิตติ์ แต่นายกฯจะให้หรือไม่อยู่ที่ท่านจะเมตตา ส.ส.จากระบอบประชาธิปไตยมีสิทธิเสนอชื่อ ยืนยันว่านายมงคลกิตติ์ไม่ได้มโนหรือแอบอ้างไปเอง “ชวน” ขอลูกพรรคยึดถูกต้องสุจริตนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรีและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยในช่วงปลายงานเลี้ยง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์คืนวันที่ 23 มิ.ย.ว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคได้กล่าวกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ตอนหนึ่งว่า การทำงานการเมืองขอให้ยึดความซื่อสัตย์สุจริตเป็นหลัก ถึงแม้จะชนะการเลือกตั้งมาโดยไม่สุจริตก็ไม่มีความภาคภูมิใจ ขอให้สมาชิกพรรคทุกคนช่วยกันยึดมั่นในอุดมการณ์พรรคเรื่องความสุจริต ถึงแม้จะยากลำบากแต่ต้องรักษาไว้ เข้าใจ ส.ส.เขตต้องต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ขอให้ทุกคนยึดความถูกต้องความสุจริตที่เป็นจุดแข็งของพรรคที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันอย่างที่อดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 2 ท่านได้พูดถึงว่าพรรคอยู่ในช่วงของความท้าทายในการปรับเปลี่ยน แต่ต้องยึดความดีความถูกต้องไว้ ที่ต้องปรับเปลี่ยนก็ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่ต้องพัฒนาขึ้น แต่สิ่งสำคัญยึดความสุจริตความซื่อสัตย์ต่อประชาชน โดยเฉพาะรักษาคำพูดเป็นสิ่งสำคัญ“อันวาร์” ปัดเอี่ยวเขย่า รมต.พรรคเมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีข่าวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ว่า จากกรณีมีกลุ่ม ส.ส.พรรคไปร่วมทานข้าวกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ และมีโผปรับชื่อรัฐมนตรีของพรรคออกมา ยืนยันว่าตนและเพื่อนสมาชิกไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีเพียงเรื่องที่เคยยื่นหนังสือขอให้พรรคเปิดประชุมใหญ่พรรคเพื่อปรึกษาหารือแนวทางการทำงาน ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลว่าพรรคประชาธิปัตย์มีจุดยืนอย่างไร จะทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์มากที่สุด โดยไม่กระทบกับหลักประชาธิปไตยในการร่วมรัฐบาล มีข้อสงสัยและข้อข้องใจของสมาชิกพรรคที่คิดว่าการปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีของพรรคไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ทำให้พรรคตกต่ำ จะมีคำตอบให้สมาชิกพอใจได้อย่างไร แต่การปรับ ครม.ของพรรค ไม่ได้อยู่ในวาระ ไม่ได้อยู่ในความคิดของพวกตนเลือดไหลโกรกทีมสายไหมยกทีมออกนายอันวาร์กล่าวอีกว่า การที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้พรรคเข้มแข็ง ไม่มีนัยอะไรทั้งสิ้น ล่าสุดทราบว่าทีมอดีตผู้สมัคร ส.ส.และทีม ส.ก.-ส.ข.พื้นที่เขตสายไหม กทม.ทยอยลาออกจากสมาชิกพรรคแล้ว จึงอยากให้พรรคแก้ปัญหาเหล่านี้ เพื่อไม่ให้มีใครต้องลาออกจากพรรคอีก ส่วนนัดประชุม ส.ส.และอดีต ส.ส.ภาคใต้ ที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ นัดหมายเย็นวันที่ 24 มิ.ย.ได้แจ้งนายนิพิฏฐ์ไปแล้วว่าไม่ไปร่วมด้วย มีนัดที่ไม่สามารถเลื่อนได้ ประสานมากระชั้นชิด แต่ยินดีรับข้อมูลและข้อเสนอแนะ “วรงค์” โพสต์ไขก๊อกสมาชิก รปช.เมื่อเวลา 10.00 น. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.และประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ผมมีโอกาสปรึกษาท่านสุเทพถึงปัญหาทางการเมืองยุคปัจจุบัน จำเป็นต้องให้ความรู้แก่ประชาชน ผมเองทำหน้าที่ตรงนี้ได้ แต่การสังกัดพรรคการเมือง อาจมีข้อจำกัดในการหาแนวร่วมและไม่คล่องตัว จึงตัดสินใจขอ ลาออกจากสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตั้งใจจะไปเชิญชวนผู้ห่วงใยประเทศ มาตั้งกลุ่มการเมืองให้ความรู้ เสนอทางออกปัญหาบ้านเมือง รวมทั้งจะไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษแก่สถาบันทิศทางไทยบอกไม่น้อยใจ–แค่ไม่คล่องตัวนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตผู้บริหารพรรครปช. ให้สัมภาษณ์ว่า คิดลาออกพักหนึ่งแล้วและได้คุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้ง รปช.ว่าการทำงานเชิงวิชาการ หาข้อเท็จจริงมาหักล้างข้อมูลเท็จกลุ่มการเมืองปล่อยข้อมูลเท็จบิดเบือนเป็นขบวนการโดยเฉพาะในสื่อโซเชียล เป็นงานวิชาการต้องค้นคว้าหาข้อมูล มีนักวิชาการจำนวนมากที่เต็มใจช่วย แต่ไม่เต็มใจสังกัดพรรคหรือต้องอิงกับการเมือง จึงตัดสินใจลาออกเพื่อความคล่องตัวและสร้างแนวร่วมเพิ่ม เพราะเป็นงานที่ต้องใช้เวลา ใช้ข้อมูลไม่เกี่ยวกับน้อยใจที่พลาดตำแหน่งหัวหน้าพรรคหรือรัฐมนตรี คนละเรื่อง ยืนยันไม่ได้น้อยใจลาออกตามที่ลือกัน คุยแต่แรกว่ามาช่วยงานพรรคไม่ได้หวังตำแหน่งอะไร จะตั้งกลุ่มทำงานด้านการเมือง แต่ยังไม่คิดว่าจะตั้งชื่อกลุ่มอะไรพท.บี้ถาม“บิ๊กแดง” ให้ใช้มูลนิธิป่ารอยต่อนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมาและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีการใช้มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นประธานมูลนิธิ มาเจรจาความและดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพูดคุยกับพรรคการเมือง เพื่อรับโผการเมืองต่างๆ ถือว่าขัดต่อวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ เพราะข้อบังคับของมูลนิธิ มีอยู่ว่าห้ามยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่การดำเนินการเช่นนี้ไม่เหมาะสม คงต้องถามไปยัง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ว่าทำไมกองทัพบกจึงเปิดพื้นที่ให้นักการเมืองเข้ามาทำกิจกรรมทางการเมือง ทั้งการจัดตั้ง ครม. และการพบปะนักการเมืองเพื่อจัดตั้ง รวมทั้งการสรรหา ส.ว.ด้วย กองทัพไม่เลือกข้างทางการเมือง ต้องวางตัวเป็นกลางและปกป้องประชาชน “เสรีพิศุทธ์” แฉแจกหัวละ 300 ไม่ไป ลต.ที่รัฐสภา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงถึงผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 4 จ.ลำปาง ว่า ยืนยันมีการซื้อเสียง ได้รับจดหมายน้อยและบัตรสนเท่ห์มากมาย นายอำเภอบางแห่งวางตัวไม่เป็นกลาง และ ใช้อำนาจรัฐช่วยเหลือผู้สมัครพรรคหนึ่ง มีข้อมูลแจกเงินซื้อเสียง 300 บาทต่อหัว ได้ยื่นเรื่องต่อ กกต.ลำปางให้ตรวจสอบทุจริต ดำเนินคดีเจ้าหน้าที่รัฐวางตัวไม่เป็นกลาง ขอให้ กกต.ตรวจสอบจริงจังไม่ใช่เห็นเป็นบัตรสนเท่ห์แล้วไม่สนใจ ล่าสุดมีหลักฐานใหม่เป็นรายชื่อชาวบ้าน 30 คนในหมู่ 3 บ้านแม่เติน อ.เถิน มีทั้งบ้านเลขที่และเลขที่บัตรประชาชน มีการจ่ายเงินให้ชาวบ้าน 30 คน คนละ 300 บาทให้อยู่บ้านเฉยๆไม่ต้องไปเลือกตั้ง มีเจ้าหน้าที่เป็นผู้กาบัตรลงคะแนน เขียนชื่อบนบัตรเลือกตั้งแทนให้ ทำกันแบบนี้ 300 หน่วย พรรคเสรีรวมไทยจะไม่แพ้ได้อย่างไร ผู้จ่ายเงินดูถูกชาวลำปาง เอาเงินมาให้ 300 บาท เพื่อให้รัฐบาลนี้ทำงานไป 4 ปี หรือ 1,460 วันหรือเท่ากับจ้างชาวบ้านวันละ 40 สตางค์ต่อวัน กกต. ต้องตรวจสอบจริงจัง ชาวลำปางถ้าใครมีหลักฐานซื้อเสียงส่งให้ กกต.ได้ เพราะมีระเบียบนำจับทุจริตเลือกตั้ง จะมีรางวัลนำจับ 1-3 แสนบาท มวลชนวางหมุดย้อน 88 ปี 24 มิถุนาอีกเรื่อง เมื่อเวลา 05.00 น. ที่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินนายอานนท์ นำภา ทนายความและนักเคลื่อนไหวทางการเมือง พร้อมกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG) กลุ่มยี่สิบสี่มิถุนา ประชาธิปไตย และประชาชนที่รักประชาธิปไตย 20 คนร่วมกันจัดกิจกรรม “ลบยังไง ก็ไม่ลืม” ย้อนเวลากลับไปสู่ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ครบรอบ 88 ปี 24 มิถุนายน 2475 วันอภิวัตน์สยามเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์สู่ระบอบประชาธิปไตย มีกำลังตำรวจ บก.น.1 หนึ่งกองร้อยดูแลความเรียบร้อย มวลชนเตรียมผ้าสีขาวยาว 10 เมตร มาขึงเป็นฉากฉายโฮโลแกรม เจ้าหน้าที่แจ้งให้คำนึงถึงมาตรการทางสังคม ตามกรอบ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าไม่คำนึงถึงระยะห่าง ไม่สามารถกระทำได้จนวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงขอให้สื่อมวลชนและผู้ร่วมกิจกรรมขึ้นไปยืนหลังแนวกั้นที่จัดไว้ กระทั่ง 05.20 น. ถึงเริ่มนำตัวละครแต่งตัวด้วยเครื่องแบบคณะราษฎร นำหมุดคณะราษฎรจำลองมาวางหน้าจอฉายโฮโลแกรมเหตุการณ์อ่านประกาศคณะราษฎรฉบับที่ 1 นาน 15 นาทีประกาศยึดโยงเจตนารมณ์คณะราษฎรนายอานนท์กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ย้ำเตือนให้เห็นเรื่องราวในประวัติศาสตร์ มีทั้งแง่บวกและแง่ลบ เป็นคุณและเป็นโทษกับบางคนบางฝ่าย ไม่ได้มีเจตนาหรือความเกี่ยวข้องใดๆกับการหมิ่นสถาบัน เป็นหน้าที่ของทุกคน รวมถึงผู้มีอำนาจและชนชั้นผู้นำที่ต้องช่วยกันประคับประคองประชาธิปไตยที่อาจพบปัญหา อาจพบข้อบกพร่องอยู่บ้าง ให้เดินหน้าต่อไปได้ หากเห็นว่ามีคนกลุ่มใด องค์กรใดกระทำการผิดเพี้ยนไปจากเจตนารมณ์ของคณะราษฎรต้องปรับเปลี่ยนแก้ไข คนรุ่นใหม่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะเห็นบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีความคิดอ่าน มีการแสดงจุดยืนไปไกลกว่าในอดีต หลายกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นโดยนักเรียน นิสิต นักศึกษาปัจจุบัน จะยึดโยงไปถึงเจตนารมณ์ของคณะราษฎร จากนั้นต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับ“โตโต้” โร่มอบตัวหมายจับคดีวิ่งไล่ลุงต่อมาเวลา 12.00 น. นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ หนึ่งในแกนนำผู้จัดกิจกรรม “ลบยังไง ก็ไม่ลืม” เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผกก.สน.ชนะสงคราม ตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ลงวันที่ 11 มี.ค.63 ข้อหาเป็นผู้จัดการชุมนุมในที่สาธารณะโดยไม่แจ้งให้ผู้รับแจ้งทราบก่อน มีแพทย์รพ.ตำรวจ มาตรวจร่างกายนายปิยรัฐ ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ มีนายคำพอง เทพาคำ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้ามาให้กำลังใจพร้อมมวลชนจำนวนหนึ่ง โดยนายปิยรัฐเผยว่าไม่เคยทราบเลยว่ามีหมายจับเพิ่งทราบ จึงแสดงความบริสุทธิ์ใจเข้าพบตำรวจ ความผิดคดี พ.ร.บ.ชุมนุม งานวิ่งไล่ลุงที่ จ.กาฬสินธุ์ มีแค่โทษปรับแต่ถึงต้องออกหมายจับ หลังมีรายชื่อว่าจะถูกลอบสังหารไม่กังวล ระมัดระวังตัวอยู่แล้ว จากนี้ประชาชนต้องระวังตัวด้วย เจ้าหน้าที่รัฐจะทำแบบนี้กับประชาชนจริงๆหรือซัด รบ.ใช้ ก.ม.ยิบย่อยลิดรอนเสรีภาพด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวว่า มาให้กำลังใจโตโต้ เพราะในอดีตเคยเป็นผู้สมัคร ส.ส.กาฬสินธุ์เขต 1 พรรคอนาคตใหม่ ตอนนี้เป็นเครือข่ายประสานงานภาคอีสานตอนล่างของคณะก้าวหน้า โตโต้อยู่ จ.กาฬสินธุ์ มานาน อยู่ในพื้นที่ไม่เห็นตำรวจว่าอะไร แต่พอมาชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เช้าวันที่ 24 มิ.ย. กลับมีหมายจับ ที่ผ่านมารัฐพยายามใช้กฎหมายยิบย่อยจัดการคนที่ออกมาชุมนุม ทั้งกรณีผูกโบขาวรำลึกวันเฉลิมที่กระทรวงกลาโหม ใช้ พ.ร.บ.ความสะอาด การชุมนุมที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน ใช้ข้อหาอนาจารเล่นงาน เอากฎหมายยิบย่อยมาใช้จัดการการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ ฟังนายกฯพูดเรื่องการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เอาไว้ควบคุมโรคฟังไม่ขึ้น อย่าเอามาจับคนแสดงออกทางการเมืองกลุ่มเลือกข้าง ปชต.จี้ยุบสภาฯใช้ รธน.40เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องแถลงข่าว สภาผู้แทนราษฎร กลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตย นำโดยนายภัทรพล ธนเดชพรเลิศ และตัวแทนกลุ่มร่วม 10 คนยื่นหนังสือผ่าน นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯเพื่อเรียกร้องให้ยุบสภาฯและใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยนายภัทรพลกล่าวว่า ตนและกลุ่มประชาชนเลือกข้างประชาธิปไตย ขอเรียกร้องให้รัฐบาลปัจจุบันคืนอำนาจให้ประชาชน โดยการยุบสภาฯ เมื่อยุบสภาฯแล้วให้ดำเนินการเลือกตั้งภายใต้เงื่อนไขสองข้อ คือ 1.ให้มีการใช้รัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ ไม่ใช้รัฐธรรมนูญปี 60 เด็ดขาด เนื่องจากเล็งเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 60 ไม่มีความเป็นสากล ไม่ส่งเสริมหลักการประชาธิปไตยโดยประชาชนเพื่อประชาชน และ 2.คณะกรรมการดูแลจัดการเลือกตั้ง ต้องเป็นกลาง ยุติธรรม เห็นแก่ผลประโยชน์ต่อประชาชนต่อต้านการโกงเลือกตั้งอย่างถึงที่สุดมวลชนบุกสภาฯรำลึก “24 มิถุนา”ขณะเดียวกัน ที่บริเวณหน้ารัฐสภา คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) กลุ่ม 24 มิถุนา ประชาธิปไตย คณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) และกลุ่มสหภาพแรงงานย่านรังสิตและใกล้เคียง (กสรก.) นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ ประธาน ครช. พร้อมมวลชน 200 คน มาทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ครบรอบ 88 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครอง หัวข้อ “24 มิถุนาฯ ทวงคืนมรดกคณะราษฎร ทวงสัญญารัฐธรรมนูญประชาชน” เริ่มต้นด้วยเปิดคำแถลงการณ์ของคณะราษฎรเมื่อปี 2475 นำอุปกรณ์จำลอง อาทิ หมุดคณะราษฎรจำลอง พานรัฐธรรมนูญจำลองมาแสดง มีการแจกสติกเกอร์ และธงสีเขียว สัญลักษณ์รณรงค์แก้รัฐธรรมนูญปี 2540 จนสำเร็จ และชูสามนิ้ว พร้อมยื่นหนังสือต่อรัฐสภาทวงถามความคืบหน้ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา และขอให้ประกาศวันที่ 24 มิ.ย.ของทุกปี เป็นวันชาติ และวันกำเนิดประชาธิปไตยของไทย โดยมีตัวแทนคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และ วิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 และแกนนำ พรรคฝ่ายค้าน อาทิ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส. บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำรัฐสภาและเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.เตาปูน สน.บางโพ สน.พญาไท สน.ดินแดน สนธิกำลังทั้งใน และนอกเครื่องแบบ คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย “วันนอร์” ซัด 88 ปีอำนาจไม่ใช่ของ ปชช.นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เป็นประธานรัฐสภาเมื่อปี 2540 ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2540 ถือว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 อยากให้นำรัฐธรรมนูญปี 2540 ไปเป็นต้นแบบ 88 ปีที่ผ่านมาเรายังไม่มีประชาธิปไตยที่เป็นอำนาจของประชาชนอย่างแท้จริง ทุกวันนี้อำนาจยังเป็นของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ดังนั้น หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนต้องต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญต่อไปนายชำนาญ จันทร์เรือง กก.บห.คณะก้าวหน้า กล่าวว่า กมธ.แบ่งเป็น 2 ชุด คือ 1.ชุดศึกษาเนื้อหา 2. ชุดรับฟังความคิดเห็น วันนี้รับฟังระบบการเลือกตั้ง ยืนยันจะช้าหรือเร็วสุดท้ายต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญแน่นอนพท.เสวนาแก้ รธน.เผด็จการเมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดเสวนาหัวข้อ “ทิศทางรัฐธรรมนูญไทย” โดยมีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมแกนนำร่วมวงเสวนาเรียกร้องให้แก้รัฐธรรมนูญให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อเป็นประชาธิปไตยแท้จริง โดยเฉพาะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) นายสมพงษ์ กล่าวว่า วันนี้ครบ 88 ปีประชาธิปไตย ประเทศไทยล้มลุกคลุกคลาน มีปฏิวัติรัฐประหาร ร่างรัฐธรรมนูญใหม่เข้าข้างตัวเองไม่รู้กี่สิบฉบับนี้ขอเรียกว่า เป็นฉบับสวมเสื้อคลุมประชาธิปไตยสอดไส้เผด็จการปล่อยไว้ได้ “ลุงตู่” นั่งนายกฯไม่เลิกนายโภคิน พลกุล อดีตรองนายกฯ กล่าวว่า กมธ.ซีกฝ่ายค้านกำลังผลักดันให้ร่างใหม่ทั้งฉบับเสนอให้มี ส.ส.ร.200 คนให้ประชาชนเลือกมาร่างรัฐธรรมนูญ หากปล่อยไว้ไม่แก้จะได้ลุงตู่เข้ามาบริหารประเทศอีก รัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อความซวยของคนไทย ทำลายพรรคเพื่อไทยนายชัยเกษม นิติสิริ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย และ กมธ.ศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 60 กล่าวว่า การวางยุทธศาสตร์ชาติไม่ควรเป็นแบบที่วางอยู่ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เขาอาจตั้งใจทำให้ได้จริงๆ เพราะอาจตั้งใจอยู่ให้ครบ 20 ปี เพื่อทำอะไรให้ได้ตามต้องการ ต้องจับตาดูกันต่อไป แต่เราคงไม่ยอม ที่ประชุม กมธ.ยังมีข้อเสนอการตรวจสอบการใช้อำนาจขององค์กรตุลาการ ขณะนี้มีปัญหาไม่มีอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติ องค์กรตรวจสอบหรือองค์กรอื่นตรวจสอบการใช้อำนาจดุลพินิจของตุลาการได้ บางครั้งคำวินิจฉัยขัดความรู้สึกประชาชนมาก และใช้ดุลพินิจไม่รับพยานหลักฐานทำให้ประชาชนสงสัยในข้อมูล จึงมีการเสนอให้แก้รัฐธรรมนูญส่วนนี้ ให้อำนาจ กมธ.เรียกผู้พิพากษาและตุลาการมาให้ความเห็นหรือสอบถามการใช้ดุลพินิจพิจารณาพิพากษาคดีว่าชอบหรือถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือไม่ ตำรวจอุบลฯยก พ.ร.ก.สกัด นศ.ส่วนบรรยากาศวันครบรอบ 88 ปี 24 มิ.ย.2475 ต่างจังหวัด นักศึกษา ม.ขอนแก่นกลุ่ม “ขอนแก่นพอกันที” ทำความสะอาดลานอนุสาวรีย์ฯนำป้ายผ้าข้อความ “24 มิถุนา อภิวัฒน์สยาม เก็บกวาดประชาธิปไตย” และ “ขออภัยในความไม่สะดวกมั้ย ซ้อมเป็นประชาธิปไตย” ที่ภายในอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เขตเทศบาลนครขอนแก่น กลุ่มคนรักษ์ประชาธิปไตย จ.ยโสธร จัดกิจกรรม” จุดเทียนตามหา ประชาธิปไตย” ที่ลานหน้าอนุสาวรีย์พระสุนทรราชวงศา สวนสาธารณะบุ่งน้อยบุ่งใหญ่ เขตเทศบาลเมืองยโสธร ที่ จ.อุบลราชธานี นายฐิติพล ภักดีวานิช คณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.อุบลราชธานี โพสต์เฟซบุ๊กยกเลิกนัดหมายทำกิจกรรมที่ใต้ตึกคณะรัฐศาสตร์ (ตึกใหม่) ช่วงเย็น หลังมีตำรวจโทร.แจ้งว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผลบังคับใช้อยู่ นักศึกษาอาจฝ่าฝืน พ.ร.ก.ได้“โรม” เผยมีคนเตือนให้ระวังคนมีสีที่รัฐสภา มีการประชุมคณะ กมธ.การกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน มีนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธานการประชุมชั่วคราว ก่อนเข้าสู่วาระที่ประชุมหารือกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โฆษก กมธ.ถูกข่มขู่คุกคาม นายรังสิมันต์กล่าวว่า เริ่มแต่ตั้งกระทู้ถามสดกรณีนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกอุ้มหาย เชิญเจ้าหน้าที่มาชี้แจง กมธ.กลับไม่คืบหน้า อีกทั้งได้รับข้อความจากหลายคนที่เชื่อถือส่งมาเตือนให้ระมัดระวังกลุ่มคนมีสี ที่อาจสร้างสถานการณ์ให้เป็นอุบัติเหตุ จากการใช้รถจักรยานยนต์ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริง จะทำให้เจ้าหน้าที่หาข้อเท็จจริงลำบาก “สิระ” ตื้นตันจะร้องไห้นั่ง ปธ.กมธ.ก.ม.ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ประชุมพิจารณาวาระเลือกประธาน กมธ.คนใหม่แทนนายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่พ้นตำแหน่ง นายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ปชป.เป็นประธานชั่วคราว ได้เสนอชื่อนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ. มี กมธ.ยกมือรับรอง โดยไม่มีใครเสนอชื่อคนอื่นเพิ่มเติม ด้านนายสิระกล่าวขอขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจ จะทำให้ดีที่สุดยึดตัวอย่างที่ดีจากนายปิยบุตร พูดเเล้วจะร้องไห้ทำเนียบฯ จับตา ผบ.ตร.สั่งกัดติด 24 ชม.เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ท.สุรพล อยู่นุช ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. ประสานงานทำเนียบรัฐบาล พร้อม พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 เดินตรวจบริเวณรอบทำเนียบฯ เฝ้าระวังกลุ่มเคลื่อนไหวการเมืองจะมาแสดงสัญลักษณ์ 24 มิถุนา โดย พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า การข่าวเราได้รับรายงานตั้งแต่วันก่อนว่าจะมีกลุ่มคนหรือบุคคลพยายามจะสร้างสถานการณ์ จะใช้วิธีเดิมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น ยิงเลเซอร์ตามสถานที่สำคัญต่างๆ นายกฯสั่งการลงมา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและฝ่ายความมั่นคงเฝ้าติดตาม เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.มีมาตรการดูแลเฝ้าระวังพื้นที่รอบทำเนียบฯ เพื่อเฝ้าระวัง ตลอด 24 ชั่วโมง ด้าน พล.ต.ท.สุรพลกล่าวว่า วันที่ 24 มิ.ย. ยังคงติดตาม 24 ชั่วโมง รัฐบาลและนายกฯ ห่วงใย ผบ.ตร.สั่งการทุกหน่วยทั่วประเทศเฝ้าระวังติดตามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่จะกระทำการเชิงสัญลักษณ์และเกี่ยวข้องความมั่นคงที่ส่อผิดกฎหมาย หากผิดจับกุมได้ ยังประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลุ่มที่เคลื่อนไหวหรือผู้อยู่เบื้องหลัง พวกใช้จ้างวานขอให้ยุติการกระทำผบ.ตร.เข้ม 12 จว.เชื่อคลังแสงจ้องป่วนพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. (มค) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.กำกับดูแลความสงบเรียบร้อย จัดสายตรวจในและนอกเครื่องเเบบสืบสวนหาข่าว ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตรวจค้นอาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมาย พื้นที่จัดกิจกรรมครบรอบเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ โดยเฉพาะ 12 จังหวัดเสี่ยง อาทิ เชียงใหม่ ขอนแก่น นครราชสีมา อยุธยา อุดรธานี ให้เฝ้าระวังการชุมนุมทางการเมืองฝ่าฝืนกฎหมาย ห่วงเยาวชนนักศึกษาอาจถูกชักจูงด้วยข้อมูลสุ่มเสี่ยงกระทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจะเป็นความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่า ตชด.ที่ 346 ร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 4 ยึดปืนสงครามเอ็ม 16 เอ็ม 79 อาก้า ปืนกล ขนาด .62 และปืนเล็กยาว รวม 33 กระบอก และวัตถุระเบิดอีกจำนวนหนึ่ง ได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.แม่สอด จ.ตาก พร้อมควบคุมตัวชายไทย 2 คนไว้สอบสวนขยายผล เบื้องต้นเชื่อว่าถูกเตรียมการไว้ใช้เคลื่อนไหวสร้างสถานการณ์ทางการเมือง สอดคล้องกับข้อมูลทางการข่าวของฝ่ายความมั่นคงที่รายงานการเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลเตรียมฉวยโอกาสสร้างความวุ่นวายทางการเมือง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มการเมืองฝ่ายใด อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล “บิ๊กตู่” ยันพรรคร่วม รบ.ปึ้ก เข้มแข็งดีเมื่อเวลา 11.00 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ประธานคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างคนดี คนเก่ง คนกล้า และโอกาสสู่สังคม เพื่อพัฒนาชาติไทยอย่างยั่งยืน และคณะเข้าพบรับทราบนโยบายไปจัดทำยุทธศาสตร์และแนวทางการสร้างคนดี คนเก่ง คนกล้า และโอกาสสู่สังคมต่อมาเวลา 14.00 น. ที่สวนลอยฟ้า เจ้าพระยา (ฝั่งพระนคร) เขตพระนคร กทม.นายกฯ เป็นประธานพิธีเปิด “สวนลอยฟ้า” เจ้าพระยา มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมและผู้ว่าฯ กทม.ร่วมพิธี โดยนายกฯเดินเยี่ยมชมบรรยากาศบนสวนลอยฟ้าและกล่าวขณะพบปะประชาชนว่า ขอบคุณทุกคนที่ร่วมมือกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมา 1 ปี ทุกอย่างเดินหน้าเรียบร้อยและสานต่อสิ่งที่วางไว้ตามยุทธศาสตร์ชาติ หลายคนบอกยุบยุทธศาสตร์ชาติไปเลยมันไม่ใช่ ยุทธศาสตร์ชาติเป็นเหมือนสะพานพาไปสู่ที่หมายในอนาคต 10-20 ปีข้างหน้าขอให้ไว้ใจ ยืนยันพรรคร่วมรัฐบาลยังร่วมมือกันอย่างดีทุกพรรค ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์และพรรคเล็กๆ ยังเข้มแข็งกันดี บางคนฟังข่าวอาจไม่สบายใจ แต่ข่าวก็คือข่าวฟังได้จะเชื่อหรือไม่เป็นเรื่องของทุกคนลั่น 80 ปี ปชต.มาล้มหรือรื้อไม่ได้นายกฯกล่าวตอนท้ายว่า ถ้าจำได้ตนเคยแต่งเพลงสะพาน พร้อมให้เหยียบข้ามไปนั่นคือหน้าที่ของตน ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกฯได้นำโทรศัพท์มือถือมาเปิดเพลง “สะพาน” พร้อมร้องคลอตามและกล่าวว่า “นี่เป็นแรงบันดาลใจของผม จากจิตใจของผม คิดว่าวันนี้จิตใจของ ครม.และข้าราชการทุกคนเป็นดวงเดียวกัน คือทำเพื่อประชาชน อะไรไม่ดีต้องแก้ไข อะไรคิดนอกกรอบต้องคิดปรับจูนแก้ให้ตรงกัน ทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้ก็บอกเหตุผล ถ้าชนกันแบบเดิมไม่มีอะไรทำได้ ยุทธศาสตร์ชาติมีขั้นตอนอยู่แล้ว กลไกประชาธิปไตยเป็นแบบนี้มาล้มรื้อสร้างใหม่วันเดียวมันไม่ได้ เราเป็นมา 80 กว่าปีแล้ว วันนี้รวมไทยสร้างชาติ สัญญากับผมได้หรือไม่” “บิ๊กป้อม” สำทับมีข่าวก่อหวอดจ้องป่วนเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตรวจพบและยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนมากได้ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีรายงานว่าเตรียมจะนำมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ว่า กำลังให้เขาสอบสวนอยู่ ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวมาก่อนหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็มีข่าวมาอยู่เรื่อยๆ โดยกำลังให้เขาตรวจสอบอยู่โบ้ยจ่อต่อ พ.ร.ก.ไม่เกี่ยวกับการเมืองต่อมา พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการตรวจค้นบ้านเป้าหมายที่ อ.แม่สอด จ.ตาก พบอาวุธสงครามจำนวนมากว่าขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ จะโยงการเมืองหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนอยู่ จะขยายผลเชื่อมโยงไปยังเพื่อนที่อื่น หรือไม่ ต้องรอผลการสืบสวนว่าเป็นของใคร มาจากที่ใด ต้องดำเนินการให้ได้โดยเร็ว รวมถึงสอบสวนว่าเป็นการค้าขายอาวุธตามแนวชายแดนหรือไม่ด้วย จะต้องขยายผล หากเป็นสิ่งผิดกฎหมายต้องจับกุม แต่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองตอนนี้ไม่มีอะไร น่าห่วง การทำกิจกรรมทางการเมืองวันที่ 24 มิ.ย. อย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย จะมีการขยายผลหลังจากนี้หรือไม่เราก็ต้องดู ขอย้ำว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องการเมือง เพราะ พ.ร.ก.ฉุกเฉินใช้เพื่อดูสถานการณ์โควิดเท่านั้น อย่าเอามาเกี่ยวข้องกันไม่หวั่นถูกร้องใช้มูลนิธิฯ ยุ่งการเมืองเมื่อถามถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องเรียนการใช้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดทำกิจกรรมทางการเมืองขัดต่อวัตถุประสงค์ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า คงไม่มีปัญหา แค่กลุ่ม ส.ส.เดินทางมาหาและไม่มีประชุมเกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวโยงใดๆกับการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ขณะที่การประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ประชุมได้หารือแนวทางหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ดำเนินการตามปกติได้ ภายใต้มาตรการสาธารณสุข ให้นักกีฬาฝึกซ้อมได้ การแข่งขันก็เปิดได้แต่ยังไม่มีคนดู“บิ๊กแดง” ทำบุญเชิดชู “กบฏบวรเดช”เมื่อเวลา 15.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. มอบหมายให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย พล.อ.พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช และบำเพ็ญกุศลแก่พันเอกพระยาศรีสิทธิสงคราม เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบัน นับเป็นครั้งแรกที่มีการจัดพิธีรำลึก ทั้งนี้ได้มีการเผยแพร่เอกสารประกอบงาน ระบุว่า นายทหารทั้ง 2 นายเป็นนายทหารประชาธิปไตย เมื่อปี 2476 ได้เกิดการกบฏเป็นครั้งแรกหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองปี 2475 โดยทั้ง 2 นายทหารรู้จักกันว่า “กบฏบวรเดช” เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปกครองของพระยาพหลพลพยุหเสนา ที่มีลักษณะเป็นเผด็จการ เป็นวีรกรรมที่กล้าหาญและเสียสละควรแก่การยกย่องในฐานะที่ทรงปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดี และมุ่งหวังให้ดำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงสั่งเช็กยิบโยงก่อความไม่สงบพล.ท.ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ฉก.ร.4 ชุดเข้าจับกุม ได้ส่งตัวผู้ต้องหา 2 คนไปส่วนกลางสืบสวนเชิงลึกต่อไป อาวุธจะเกี่ยวข้องกับการนำไปก่อความไม่สงบหรือไม่ อาวุธบางประเภท เช่น เอ็ม 79 ในอดีตเคยมีประวัตินำไปใช้ก่อเหตุในช่วงที่ผ่านมาหลายเหตุการณ์ หาซื้อไม่ยากนัก และยังมีประเด็นการนำอาวุธไปแลกยาเสพติดหรือไม่ การจับค้าอาวุธสงครามจะมีกรณีแบบนี้อยู่ ต้องรอผลสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.สั่งการให้ทหารตรวจสอบกรณีนี้เร่งด่วนอีกทาง ให้ขยายผลดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตำรวจกำลังสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องอยู่เพื่อให้ชัดเจนว่าอาวุธสงครามจำนวนมากมาจากไหน เป็นของทหารที่สูญหายไปหรือไม่ โดยเฉพาะช่วงการชุมนุมที่ผ่านมา ต้องตรวจสอบเลขทะเบียนที่ติดอยู่กับอาวุธและกระสุนปืนทั้งหมด ที่มองว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองอาจเป็นไปได้ ช่วงเวลาตรงกับช่วงวันสัญลักษณ์พอดี แต่หากวิเคราะห์ลึกๆถ้าเกี่ยวข้องกับการเมืองจริง อาวุธสงครามที่มักจะจับกุมได้ในจังหวัดปริมณฑลใกล้ๆ กทม. มากกว่าจังหวัดตามชายแดน ฝ่ายทหารจะเพิ่มความเข้มงวดบริเวณชายแดนต่อไป“บิ๊กปั๊ด” ถก บก.ป.ล่าเจ้าของโยงการเมืองเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. มาที่กองปราบปราม เรียก พ.ต.อ.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4.บก.ป. พร้อมพนักสอบสวนสวน กก.4.บก.ป. ประชุมกรณีจับกุมยึดอาวุธปืนสงครามจำนวนมาก กำหนดแนวทางสืบสวนขยายผล หลังมีคำสั่ง ผบ.ตร.ให้กองปราบปรามรับทำคดี บช.ตชด. ยังได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.โชคชัย ชูแสง ผกก.ตชด.34 (ค่ายพระเจ้าตาก) เข้าพบ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. และพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. แจ้งความดำเนินคดีให้ชุดสืบสวน บก.ป. ตรวจสอบขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการรายอื่นๆเพิ่มเติมด้าน พ.ต.อ.สมควรกล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ป. เป็นผู้รับผิดชอบหลัก ไม่ใช่รูปแบบคณะพนักงานสอบสวน พล.ต.อ.สุวัฒน์กำชับสั่งงานให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งขยายผลตรวจสอบว่าอาวุธของกลางเป็นของเครือข่ายใด มีจุดประสงค์มุ่งหมายอะไร เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ หลังพบความเชื่อมโยงบางส่วนบ้างแล้ว แต่เพื่อให้กระจ่างชัดจำเป็นต้องพิสูจน์ทราบให้แน่ชัด อาวุธสงครามที่พบ บช.ตชด.ได้นำส่งให้กองสรรพาวุธ สำนักงานส่งกำลังบำรุง ตร. เก็บรักษาเพื่อรอให้กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอีกครั้ง สนท.นำ นศ.ปักหมุดทวงคืน ปชต.เมื่อเวลา 18.00 น. ที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน กลุ่มนักศึกษาและเยาวชนจำนวนมากเดินทางมาร่วมกิจกรรมรำลึกวันครบรอบ 88 ปี การเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎรกลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) นำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ และนายทัตเทพ เรืองประไพกิจ นิสิตจุฬาฯ นำหมุดคณะราษฎรจำลองและคำประกาศคณะราษฎรมาอ่าน ขณะที่นายเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล นิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯและพวก นำคุกกี้หมุดคณะราษฎรมาขายให้วัยรุ่นคนหนุ่มสาวชิ้นละ 20 บาท นายพริษฐ์เผยว่า วันนี้เยาวชนหนุ่มสาวที่สนใจการเมือง ตื่นตัวอยากให้สังคมเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดี ต้องการความเป็นประชาธิปไตย ตนและ น.ส.ปนัสยาถูก สน.ปทุมวัน ตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังจัดกิจกรรมชุมนุมเรียกร้องติดตามการอุ้มหายนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ จะไปพบตำรวจตามหมายเรียก แต่จะอารยขัดขืนไม่ยอมเซ็นรับทราบข้อกล่าวหา จะเดินหน้าเคลื่อนไหวเรียกร้องขับไล่รัฐบาลต่อไปก๊วนภาคใต้ชงพรรคดิ้นก่อนตายหมู่เมื่อเวลา 19.00 น. นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยหลังการแลกเปลี่ยนรับฟังปัญหาของ ส.ส.และอดีต ส.ส.ภาคใต้ร่วม 30 คนว่า ได้หารือยุทธศาสตร์ภาคใต้เป็นหลักเพื่อพัฒนาให้พรรคกลับมาเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะประมวลปัญหานำเข้าสู่ที่ประชุม กก.บห.พรรควันที่ 29 มิ.ย. หวังจะให้มีการแก้ไข ไม่กังวลจะถูกหมายหัว ไม่มีปัญหากับหัวหน้าพรรคทำไปเพื่อให้พรรคดีขึ้นควรให้รางวัลพวกตนด้วยซ้ำด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง กล่าวว่า ภาคใต้เป็นกำลังหลักมากว่า 20 ปี แต่เราพ่ายแพ้ไปมากต้องสรุปบทเรียน ต้องยอมรับว่าพรรคไม่ได้ทำการเมืองในรูปแบบที่คนภาคใต้คาดหวัง ขอให้ยอมรับเพื่อแก้ไข การเมืองวันนี้ไม่แน่นอนต้องเตรียม พร้อม พรรคอื่นรุกคืบกินพื้นที่ภาคใต้ไปค่อนข้างมาก เสนอปัญหาต่อ กก.บห.และรัฐมนตรีแล้วจะรอดูจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ต้องไม่เกิน 1-2 เดือนหากไม่เปลี่ยนแปลงอะไรต้องขับเคลื่อนกันต่อ นี่คืออนาคตพรรคในภาคใต้ ความนิยมพรรค ผู้นำและกระแสเปลี่ยนไป ต้องปรับตัวครั้งใหญ่ทุกคนรู้หากไม่ปรับตัวหนีตายจะตายหมด