กลัวอดตาย-ไม่กลัวโรค
ทุนนิยมล่มสลาย...
สังคมอเมริกากำลังเกิดปัญหาขัดแย้งระหว่างคำ 2 คำ คือ “อด” กับ “โรค” ซึ่งดูท่าจะเกิดความรุนแรงจะยกระดับสูงขึ้น
ระหว่างประชาชนกับประชาชน รัฐกับประชาชนและรัฐบาลกลางกับรัฐและประชาชนท่ามกลางการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง
ติดเชื้อเป็นรายวัน เสียชีวิตเป็นรายวันจนติดอันดับ 1 ของโลก
ฝ่ายที่ต้องการให้มาตรการ “ล็อกดาวน์” ดำเนินการต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้นเพื่อรักษาชีวิตของผู้คนอันเป็นแนวทางที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ
หลายประเทศนำไปใช้อย่างได้ผลคือ การระบาดลดลงเป็นลำดับ และกำลังเดินหน้าเพื่อผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง
เป็นเหตุเป็นผลที่รัฐบาลไทยมาใช้ปฏิบัติ
แต่ฝ่ายที่จะต้องการให้ยกเลิกอ้างถึงสิทธิความเป็นคนที่จะต้องมีสิทธิเสรีภาพไม่ใช่ใช้อำนาจสั่งกักกันไม่ต่างไปจาก “คุก”
“ประชาธิปไตย” แม่แบบของชาวอเมริกัน
มองต่อไปว่าหากไม่ยกเลิกหรือผ่อนปรนมาตรการคุมเข้มจะสร้างปัญหาให้กับชาวอเมริกันเพราะต้องถูกกักตัว หยุดงาน ธุรกิจดำเนินการต่อไปไม่ได้
แบบนี้ตายแน่ๆ
ไม่กลัวโรคแต่กลัวอดตายมากกว่า...ทั้งๆที่มันนำไปสู่ความตายได้ไม่แพ้กัน หากไม่คิดอย่างแยกแยะให้ออกว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร
“โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่อ้างว่าเขามีอำนาจสูงสุดของประเทศนี้ แต่การบริหารจัดการถือว่า “สอบตก” จนกลายเป็นตัวปัญหาเอง
เป็นอีกตัวอย่างที่เติมเต็มคำว่า “ทุนนิยม” ให้ชัดเจนขึ้น
อีกทางหนึ่งทำให้เห็นทะลุไปว่า “ทุนนิยม” กำลังจะล่มสลาย
...
มีการวิเคราะห์กันว่าอาการของประเทศสหรัฐอเมริกาในขณะนี้ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมที่พอจะมองเห็น
อเมริกามีคนตกงานราว 22 ล้านคน เริ่มแต่ไวรัสระบาดเริ่มมีผลต่อชาวอเมริกันโดยตรงเท่ากับว่าเป็น 1 ใน 10 ของชาวอเมริกัน
คาดว่าคนตกงานอาจจะพุ่งไปสูงสุดถึง 47 ล้านคน ถ้าเศรษฐกิจทรุดลงไปมากกว่าเดิม ก็สะท้อนปฏิกิริยาจากผู้ชุมนุมประท้วง
ที่ลึกไปกว่านั้นก็คือจะทำให้ต้องเสียเศรษฐีอเมริกันไปกว่า 5 แสนคน
เหล่าผู้คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากระบบทุนนิยมโดยเฉพาะที่สร้างความร่ำรวยระดับโลกย่อมไม่พอใจต่อสภาพที่เกิดขึ้น
“อเมริกันต้องมาก่อน” อย่างผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันจะเลือกทางไหนล่ะ?
เอาง่ายๆว่าเขาจมไม่ลงแน่ต้องเอาชนะการเมือง ต้องไม่ยอมให้ทุนนิยมพังพาบไปต่อหน้าต่อตา
นั่นหมายถึงว่ายังมีชาวอเมริกันให้การสนับสนุนอยู่ด้วยส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนหนึ่งจับหลักคิดให้ความสำคัญกับ “ชีวิตคน” มากกว่า “ธุรกิจเศรษฐกิจ” มากกว่าดูท่าว่าจะขัดแย้งรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ไทยเป็นประเทศเล็กๆขนาดเศรษฐกิจระดับกำลังพัฒนา การแก้ไขปัญหาจึงง่ายกว่าเพียงแต่ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อให้ผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากไปให้ได้
“มหาเศรษฐี” หากไม่โดดลงมาช่วยกันก็จงดูสหรัฐฯเป็นตัวอย่างได้.
“สายล่อฟ้า”