เรื่องของ หน้ากากอนามัย ที่จะใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 กลายเป็นประเด็นใหญ่ที่กระทบถึง เสถียรภาพของคนในรัฐบาลอย่างไม่น่าเชื่อ เริ่มจาก หน้ากากอนามัยขาดแคลน ทั้งๆที่มีการผลิตได้วันละประมาณ 1.2 ล้านชิ้น แต่ปรากฏว่า ทั้ง บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไป หาซื้อหน้ากากไม่ได้

คำถามคือหน้ากากอนามัยหายไปไหน

ทั้งๆที่มีราคาแพงมากๆ จนในที่สุดทั้งหมอทั้งพยาบาลต้องประจานทางสังคมออนไลน์ว่าขาดแคลนหน้ากากอนามัยที่จะใช้ในการป้องกันตัวเองในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าในการควบคุมเอาไว้แล้ว แต่ก็ยังหาหน้ากากอนามัยมาทำยาไม่ได้ ชาวบ้านต้องตัดเย็บหน้ากากผ้าเอาเอง พวกฉวยโอกาสได้ช่องเอาหน้ากากอนามัยใช้แล้วมาทำความสะอาดบรรจุหีบห่ออย่างดีออกไปจำหน่ายใหม่

แล้วรัฐทำอะไรได้บ้าง จับมือใครดมได้บ้าง

กระนั้น รัฐก็พยายามตามปิดปากหมอ พยาบาล ที่ออกมาปูดเรื่องหน้ากากอนามัย แทนที่จะค้นหาความจริงเสร็จแล้วพยายามออกมาบิดเบือนประเด็นว่า หน้ากากไม่มีความจำเป็นสำหรับคนทั่วไปเหมาะสำหรับคนป่วยและบุคลากรทางการแพทย์เท่านั้น ให้ใช้วิธี กินร้อนช้อนกลาง ล้างมือ หรือ อยู่ห่างผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อแค่ช่วงแขนเดียว ก็ปลอดภัยแล้ว

อมพระมาพูดก็ไม่เชื่อ

ไม่เชื่อตั้งแต่การคัดกรองของรัฐบาลแล้ว ดูมั่วๆ ชอบกล เดี๋ยวผีน้อยออกมาอาละวาดกินหมูกระทะ เดี๋ยวผีน้อยหนีจากการคัดกรอง เดี๋ยวพบผู้เดินทางกลับจากอิหร่าน กลับบ้านเกิดโดยไม่ผ่านการคัดกรอง หรือบรรดา ไฮโซ ดารา คนดัง ไปต่างประเทศ กลับมาไม่ต้องกักตัว เป็นต้น กว่าบุคคลเหล่านี้จะได้รับการพิสูจน์ว่าติดเชื้อหรือไม่ใช้เวลาอย่างน้อย 14 วัน ช่วงเวลา 14 วัน ไปทำอะไรที่ไหนบ้างไม่มีใครรู้ มาตรการคัดกรองของรัฐบาลมีหลายมาตรฐาน

...

พอๆ กับกฎระเบียบที่ออกมาสร้างความสับสนให้กับชาวบ้าน

นี่เอาแค่หน้ากากอนามัยอย่างเดียวไม่รวมอุปกรณ์ความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ คงจะไกลเกินเอื้อมสำหรับหมอและพยาบาล ส่วนชาวบ้านไม่ต้องไปพูดถึง ปล่อยตามยถากรรม

บ้านอื่นเมืองอื่นเขาต้องให้ความสำคัญกับบุคลากรทางการแพทย์ก่อนสิ่งอื่นใดเพราะใกล้ชิดกับผู้ป่วยมากที่สุด ต่อมาก็เด็กนักเรียนและโรงเรียน ซึ่งจะต้องอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กเล็ก รัฐควรจะจัดสรรเอาหน้ากากอนามัยไปให้โดยเร็วทันทีที่รู้ว่ามีการระบาดของโรคและสุดท้ายต้องเตรียมสถานพยาบาลโดยเฉพาะเช่นที่เมืองอู่ฮั่น มีการสร้างโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์เพื่อใช้กักตัวรักษาโควิด-19 เท่านั้น

สุดท้ายตอก็โผล่จนได้เมื่อเพจดังออกมาแฉถึงกระบวนการ อมหน้ากากอนามัย ร้อนถึงคนในรัฐบาล ไม่ใช่พูดลอยลมหรืออ้างกันปากต่อปาก แต่ว่ามีตัวละครปรากฏชัดเจน เดาว่ารัฐบาลก็คงทำเป็นทองไม่รู้ร้อนเหมือนเดิม

ของแบบนี้มันอยู่ที่วุฒิภาวะ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th