หยุดเพื่อจะเดินหน้าต่อไปได้ จึงต้องคิดคำนึงกันให้ดี จากนี้ไปจึงต้องทำตัวให้เป็นเนื้อเดียวกันให้ได้ด้วยการทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย พวกใช้ปากทำงานระวังเถอะ...จะไม่มีที่ยืนในสังคม
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ก่อนอื่นที่จะไปว่ากันเรื่องอื่นๆก็ต้องขออวยพรล่วงหน้าให้แก่ประชาชนชาวไทยทุกท่าน
“สงกรานต์” วันปีใหม่ไทยอีกวาระหนึ่ง
ให้ผ่านวิบัติภัยจากไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดไปทั่วโลกทำลายล้างชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมากไปให้ได้
แม้จะลำบากยากเข็ญแค่ไหนต้องผ่านพ้นไปให้ได้
นางสงกรานต์ปีนี้ทรงนามว่า “โค-ราคะเทวี” ทรงพาหุรัดทัดดอกปีบ (กาสะ-ลอง) อาภรณ์แก้วมุกดาหาร ภักษาหารน้ำมัน พระหัตถ์ขวาทรงธนูหรือไม้เท้า พระหัตถ์ซ้ายทรงพระขรรค์ เสด็จไสยาสน์ ลืมเนตร
มาเหนือหลังพยัคฆะ เป็นพาหนะ
นางสงกรานต์มาดีหรือมาร้ายให้ดูอิริยาบถมาบนพาหนะ ปีนี้เสด็จไสยาสน์ ลืมเนตรหรือนอนลืมตา ทำนายว่าประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข
แน่ล่ะ...ย่อมทำให้ผ่านพ้นไวรัส โควิด-19 ไปได้
จะช้าหรือเร็วจึงขึ้นอยู่กับพวกเราเองนี่แหละ...
เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ในภาวะที่จะต้องร่วมมือร่วมใจกันฝ่าฟันให้ผ่านพ้นไปให้ได้นั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องลด ละ เลิกชั่วคราว
งดเดินทาง งดเคลื่อนไหว ทิ้งระยะห่างทางสังคม
หยุดการเมือง หยุดวาทกรรมที่สร้างความขัดแย้งแตกแยกเพราะไม่มีประโยชน์อันใดมีแต่จะซ้ำเติมสถานการณ์ให้หนักเข้าไปอีก
อย่าลืมว่าทุกคนมีสิทธิที่จะเจอแจ็กพอตได้ทั้งนั้น
แนวโน้มที่มองเห็นและเป็นไปนั้นกำลังไปสู่จุดที่ดีขึ้นโอกาสที่จะ “เอาอยู่” นั้นพอมองเห็นรำไรอยู่ข้างหน้า
...
ตัวเลขผู้ติดเชื้อน่าจะนิ่งขึ้น เท่ากับว่าเดินมาถูกทางแล้ว
ที่สำคัญก็คือการปรับกระบวนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเข้าที่เข้าทาง เป็นระบบและมีเอกภาพด้วยการระดมสมองจากทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน บุคลากรทางการแพทย์
ทำให้การแก้ไขปัญหามีความรอบคอบ รอบด้าน ตรงจุดตรงประเด็นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประเทศไทย
“นักการเมือง” ก็ต้องถามตัวเองด้วยว่า “ท่านให้อะไรแก่ประเทศ” บ้าง?
ไม่ใช่วันๆก็หาปมหาประเด็นมาด่ากัน มาโจมตีกันแทนที่จะนำเสนอความคิด แนวทางการแก้ไขอย่างมีเหตุมีผล
ที่เสนอกันมานั้นอย่างเช่น ควรจะตัดงบประมาณแต่ละกระทรวง เพื่อนำเงินมาใช้ก็มีการดำเนินการตามนั้น
ที่จี้กันมาตลอดว่า “กองทัพ” จะต้องตัดงบซื้ออาวุธ ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ก็ได้รับการสนองตอบเป็นอย่างดี
แล้วจะเอาอะไรกันอีกล่ะ...พ่อคุณแม่ทูนหัวทั้งหลาย!
การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ที่ผ่านมานั้น เริ่มต้นไม่ค่อยจะดีนักยังเป๋ไปเป๋มาบ้าง ทำให้เกิดความรู้สึกไม่พึงพอใจเท่าใดนัก
ขาดความเชื่อมั่นว่า จะนำพาชาติบ้านเมืองไปได้หรือไม่?
พลันที่ปรับรูปแบบ วิธีคิด วิถีปฏิบัติและได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
ผลก็คือตั้งหลักได้ผลที่เป็นรูปธรรม จึงก้าวหน้าไปในทางที่ดี
อย่างที่มีการวิเคราะห์กันว่าหลังหยุดโควิด-19 ได้ ทุกอย่างในโลกใบนี้ จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ระวังไว้เถอะ...จะไม่มีที่ยืนในสังคมใหม่!!!
“ลิขิต จงสกุล”