มีทั้งใน-ตปท. เจ้าตัวแจงอ้าง ‘เมีย’ บกพร่อง ขู่จะแฉลากไส้
ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด “ประหยัด พวงจำปา” รองเลขาฯ ป.ป.ช.จงใจปกปิดแจ้งบัญชีทรัพย์สินของภริยาอันเป็นเท็จ พบพิรุธช่วงปี 2559 ก่อนยื่นบัญชีทรัพย์สินมีเงินฝากเข้าบัญชีเมีย 89 ครั้ง 103 ล้าน หลังยื่นอีก 88 ครั้ง 143 ล้าน แถมซุกทรัพย์สินไว้ที่อังกฤษ ทั้งคอนโดหรูพร้อมเงินฝาก 3 บัญชี รวม 225 ล้าน เบ็ดเสร็จเจตนาปกปิดแจ้งเท็จเกินกว่าจำนวนที่แจ้งไว้ในจำนวน 227 ล้านบาทอื้อซ่า “ประหยัด” แจงเมียบกพร่องเข้าใจคลาดเคลื่อนในบัญชีธนาคารทำธุรกิจกับฝรั่ง ปัดห้องชุดหรูแค่ถือกรรมสิทธิ์แทน ทิ้งระเบิด ป.ป.ช.กลั่นแกล้งไม่เป็นธรรม ดับเครื่องชนพร้อมลุยสอย ป.ป.ช.ทั้งคณะ
หลังมีกระแสข่าวคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตรวจสอบและชี้มูลความผิดกับ “บิ๊กคนใน” ออกมาเป็นระยะๆ ล่าสุด นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการระบุ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดนายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช.จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงต่อ ป.ป.ช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 15 ส.ค.ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช.แถลงว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิดนายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช.จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงต่อ ป.ป.ช.กรณีการเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2560 โดยมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่า มีเจตนาปกปิดไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศจำนวน 6 รายการ มูลค่า 227,393,103 บาท ที่อยู่ในชื่อของนางธนิภา พวงจำปา คู่สมรส แบ่งเป็นทรัพย์สินในประเทศ 2 รายการที่แจ้งไว้กับ ป.ป.ช. ได้แก่ 1.บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้าจำนวนเพียง 10,000 บาท ณ วันที่ยื่นบัญชีต่อ ป.ป.ช.แต่ปรากฏว่าจากการตรวจสอบพบรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีจำนวนมาก ทั้งก่อนและหลังการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. โดยช่วงปี 2559 ก่อนการยื่นบัญชีทรัพย์สิน มีรายการเงินฝากในบัญชีดังกล่าว 89 ครั้ง เป็นจำนวน 103,393,332 บาท และหลังการยื่นบัญชีทรัพย์สิน มีรายการฝากเงิน 88 ครั้ง เป็นจำนวน 143,582,940 บาท รวมเป็นเงิน 246,976,273 บาท 2.เงินลงทุนในบริษัท ปาล์ม บิซ คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 20,000หุ้น หุ้นละ 100 บาท มูลค่า 2,000,000 บาท
...
นายวรวิทย์กล่าวว่า ส่วนทรัพย์สินต่างประเทศมี 4 รายการ มูลค่า 225,383,103 บาท ได้แก่บัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาลอนดอน สหราชอาณาจักร 3 บัญชี มียอดเงินฝาก ณ วันที่ยื่นบัญชีต่อ ป.ป.ช.จำนวน 237,959 ปอนด์ หรือ 10,312,353 บาท และห้องชุดหรูที่ตั้งอยู่ที่ถนน Kensington High Street กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มูลค่า 4.5 ล้านปอนด์ หรือ 215,070,750 บาท
นายวรวิทย์กล่าวด้วยว่า การตรวจสอบทรัพย์สินกรณีนี้ เป็นผลมาจากการที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีหนังสือถึง ป.ป.ช.แจ้งเบาะแสการวิเคราะห์ธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับนางธนิภา พวงจำปา ภริยานายประหยัด ทำให้ ป.ป.ช.เห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่า นายประหยัดจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ จึงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ และนางสุวณา สุวรรณจูฑะ กรรมการ ป.ป.ช.เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน ที่ผ่านมา ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาและให้นายประหยัดชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จนกระทั่งมีหลักฐานว่านายประหยัดจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ให้ส่งเรื่องต่ออัยการสูงสุด เพื่อฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป ส่วนการดำเนินคดีวินัยร้ายแรงนั้น ป.ป.ช.จะดำเนินการสอบสวนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กรณีที่ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดการแจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเท็จกับนายประหยัด ที่เป็นถึงผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ช.ครั้งนี้ ถือเป็นประวัติการณ์การตรวจสอบทุจริตที่เกิดขึ้นกับคนในองค์ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ตรวจสอบการทุจริตของประเทศเป็นครั้งแรก

ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่โรงแรมริชมอนด์ จ.นนทบุรี นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการ ป.ป.ช.แถลงถึงกรณี ป.ป.ช.ลงมติชี้มูลความผิดกรณีการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน 227 ล้านบาทว่า กรณีดังกล่าวเป็นข้อบกพร่องเข้าใจคลาดเคลื่อนของภริยาในเรื่องบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาลอนดอน ที่ภริยาทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ และขอกู้เงินเพื่อซื้อห้องชุดที่แจ้งว่า ได้โอนกรรมสิทธิ์และปิดบัญชีไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังมีการเปิดใช้งานอยู่ ดังนั้นจึงยื่นแสดงรายการบัญชีธนาคารเพิ่มเติมครั้งที่ 2 ต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2561 ไปแล้ว ถือว่าไม่มีเจตนาปกปิด ส่วนเรื่องการซื้อห้องชุดที่อังกฤษนั้น ภริยาทำธุรกิจร่วมกับบุคคลอื่น และถือครองกรรมสิทธิ์แทนไม่ได้เป็นเจ้าของ สิ่งเหล่านี้ชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ไปแล้ว แต่ ป.ป.ช.กลับกลั่นแกล้งในการดำเนินคดีนี้โดยไม่ชอบ ไม่ให้ความเป็นธรรม ไม่เคยให้โอกาสตนไปชี้แจงด้วยวาจาต่อ กรรมการ ป.ป.ช. ทั้งที่ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้ง ยืนยันไม่ได้ทุจริต เรื่องนี้เป็นข้อบกพร่องที่ภริยาเข้าใจคลาดเคลื่อน ส่วนที่มีกระแสข่าวคดีปกปิดบัญชีทรัพย์สินของตน โยงกับคดีทุจริตปาล์มน้ำมันอินโดนีเซียของบริษัท ปตท.นั้น ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ตนและภริยาไม่เคยรู้จักกับผู้บริหารใน ปตท. ตนเคยไปดูงานที่อินโดนีเซียครั้งเดียว ส่วนภริยาไม่เคยเดินทางไปอินโดนีเซียเลย
นายประหยัดกล่าวว่า มูลเหตุการกลั่นแกล้งนั้น ก่อนหน้านี้เคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช.กับนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แต่เมื่อนายวรวิทย์เป็นเลขาธิการ ป.ป.ช. และตนได้เป็นรองเลขาธิการ ป.ป.ช.อันดับ 1 ก็ถูกลดบทบาทในการทำงาน และสุ่มเสี่ยงถูกประเมินผลงานให้ถูกออกจากราชการ ซึ่งปัจจุบันได้ยื่นฟ้องนายวรวิทย์ต่อศาล อาญาคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ภาค 1 แล้ว ขอฝากไปยัง ส.ส.พรรคการเมือง ภาคประชาชน หากเห็นว่าคดีนี้ตนถูกกลั่นแกล้ง ไม่ได้รับความเป็นธรรม และต้องการจะยื่นถอดถอนกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะ ส.ส.สามารถเข้าชื่อกันได้ 125 คน หรือประชาชนเข้าชื่อกัน 2 หมื่นรายชื่อถอดถอน ป.ป.ช.ทั้งคณะได้ ตนยินดีให้ความร่วมมือพิสูจน์กระบวนการทำงานของ ป.ป.ช.ว่ามีความถูกต้องหรือไม่