ลากยาว ‘ฉุกเฉิน’ หวังผลการเมือง
ฝ่ายการเมืองรุมจวก กอ.รมน. ไร้เครดิต ทำโพลหยั่งเสียงยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน “วิโรจน์” ฉะแค่พิธีกรรมสร้างความชอบธรรมลากยาวยาแรง เฉ่งหมดยุคใช้อำนาจเผด็จการแก้ปัญหา “ภราดร” อัด “นายกฯตู่” รวบอำนาจเก็บไว้กับตัวเอง โฆษก พท.เหน็บแค่ซื้อเวลา สกัดม็อบกับประชาชนออกโรงเคลื่อนไหว “องอาจ” ดักคออย่ามีวาระแอบแฝงหวังผลการเมือง แนะใช้ภาควิชาการสำรวจแทน “ก้าวไกล” ค้านกู้เงินอุ้มการบินไทย แฉต้องถมเงินเสี่ยงสูญเปล่าอย่างน้อย 1.34 แสนล้านบาท
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จัดทำโพลสำรวจความเห็นของประชาชนว่าจะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปหรือยกเลิก เป็นประเด็นที่ถูกหลายฝ่ายคัดค้านที่จะให้ กอ.รมน.เป็นผู้ดำเนินการ โดยจับตามองว่าเป็นการกระชับอำนาจไว้ในมือนายกฯต่อไปเท่านั้น
“วิโรจน์” ซัดทำโพลหวังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 11 พ.ค.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งให้สำรวจความเห็นประชาชนเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ต้องถามว่าขณะนี้นายกฯ มีข้อมูลในการตัดสินใจหรือไม่ว่าจะยกเลิกหรือคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้และอยากถามนายกฯว่าทำไมถึงให้ กอ.รมน.ทำโพล จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้ผลที่เป็นธรรม เป็นไปตามหลักวิชาการ สะท้อนความต้องการของประชาชนจริงๆหรือไม่ ทำไมไม่ให้หน่วยงานอื่นๆ เช่น สำนักงานสถิติแห่งชาติหรือสถาบันการศึกษาที่เป็นกลางจัดทำโพลอยู่แล้ว ดำเนินการ หรือถ้าจะยืนยันให้ กอ.รมน.ทำโพลจริงๆ อยากขอดูข้อมูลของชุดคำถามว่าเป็นอย่างไร มีการถามนำแบบมีอคติหรือไม่ กลุ่มเป้าหมายที่จะสำรวจครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มหรือไม่ ที่สำคัญคือใช้งบประมาณเท่าใด วันนี้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าการให้ กอ.รมน.ทำโพลเป็นเพียงพิธีกรรมหรือไม่ นายกฯจะอ้างผลโพลนี้เป็นความชอบธรรมในการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้หรือไม่ คิดว่าหนังเรื่องนี้ดูแล้วคาดเดาได้ไม่ยากว่าจะเป็นอย่างไร
...
ฉะหมดยุคใช้อำนาจเผด็จการแก้ปัญหา
นายวิโรจน์กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ล่าสุดของไทยถือว่าดีขึ้นมาก จากสถิติผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่เลขหลักเดียวมาเป็นสัปดาห์แล้ว ผู้ป่วยสะสมลดน้อยลง ไม่มีเหตุผลที่จะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้แล้ว แต่ไม่ใช่ว่าตนจะเรียกร้องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วให้ทุกอย่างดำเนินการตามปกติ เรายังมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่ใช้ในการควบคุมโรคได้อยู่ ใช้กำหนดมาตรการต่างๆได้อย่างมียุทธศาสตร์ หากพื้นที่ใดยังมีการระบาดก็เข้มงวดหน่อย พื้นที่ไหนไม่มีให้ผ่อนคลายบ้าง วันนี้ประเทศต้องการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่การใช้อำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หมดยุคใช้อำนาจเผด็จการแก้ปัญหาแล้ว แต่ต้องใช้สติปัญญา เห็นอกเห็นใจคนทุกกลุ่มให้เดินไปด้วยกันได้ ไม่ใช่ใช้กระดาษแผ่นเดียวลงชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำมาแก้ปัญหาได้ ต้องใช้วิสัยทัศน์แก้ปัญหามากกว่านี้
“ภราดร” อัดนายกฯดึงอำนาจไว้เอง
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เครื่องมือที่ใช้แก้ไขโรคโควิดระบาดคือ พ.ร.บ.โรคติดต่อที่มีอยู่แล้วเป็นเครื่องมือหลัก ส่วน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือสนับสนุน แต่ตอนที่รัฐบาลประกาศใช้ มีปัญหาการบริหารงานของกระทรวงหลัก ทั้งกระทรวงพาณิชย์ที่มีปัญหาการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยและการควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภค กระทรวงสาธารณสุขมีปัญหาชุดตรวจโควิดแพงและการนำเข้าบางอย่างติดเงื่อนไขขององค์การอาหารและยา ทำให้ประชาชนมีข้อกังขาตั้งแต่ต้นว่าการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะนายกฯต้องการดึงอำนาจมาไว้ที่ตัวเองแก้ปัญหาความไม่มีเอกภาพในรัฐบาลหรือไม่ ทั้งที่กฎหมายปกติแก้ปัญหาได้
กอ.รมน.ไร้เครดิตคนไม่เชื่อถือ
พล.ท.ภราดรกล่าวอีกว่า นายกฯเลือกใช้ กอ.รมน.ทำโพลถือว่าไม่เหมาะสม แค่ชื่อก็ไม่เอื้อต่อความน่าเชื่อถือตั้งแต่ต้นแล้ว เริ่มเครดิตก็ลดแล้วไม่ว่าผลจะออกทางใดจะกลายเป็นการตอบสนองคำตอบที่รัฐบาลต้องการ ถ้าให้เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินคนจะบอกว่ารัฐบาลเลิกตามกระแส ถ้าไม่เลิกอีกฝ่ายจะบอกว่าอยากถืออำนาจไว้ที่ตัวเอง ควรให้เป็นผู้ประสานงานหน่วยงานต่างๆไปสำรวจความคิดเห็นประชาชน เช่น สำนักงานสถิติแห่งชาติ มหาวิทยาลัยต่างๆ สภาวิชาชีพ เช่น สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม สมาคมธนาคารไทย ให้ช่วยกันทำโพลส่งให้รัฐบาลเทียบเคียงตัดสินใจเลือกใช้ ต้องบอกข้อมูลโพลให้ประชาชนทราบด้วย การจะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อหรือไม่มันอยู่ที่ภาวะผู้นำ มีเครื่องมือหลักแก้ปัญหาโรคติดต่ออยู่แล้ว เครื่องมืออื่นถือเป็นเครื่องมือรองจะพิจารณาใช้หรือไม่ก็ได้
เหน็บแค่ซื้อเวลา–สกัดม็อบ ปชช.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าใครเขียนบทให้นายกฯ พูดลำพัง ได้ยินว่าจะให้ กอ.รมน. ทำโพล จะมีปัญหาความน่าเชื่อถือ ประชาชนไม่มั่นใจว่าจะให้ กอ.รมน.มาทำโพล หรือทำไอโอกับประชาชนกันแน่ กอ.รมน.ถูกตั้งคำถามมาตลอดว่าถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของนายกฯ การคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้เป็นการกระชับ อำนาจ ตัดตอนรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาล ป้องกัน ไม่ให้ประชาชนเคลื่อนไหว แสดงความคิดเห็นทาง การเมือง ยิ่งคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้นานเท่าไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ยิ่งได้ประโยชน์ การให้ กอ.รมน.ทำโพล จึงเป็นเพียงการซื้อเวลา กลบปัญหาการเยียวยาล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพ กลบปัญหาเศรษฐกิจ จึงต้องหลบ ข้างหลังจำนวนผู้ติดเชื้อที่ลดลงจากความร่วมมือของประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และพื้นฐานระบบสาธารณสุขที่ดีของประเทศ นายกฯ จะเอาโควิด มาปกปิดความล้มเหลวทางเศรษฐกิจโดยคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้ตลอดไปไม่ได้ ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นผ่าน ช่องทางต่างๆจำนวนมากว่าต้องการให้ยกเลิกแต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ต้องการทำโพลให้เป็นที่ยอมรับ ควรทำ โดยสถาบันวิชาการที่มีมาตรฐาน โปร่งใสตรวจสอบได้
เฉ่งเอาตัวเองมั่นคงลอยแพแรงงาน
นายอนุสรณ์ยังกล่าวถึงราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ ประกาศ ห้ามนายจ้างปิดงาน ลูกจ้างนัดหยุดงานทั่ว ราชอาณาจักร ว่า รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญปัญหาผิด ยึดความมั่นคงของรัฐบาลก่อนความอยู่รอดของประชาชน ก่อนออกประกาศห้ามนายจ้างปิดงาน ลูกจ้างนัดหยุดงาน รัฐบาลควรเยียวยาแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ผิดพลาดของรัฐบาล ทำอย่างไรจะให้เข้าถึงการเยียวยาครอบคลุมทั่วถึง นายกฯ จะละทิ้ง ปล่อยลอยแพประชาชนหรือผู้ประกันตนไม่ได้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ต้องตอบคำถามว่าจะนำเงินจากกองทุนประกันสังคมมาเยียวยา ผู้ประกันตนอย่างไร ที่เสนอให้เพิ่มจ่ายเงินเยียวยาว่างงานจากร้อยละ 62 เป็นร้อยละ 75 ไม่ชัดเจนว่า จะทำได้หรือไม่ โทษระบบคอมพิวเตอร์เก่า โทษนายจ้าง ไม่รับรองสิทธิ์ฟังไม่ได้ มีผู้ประกันตนจำนวนมากที่นายจ้าง รับรองสิทธิ์ส่งเรื่องไปตั้งนานแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงิน
“องอาจ” ดักคออย่ามีวาระซ่อนเร้น
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค และประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายกฯสั่งทำโพลหยั่งเสียงเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า ชี้ให้เห็นว่านายกฯทราบดีว่าการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ วิพากษ์วิจารณ์กันมากในสังคม ผลสำรวจออกมาแล้วอาจมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วนและสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมได้ แต่ถ้าสำรวจแล้วว่าควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแบบขอไปทีหรือมีวาระซ่อนเร้นก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยว่า สำรวจเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้มีอำนาจ หรือเพื่อหวังผลทางการเมืองมากกว่าเอาผลการสำรวจมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจแก้ไขปัญหาโควิด-19 จะทำให้เกิดปัญหาใหม่ทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองทับซ้อนปัญหาเก่าเพิ่มขึ้น
แนะใช้ภาควิชาการแทน กอ.รมน.
นายองอาจกล่าวต่อว่า เพื่อให้การสำรวจได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน นายกฯสั่งการให้กอ.รมน.สำรวจอาจไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม อาจถูกมองว่ารับงานเพื่อสนองความต้องการของนายกฯเพื่อผลทางการเมือง จึงควรหาหน่วยงานทางวิชาการทำการสำรวจ ถ้าไม่ยอมรับหน่วยงานที่สำรวจแล้วจะไม่ยอมรับผลการสำรวจด้วย มีเครื่องมือทางวิชาการและวิธีการที่จะใช้หลากหลาย ชนิด ควรจะคิดหาเครื่องมือที่สร้างการยอมรับได้ และเนื้อหาสาระได้มาตรฐานทางวิชาการหรือไม่ ควรออกแบบเนื้อหาให้ได้มาตรฐานทางวิชาการ เพื่อได้ผลที่ไม่บิดเบี้ยว ขอฝากนายกฯให้พิจารณาทำสำรวจกรณีนี้ด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ไร้การแอบแฝง เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นผลการสำรวจ และเป็นประโยชน์ในการทำงานสู้ภัยโควิด-19 อย่างแท้จริง
“ธนกร” หยันฝ่ายค้านทำใจไม่ได้
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีผลสำรวจสำนักวิจัยซูเปอร์โพลพบแนวโน้มฐานสนับสนุนของประชาชนจากจุดยืนทางการเมืองต่อรัฐบาลล่าสุดหลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดพบคนสนับสนุนรัฐบาลเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 36.2 มาที่ร้อยละ 46.9 คนไม่สนับสนุนรัฐบาลลดจากร้อยละ 26.6 มาที่ร้อยละ 22.2 ว่า ความมุ่งมั่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในการช่วยเหลือประชาชน ส่งผลประชาชนสนับสนุนเพิ่มขึ้น เชื่อมั่นในตัว พล.อ. ประยุทธ์เพิ่มขึ้นด้วย รัฐบาลเดินมาถูกทางแล้ว แต่ไม่เข้าใจฝ่ายค้านที่ออกมาโจมตีดิสเครดิตรายวัน สลับหน้ากันออกมาเหมือนตั้งโปรแกรมเอาไว้ ยิ่งประชาชนชื่นชมรัฐบาลมากเท่าไหร่ ยิ่งเหมือนคนทำใจไม่ได้ หน้ามืดตามัวออกมาไม่เว้นวันพระวันโกน ทั้งที่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาเอาชนะคะคานกันทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ใส่ใจ ยังคงมุ่งเน้นทำงานให้ประชาชนเต็มที่ เรื่องการเมืองขอพักเอาไว้ก่อน
“อนุดิษฐ์” ซัด พปชร.เลิกทีประท้วงตีรวน
ส่วนการเตรียมอภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ วงเงิน 1.9 ล้านล้านบาท และ พ.ร.บ.โอนงบฯปี 63 ที่จะเข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีนายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี และประธาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ เรียกร้องให้อภิปรายบนพื้นฐานความจริง ไม่ใส่สีตีไข่ สร้างข่าวเท็จหวังทำลายรัฐบาลว่า มั่นใจมาตรฐานการอภิปรายของฝ่ายค้าน ที่ผ่านมาเราอภิปรายอยู่ในเนื้อหาและข้อเท็จจริง ไม่บิดเบือนใช้วาทกรรมเล่นการเมือง ฝ่ายค้านมีข้อมูลเนื้อหาสาระจะนำไปอภิปราย ทั้งที่มาของงบฯ วิธีการใช้ โดยเฉพาะแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานประเทศ เพื่อตอบรับวิถีชีวิตใหม่ของประชาชนหลังวิกฤติโควิด-19 หวังว่าฝ่ายรัฐบาลจะยึดมาตรฐานเดียวกัน ขอให้เลิกพฤติกรรมการประท้วงขัดจังหวะตีรวนการอภิปรายเหมือนที่ผ่านมา หรือสร้างวาทกรรมปกป้องผู้มีอำนาจจนลืมปกป้องผลประโยชน์ประชาชน ส.ส.รัฐบาลโดนสังคมตำหนิเล่นการเมืองเกินไปมาตลอด
หมกเม็ดอะไรใน พ.ร.ก.กู้เงินถึงร้อนตัว
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานีพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ส.ส.ฝ่ายค้านเตรียมข้อมูลมากพอสมควรแล้ว รัฐบาลมีหน้าที่ตอบคำถามว่าเป็นไปอย่างที่ฝ่ายค้านคาดการณ์หรือไม่เท่านั้นเอง พ.ร.ก.กู้เงินต้องมีรายละเอียดว่าช่วยกลุ่มใดบ้าง ใครได้ประโยชน์ เงินทุกบาทไปไหน ทั่วถึงประชาชนแค่ไหน ถ้าตอบคำถามแค่นี้ไม่ได้อย่าเป็นรัฐบาล จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใด ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลต้องร้อนตัว รีบตีปลาหน้าไซหรือมีอะไรไม่ชอบมาพากลหรือไม่
“ศุภชัย” รอหารือญัตติตั้ง กมธ.โควิด
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคก้าวไกลยื่นญัตติ ขอให้สภาฯตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณและมาตรการแก้ไขปัญหาภายใต้วิกฤติการระบาดของเชื้อโควิด-19 ว่า ในฐานะผู้รับผิดชอบงานด้านกระทู้และญัตติจะนำญัตติดังกล่าวมาพิจารณาสัปดาห์หน้าว่าจะจัดลำดับให้เป็นญัตติธรรมดาหรือญัตติด่วนที่มีหลักเกณฑ์กำหนดไว้ต้องเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชนและประเทศอย่างเห็นได้ชัด หากไม่เร่งรัดพิจารณาอาจเกิดความเสียหายในวงกว้างได้ หรือเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน การพิจารณารายละเอียด ต้องให้ฝ่ายกฎหมายและกองการประชุมพิจารณาเงื่อนไขอีกครั้ง
“ก้าวไกล” ต้านกู้เงินอุ้มการบินไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลออกแถลงการณ์คัดค้านกรณีที่คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯเป็นประธาน เห็นชอบให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องในระยะสั้น 54,000 ล้านบาท ให้แก่ บมจ.การบินไทย ระบุว่า การใช้เงินภาษีประชาชนจำนวนมหาศาลโดยไม่รอบคอบเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เม็ดเงินจริงๆที่จะใช้ในแผนฟื้นฟูสูงถึง 134,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย ไม่ใช่แค่การค้ำประกันเงินกู้ 54,000 ล้านบาท ยังมีแผนจะเพิ่มทุนอีก 80,000 ล้านบาท ไม่มีผู้นำและรัฐบาลไหนในโลกที่ตัดสินใจใช้เงินช่วยเหลือสายการบินก่อนจะตกลงเงื่อนไขชัดเจน การบินไทยล้มเหลวขาดทุนต่อเนื่องมา 3 ปีก่อนเกิดการระบาดไวรัสโควิด-19 รอบนี้จะสูญเปล่าหรือไม่ ขอให้เปิดเผยแผนฟื้นฟูก่อนการอนุมัติให้ประชาชนได้พิจารณาก่อน แผนฟื้นฟูดังกล่าวไม่แตกต่างจากปี 2558 ที่ล้มเหลวมาแล้ว ผู้บริหารชุดเดิมต้องลาออกให้มืออาชีพเข้ามาทำงานแทน จากนั้นต้องทบทวนว่ายังจำเป็นต้องมีสายการบินแห่งชาติ ประชาชนประเทศได้ประโยชน์อะไรหรือที่ผ่านมาเป็นเพียงแหล่งหาผลประโยชน์แก่เครือข่ายผู้มีอำนาจ กองทัพและข้าราชการเท่านั้น
กลาโหมล่ามือมืดยิงเลเซอร์ปริศนา
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีมีกลุ่มคนตระเวนยิงแสงเลเซอร์ระบุข้อความ “ค้นหาความจริง” เมื่อช่วงค่ำวันที่ 11 พ.ค.ตามสถานที่เคยเป็นพื้นที่เหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช.เมื่อปี 2553 รวมถึงอาคารกระทรวงกลาโหมว่า ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ทำเพื่ออะไร น่าจะทำเป็นขบวนการ เพื่อนำไปขยายผลในโซเชียลมีเดีย เป็นนัยทางการเมืองแอบแฝง มุ่งหวังให้เข้าใจผิดต่อสถาบันและองค์กร ยั่วยุให้แตกแยกหวาดระแวงกัน ไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์โดยรวมของประเทศที่กำลังเผชิญอยู่ ฝ่ายความมั่นคงกำลังติดตามหาผู้กระทำ และคงจะไม่ยากเกินไป หากเป็นการตามหาความจริงสามารถค้นหาความจริงจากความคืบหน้าของคดีตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ได้ปกปิด หลายคดีอยู่ในกระบวนการยุติธรรม บางคดีตัดสินไปแล้ว