จุดไต้ตำตอ?

ก่อนจะถึงวันสำคัญเพื่อชี้ชะตาพรรคอนาคตใหม่ในคดี “เงินกู้” ว่าเป็นเรื่องอัฐยายกินขนมยายหรือเปล่า

ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยชี้ขาด “ยุบพรรค” หรือไม่?

ปรากฏเหตุซ้ำเติมเข้ามาอีกเมื่อ พล.ท.พงศกร รอดชมภู ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วแต่ยังคงพักอาศัยอยู่ในบ้านพักหลวง

ที่ลึกไปกว่านั้นก็คือแม้จะย้ายหวังไปกินตำแหน่งใหญ่ใน สมช.เท่ากับว่าพ้นจากทหารไปเป็นข้าราชการพลเรือนเต็มตัว

แต่ก็ยังอยู่บ้านพักในศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) เท่ากับว่าระยะเวลาที่อาศัยบ้านพักหลวงก่อนเกษียณเสียอีก ทั้งๆที่มีบ้านพักส่วนตัวอยู่แล้ว

ต้นคิดนโยบาย “ปฏิรูปกองทัพ” ก็เลยจ๋อยไปพลัน

ประกาศลาออกจากรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เพื่อแสดงความรับผิดชอบมิฉะนั้นพรรคก็จะเสียหายตามไปด้วย

เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้ โทษใครไม่ได้!

อันไม่ต่างไปจากคดีความต่างๆที่อนาคตใหม่ต้องประสบพบเจอ ซึ่งไม่ได้มีใครกลั่นแกล้ง แต่เป็นเรื่องทำตัวเองทั้งนั้น

ศุกร์ที่ 21 ก.พ.63 ศาลรัฐธรรมนูญจะแถลงผลการวินิจฉัยคดี “เงินกู้” ที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคปล่อยกู้ให้พรรคตัวเอง 191 ล้านบาท

นี่ก็เช่นกันเมื่อนายธนาธรได้เปิดเผยเรื่องนี้ด้วยตนเองไม่ได้มีใครไปง้างปากให้พูดแต่อย่างใด อีกทั้งในการแสดงบัญชีทรัพย์สินก็มีตัวเลขปรากฏอยู่ด้วย

กกต.จึงสอบสวนและมีความเห็นว่าเป็นการกระทำความผิดชัดแจ้ง จึงมีความผิดถึงขั้น “ยุบพรรค” และยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

...

ว่าไปแล้วกระบวนการต่อสู้ของพรรคอนาคตใหม่นั้นเกิดขึ้นด้วยกระบวนท่าต่างๆ มาตลอดด้วยการยืนยันอยู่ 2 ประการ

1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจสั่งยุบพรรค

2.การกู้เงินของพรรคไม่ผิดกฎหมาย ไม่ใช่เงินบริจาค

ซึ่งนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ตอกย้ำเรื่องนี้ ล่าสุดก็แสดงวาทกรรมด้วยการแถลงปิดคดีนอกศาลรัฐธรรมนูญ

ยังมีความเคลื่อนไหวจากบรรดาผู้สนับสนุนที่ล่ารายชื่อเพื่อคัดค้านการยุบพรรคอันไม่ต่างไปจากการสร้างแรงกดดันต่อศาลรัฐธรรมนูญ

ระวังเถอะ...เดี๋ยวโดนคดีหมิ่นศาลก็จะโหยกันอีก

ยังไม่รู้ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาในรูปแบบใดที่จะต้องรอฟังกันด้วยข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

เบื้องต้นมีการมองกันว่ามีอยู่ 3 แนวทางคือ ยกคำร้อง มีความผิดเฉพาะกรรมการบริหารพรรคและอีกทางคือยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง

หากออกมากลางๆหน่อยก็คือมีความผิดแต่ไม่ถึงขั้นยุบพรรค หนักกว่านั้นก็คือยุบพรรค กรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิ

อาจถึงขั้นความผิดทางอาญาด้วย

บรรดาลูกพรรคที่เป็น ส.ส.ก็ต้องกระเจิงไปหาพรรคใหม่ สังกัดภายใน 60 วัน มิฉะนั้นจะต้องพ้นจากสมาชิกภาพไปด้วย

ถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองในระดับหนึ่งก็ว่าได้

สังคมไทยนี่แหละครับ...ที่จะต้องตั้งสติกันให้ดี!!

“สายล่อฟ้า”