ยังไม่ปิดประเทศ

หลังจากรัฐบาลระดมทีมงานทางการแพทย์มาหารือจนได้ข้อสรุปถึงแนวทางและมาตรการต่างๆ เพื่อรับมือโควิด-19 ในระยะที่ 3 แม้ยังไม่ได้ประกาศว่าสถานการณ์ถึงขั้นนั้นแล้ว

พูดง่ายๆว่ายังอยู่ในระยะที่ 2 แต่ก็ต้องมองไปข้างหน้าด้วย

มาตรการต่างๆที่ออกมานั้น น่าจะมาจากความเห็นของบรรดาแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญที่กลั่นความคิดออกมา

ควรทำและยังไม่ควรทำในฐานะผู้รู้จริง ที่ต้องมีแผนในการปฏิบัติการ เพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง

ความเชื่อมั่นเชื่อถือจึงเป็นหลักประกันได้ระดับหนึ่ง

รัฐบาลในฐานะผู้มีอำนาจเต็มที่ จะต้องนำมาตรการต่างๆ เพื่อประกาศและบังคับใช้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

เป็นภารกิจแยกกันคิดแยกกันทำ เพื่อนำไปปฏิบัติ จึงถือว่ารัฐบาลได้ดำเนินการอย่างมีแผนงานและเป็นรูปธรรม

ดีกว่าที่ผ่านมาเยอะ ที่เกิดปัญหาเพราะไม่รู้ได้ว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร แก้ปัญหากันอย่างไร อีกทั้งความวิตกกังวลที่การแพร่ระบาดที่เพิ่มมากขึ้นในแต่ละวัน ยิ่งทำให้เกิดความหวั่นไหวได้ง่าย

อาจจะพูดได้ว่าไม่รู้อะไรเลยนั่นแหละคือปัญหา

ผลที่ตามมาคือการโจมตีรัฐบาล เน้นไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะผู้รับผิดชอบโดยตรง โยงกลับไปในสถานภาพทางการเมืองที่ไม่ค่อยจะดีนัก

เห็นหน้าตานายกฯและรูปร่างที่ดูซูบไป คือผอมลงอย่างชัดเจน ก็เลยมองไป 2 มุม มุมหนึ่งก็บอกว่าใกล้จะไปแล้ว โดยเฉพาะฝ่ายค้านที่เห็นอาการแล้วจึงกระแทกหนักเข้าไปอีก

“ร่วง”...แน่!

อีกมุมก็มองว่าทำงานหนัก คิดมาก เพราะปัญหาประเดประดังไปรอบด้าน และถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอดเวลา ทำอะไร พูดอะไรก็ผิดไปหมด

...

มาตรการต่างๆที่ออกมานั้น หากเอาความจริงมาพูดกัน ก็ถือว่ามาถูกทาง เพราะเป็นการระดมจากผู้เชี่ยวชาญและทีมงานในศูนย์แก้ไขปัญหาโควิด-19

จนมาถึงในขั้นตอน ครม. จึงน่าจะรอบคอบรอบด้านและเป็นรูปธรรม

เมื่อคิดว่ามาถูกทางแล้ว ก็ต้องเดินหน้าทำงานให้ด้วยความเสียสละ อดทน อดกลั้น ไม่ต้องฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ปรารถนาดี

เว้นแต่คำแนะนำข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์ หวังดี และต้องการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้วยความหวังดี

นี่เป็นเรื่องที่จะต้องน้อมนำแนวคิดเหล่านี้ไปเสริมแนวทางที่กำลังดำเนินการอยู่เพื่อปิดช่องโหว่ ช่องว่างให้เติมเต็ม จนมีประสิทธิ-ภาพมากขึ้น

“กำลังใจ” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

อยู่ที่ว่าเมื่อมั่นใจว่าเดินมาถูกทาง องคาพยพทั้งระบบในส่วนของรัฐบาล เจ้าหน้าที่รัฐ แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ที่จะต้องทำงานกันเป็น “ทีมประเทศไทย”

อย่าให้ผิดพลาดในจุดใดจุดหนึ่งอย่างที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้

เรื่องมาตรการต่างๆนั้นมีอยู่หลายเรื่องหลายประเด็นที่คนไทยคงพอจะรู้และทราบกันแล้ว คงไม่ต้องหยิบมาขยายความกันอีก

อยู่ที่ว่าเมื่อรู้แล้วทราบกันดีแล้วก็ต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง

เห็นจะมีก็แต่บรรดานักการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ที่ไม่ค่อยจะรู้สึกรู้สาว่าสถานการณ์ในขณะนี้กำลังอยู่ในสภาพที่เรียกกันว่า “วิกฤติ” ก็ว่าได้

มันรักชาติรักประชาชนกันแบบนี้หรือ?

“สายล่อฟ้า”