รู้ตัวตน...
ก่อนทำงานใหญ่
วันนี้แหละ...คนหนึ่งที่จะต้องรู้ดีว่าทำหน้าที่ของผู้นำประเทศนั้นควรจะต้องทำอะไรอย่างไร เพื่อให้เกิดประโยชน์โพดผลแก่ประเทศ
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี
อย่างน้อยการกระทำจะเป็นตัวพิสูจน์ไม่ใช่แค่พูดเป็นต่อยหอยเพียงอย่างเดียว เหตุไวรัสระบาดใหญ่ครั้งนี้คือคำตอบ
หากสามารถทำงานได้อย่างนี้ ไม่ใช่แค่เพราะโควิด-19 แต่หมายถึงยามปกติในการบริหารจัดการประเทศก็น่าจะอยู่ในมิติเดียวกัน
ว่าไปแล้วง่ายกว่าด้วยซํ้าไป
อย่างหนึ่งที่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมก็คือการเปิดหูเปิดตารับฟังความคิดเห็นและเข้าถึงกลุ่มอาชีพต่างๆ
นอกจากจะได้ใจแล้วยังได้งานที่เป็นเนื้อเป็นหนัง เพราะมีข้อมูลที่ลึกและข้อเสนอแนะที่เป็นทางออกได้
พูดง่ายๆ ก็คือได้ปัญญาเพิ่มมากขึ้น อยู่ที่ว่าจะคิดเป็นใช้เป็นแค่ไหน?
ไม่ใช่คิดเข้าข้างตัวเองว่าแน่แล้วมีความเหนือกว่าคนทั่วไป
ทุกอย่างมันก็เลยได้มุมคิดที่แคบด้านเดียวจากกลุ่มแวดล้อมเพียงไม่กี่คนเท่านั้น โลกกว้างทางแคบอย่างนั้นมันถึงไปไม่สุด
“โควิด-19” จึงมีมรรคผลต่อสังคมไทยหมายรวมถึงสังคมโลกด้วย เพราะมันสะท้อนภาพความเป็นไปของมนุษย์ที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี
คำตอบที่ได้ซึ่งให้โทษแล้วยังให้คุณอีกด้วย อย่างน้อยก็ได้รู้ดีรู้ชั่วจากผลการกระทำดีเป็นเลว เลวเป็นดี ทำให้กลายเป็นปัญหาโลกแตกจนอยู่ด้วยกันไม่ได้
การปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิถีปฏิบัติอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปลี่ยนผ่านตัวเองจนนำมาซึ่งความเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับ
ก็เพราะการบริหารจัดการแก้ปัญหาไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ
...
กำลังจะพ่ายแพ้กลับกลายเป็น “พระเอก” ในชั่วพริบตา
นี่หากสามารถจับหัวใจของชาวบ้านชาวรากหญ้าได้อย่าง “เข้าถึง” ก็ยิ่งจะยังประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองอย่างมหาศาล
เพราะคงไม่ใช่แค่นโยบาย “ประชารัฐ” เท่านั้น แต่หมายถึงการปฏิบัติระหว่างผู้นำกับมวลชนนั้นมันต้องถึงอกถึงใจมากกว่านี้
ไปต่างจังหวัดแล้วให้ราชการ ส.ส.ไประดมคนมาชูมือเชียร์ ยกยอปอปั้นอย่างที่ทำกันมานั้นมันเรื่องโกหกทั้งนั้น
เขาว่ากันนะ...โลกใหม่ใบเดิมนั้นจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในทุกมิติ แม้แต่การเมืองและนักการเมืองก็ต้องอยู่ในวังวนนั้น
คือหากไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองโลกก็จะต้องเปลี่ยนให้
“นักการเมือง” มีบทบาททางสังคมในฐานะตัวแทนผู้อาสา และความเป็นองค์กรหลักในการบริหารจัดการประเทศเพื่อมุ่งไปสู่ประโยชน์ของประชาชน
ความจริงก็พูดเรื่องนี้กันมามากแล้ว แต่ยังไม่ดีขึ้น หนําซํ้าแย่กว่าเดิมด้วยซํ้าไป จนสังคมเกิดความรู้สึกชิงชังเพราะคาดหวังอะไรไม่ได้ มีแต่ซํ้าเติมหนักเข้าไปอีก
ยิ่งพวกที่มักใหญ่ต้องเป็นนายกฯ ต้องเป็นรัฐมนตรีทั้งๆ ที่ไม่มีคุณสมบัติพร้อมสักอย่างหรือพอมีก็คิดแต่จะเข้าไปโกงกิน
หรืออยากได้อยากเป็นโควิด-19 กำลังให้บทเรียนว่าเหมาะควรแค่ไหน?
“สายล่อฟ้า”