คมขวาน-ด้านอีสาน นัดทบทวนท่าทีด้วย ‘เด็กตู่’ แนะสวนหมัด ไม่มีผมคุณจะได้หรือ ปชป.ชู 9 อเวนเจอร์ส
คลื่นใต้น้ำพลังประชารัฐโผล่ 2 กลุ่ม ส.ส.ใต้-อีสานตอนบน เจ็บใจผู้ใหญ่ไม่เห็นหัว “เอกราช” เคือง “บิ๊กตู่”-แกนนำมองข้าม ไม่มีสัญญาณตอบรับ นัดรวมพล 11 ส.ส.ลั่นต้องมีเก้าอี้บริหาร ไม่เช่นนั้นทบทวนท่าทีทำงานร่วมกับพรรค กลุ่ม “ด้ามขวานไทย” ยกพลเข้ากรุงเปิดออฟฟิศ ส.ส.ภาคใต้ ทวงโควตาให้ “พ.อ.สุชาติ” นั่งรัฐมนตรี โวย ปชป.มี 4 รมต.ภาคใต้ ภท.1 พปชร.มี 13 ส.ส.ใต้ทำไมไม่ได้สักคน “สายัณห์” โต้ไม่ได้กดดัน แค่ไม่อยากได้รัฐมนตรียี้ “ชัช เตาปูน” ปัดจับมือ “ดำรงค์” ขอเก้าอี้ สาบานไม่เคยน้อยใจ “จุรินทร์” ส่งแล้วชื่อ 7 รมต. 8 ตำแหน่งมั่นใจไร้ปัญหา “นิพนธ์” ยันเคลียร์ทุกข้อกล่าวหา งัด พ.ร.บ.คอมฯฟันคนแพร่ข้อมูลเท็จ “ศรีสุวรรณ” ค้านมีแผลทุจริตร่วม ครม. ดักคอ “ประยุทธ์” แหกตาปราบโกง 7 พรรคตั้งวิปฝ่ายค้านลุยเข้มงานสภาฯ-ทีมปฏิบัติการลุยแก้รัฐธรรมนูญ
จากกรณีมีกลุ่ม ส.ส.ภาคอีสานตอนบนและกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้ในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เคลื่อนไหวกดดันให้แกนนำพรรคให้ความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ล่าสุดกลุ่ม ส.ส.ภาคใต้รวมตัวมาเปิดที่ทำการในกรุงเทพฯ เรียกร้องให้เสนอชื่อตัวแทนกลุ่มคือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ตท.12 ร่วมรุ่นของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เป็นรัฐมนตรี ขณะที่กลุ่ม ส.ส.อีสานตอนบนนัดรวมพลอีกครั้งหลังแกนนำพรรคยังคงนิ่งเฉย พร้อมทบทวนท่าทีการทำงานร่วมกับพรรค
“เอกราช” เคือง “ลุงตู่”-แกนนำไม่ใส่ใจ
...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.ขอนแก่น ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวว่า จากการออกมาเคลื่อนไหวครั้งแรกหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าอยู่กลุ่มสามมิตร ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง อีกทั้งไม่ได้เรียกร้องรัฐมนตรีกระทรวงใด แค่อยากให้ผู้บริหารพรรคได้ยินเสียง ส.ส.อีสานตอนบน 15 จังหวัด พรรคส่ง ส.ส.อีสานตอนบนครบ 116 เขต ได้ ส.ส. มา 11 คนแต่ไม่มีจังหวัดใดได้เข้าร่วมบริหารงบประมาณกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ส.ส. 11 คนทั้งศูนย์ขอนแก่นและศูนย์อุบลราชธานี คิดตรงกันว่าแม้พรรคไม่ลอยแพ แต่พรรคไม่ใส่ใจ ไม่มอบหมายให้ใครมีส่วนร่วมบริหารงานงบประมาณและขับเคลื่อนนโยบายพรรคตามที่รับปากประชาชนไว้ก่อนเลือกตั้ง หลังออกมาเคลื่อนไหวไม่มีผู้ใหญ่ในพรรคหรือนายกฯโทรศัพท์มา ถึงขณะนี้คงไม่มีอะไรต้องพูดคุยกัน เพราะเราก็มีจุดยืนจะทำเพื่อคนอีสานชัดเจน ไม่ใช่ เคลื่อนไหวเพราะอยากได้รัฐมนตรี ขอความเป็นธรรมให้ ส.ส.อีสานตอนบนมีบทบาทผลักดันงบประมาณต่างๆบ้าง
นัดหารือ ส.ส.อีสานตอนบน
นายเอกราชให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมหลังจากเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ได้แถลงข่าวถึงความไม่พอใจที่พรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้จัดสรรสัดส่วนตำแหน่งบริหารใดๆให้กลุ่มภาคอีสาน ซึ่งเปรียบเสมือนคมขวานว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากแกนนำพรรคเพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกัน วันที่ 18 มิ.ย. ทางกลุ่มจะประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงแนวทางและกำหนดท่าที หากไม่ได้รับการตอบรับจากแกนนำพรรค จะเป็นการประชุมภายในไม่แจ้งให้สื่อมวลชนรับทราบสถานที่ จะกำหนดท่าทีของกลุ่มและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในโอกาสต่อไป

ต้องมีเก้าอี้บริหารไม่งั้นทบทวนท่าที
“ปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่ในพรรคมองข้ามกลุ่ม ส.ส.อีสานตอนบน โดยไม่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานในภาคอีสานตอนบน ขณะที่ทางกลุ่มมองว่าหากไม่ได้ตำแหน่งด้านบริหาร เช่น รมว. รมช. รวมถึงตำแหน่งบริหารอื่นๆ คงไม่สามารถขับเคลื่อนงานตามที่ได้หาเสียงกับประชาชนได้ เพราะ ส.ส.มีหน้าที่เพียงเสนอกฎหมาย ตรวจสอบ แต่ไม่ได้มีหน้าที่ด้านการบริหาร เราเสนอว่าต้องมีตัวแทนของ ส.ส.อีสานตอนบนเข้าไปนั่งเป็นฝ่ายบริหาร หากไม่เป็นเช่นนี้ เราจะทบทวนรูปแบบการทำงานร่วมกับพรรค” นายเอกราชกล่าว
10 ส.ส.ใต้ พปชร.เปิดวอร์รูมกลางกรุง
ขณะที่กลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในภาคใต้ในนาม “กลุ่มด้ามขวานไทย” หลังจากแสดงความไม่พอใจที่พรรคพลังประชารัฐไม่จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีให้ ทั้งที่ได้ ส.ส.ภาคใต้ถึง 13 คน เมื่อเวลา 16.00 น. กลุ่ม “ด้ามขวานไทย” ได้เปิดที่ทำงาน ส.ส.ภาคใต้ บริเวณแยกถนนพิชัย กทม. นำโดยนายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง ประธานกลุ่ม รวมกับ ส.ส.ภาคใต้ 10 คน อาทิ นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสุภา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.ภูเก็ต นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา รวมถึงอดีตผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้จำนวนหนึ่ง แต่ไม่รวม ส.ส.ยะลาและ ส.ส.นราธิวาส 3 คน ที่ไม่ได้เข้าร่วมด้วย
ดัน “พ.อ.สุชาติ” เพื่อนนายกฯ นั่ง รมต.
จากนั้นนายนิพันธ์กล่าวว่า จุดประสงค์ร่วมกลุ่มกัน เพื่อให้พรรคหันกลับมาให้ความสำคัญกับเรา และเห็นว่าบุคคลที่จะเสนอให้เป็นรัฐมนตรีของกลุ่มคือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ตท.12 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. โดยไม่ระบุต้องได้กระทรวงใดเป็นพิเศษ และหากกลุ่มไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีเลยก็ไม่มีปัญหา เราแค่แสดงเหตุผลสัดส่วนตามภาคที่ควรจะได้ ยืนยันว่าวันนี้ไม่ใช่การตีรวนเมื่อถามว่า ถ้าไม่ได้ตำแหน่งจะทำให้เกิดความเสียหายในพื้นที่ภาคใต้อย่างไร นายนิพันธ์กล่าวว่า เชื่อว่าผลกระทบมีอยู่แล้ว อย่างที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าพรรคพลังประชารัฐภาคใต้อาจสูญพันธุ์ วิธีการแก้คือต้องขยันทำงานให้มากขึ้น
เปล่ากดดันแค่ไม่อยากได้ ครม.ยี้
นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์และให้อิสระในการตัดสินใจเลือก ครม.ในเมื่อเรามี ส.ส.ทั่วภูมิภาครวมถึงภาคใต้ จึงเห็นว่าควรมีรัฐมนตรีในส่วนของกลุ่มเข้าไปบริหารงานด้วย และเห็นว่า ส.ส.ในกลุ่มเป็นรัฐมนตรีได้ทุกคน ยืนยันว่าเราไม่ได้มากดดันเรียกร้องเป็นรัฐมนตรี ถึงไม่มีชื่อ พ.อ.สุชาติ หรือชื่อบุคคลในกลุ่มเป็นรัฐมนตรีไม่เป็นอะไร ภาคใต้สามัคคีกันร้อยเปอร์เซ็นต์
นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เราจะไม่ทำตัวเป็นปัญหาต่อการตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้คัดเลือกคนที่มีศักยภาพมาเป็นรัฐมนตรี เห็นหน้าแล้วไม่ยี้ ให้เป็นที่พอใจและเป็นความหวังของประชาชนได้ เราไม่ต้องการเอาสถานการณ์ที่รัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำมากดดัน และหากข้อเสนอไม่ได้รับการตอบรับ ทางกลุ่มยืนยันจะอยู่กับพลังประชารัฐ และยังทำกิจกรรมร่วมกับพรรค การไม่ได้รัฐมนตรีไม่ถือว่าเสียหน้า แต่ต้องอธิบายประชาชนมากขึ้นเท่านั้น
โวยส่งชื่อ 2 หนไร้สัญญาณบิ๊ก รบ.
ขณะที่แกนนำกลุ่ม ส.ส.ด้ามขวานไทย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทางกลุ่มได้ล่าชื่อ ส.ส.ใต้ทั้งหมด 13 คน เสนอชื่อ พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ตท.12 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นรัฐมนตรีในโควตา ได้ยื่นข้อเสนอผ่านบิ๊กรัฐบาลคนหนึ่งไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ แต่หลังจาก พล.อ.อกนิษฐ์ได้เป็น ส.ว. จึงได้ยื่นใหม่ครั้งที่ 2 เสนอชื่อ พ.อ.สุชาติ ผ่านบิ๊กรัฐบาลคนเดิม แต่ไม่ได้รับการตอบรับและยังขอให้ทางกลุ่มอยู่นิ่งๆ ก่อน ไม่ต้องเคลื่อนไหว จนล่าสุดโผ ครม.ไม่มีชื่อโควตาของ ส.ส.ภาคใต้เลย กลุ่ม 10 ส.ส.ภาคใต้จึงต้องรวมตัวเพื่อแสดงพลังอีกครั้ง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มีรัฐมนตรีจากภาคใต้ถึง 4 คน พรรคภูมิใจไทย 1 คน แต่พรรคพลังประชารัฐไม่มีสักคนเดียว ทั้งที่มีจำนวน ส.ส.เขต 13 คน แบ่งเป็นกลุ่มด้ามขวานไทยที่มี 10 คน และกลุ่ม ส.ส.3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีนายอนุมัติ อาหมัด และนายภาณุ อุทัยรัตน์ ส.ว.เป็นแกนนำ ที่ไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวด้วยแล้ว
“อาดิลัน” แจงไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหว
ด้านนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เรื่องเรียกร้องต่อรองตำแหน่งอาจเป็นข่าวผิดพลาดคลาดเคลื่อน พร้อมสอบถามเพื่อน ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐทั้ง 3 คน ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ ต้องเคารพในความเป็นนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้พิจารณาคนเหมาะสมในการบริหารบ้านเมือง ตนเป็น ส.ส.คนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐในภาคใต้ การต่อรองตำแหน่งไม่มีส่วนร่วม หน้าที่ ส.ส.ในพื้นที่ จะเสนอปัญหาที่พบขณะที่หาเสียงไปสู่ผู้บริหารกำหนดนโยบายแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งเศรษฐกิจ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ความขัดแย้ง การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม เรื่องเหล่านี้จะเสนอให้ผู้บริหารแก้ไขต่อไป
“สกลธี” ยุ “ลุงตู่” ทวงบุญคุณกลับ
เมื่อเวลา 19.30 น. นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และอดีตแกนนำกลุ่ม กปปส.โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “ผมว่าลุงตู่น่าจะทวงบ้างนะครับว่า “ถ้าไม่มีผม พวกคุณจะได้มานั่งสลอนกันแบบนี้หรือ???” #เลิกทวงได้แล้ว #แยกย้ายลงพื้นที่ทำงานเถอะ #รักประชาชนจริงๆกันบ้าง #อย่าเร้าหรือ”
“สมศักดิ์” ยันไม่มีตั้งก๊วนต่อรอง
วันเดียวกัน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจดูเงียบหายไปบ้าง ไม่ออกมาให้ข่าว เวลาว่างยังคงไปเตะบอลออกกำลังกายปกติ ไม่เคยไปตั้งกลุ่มก๊วนต่อรอง หรือสร้างประเด็นตีรวนอะไรใดๆทั้งสิ้น แต่ทุกคนอาจเห็นข่าว ที่กล่าวหาตน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถึงการต่อรองเก้าอี้ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งหมดนั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง การจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีตนคงไม่มีอำนาจไปต่อรองใดๆ ตามที่ภาคสังคมนั้นกล่าวอ้างกัน และตนไม่รู้ว่าที่เขานำเสนอออกมาให้เป็นประเด็นทางสังคมนั้น เพียงเพราะต้องการให้ร้าย หรือทำให้คนในสังคมเข้าใจว่าตัวปัญหาคือตน และกลุ่มสามมิตรหรือไม่ เวลานี้กลุ่มสามมิตรได้ยุติ และเดินหน้าเป็นหนึ่งเดียวในนามพรรคที่ผ่านมาตลอดเวลาการทำงานของกลุ่มสามมิตร ลงพื้นที่อยู่ตลอดในภาคเหนือตอนล่าง และภาคอีสาน จนทำให้เราทราบว่าพี่น้องเกษตรกร กำลังลำบากในเรื่องราคาสินค้าเกษตร เมื่อเราตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ จึงนำปัญหาต่างๆที่ได้รวบรวมมาทำเป็นนโยบายเพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกร

โต้มีสมอง-ความดีพอบริหารกระทรวง
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนนโยบายโคบาลประชารัฐ นำเสนอเพราะหวังให้เกษตรกรมีรายได้จากอาชีพเสริม แต่หยิบยกมาโจมตีว่านำมาทำใหม่เพื่อฟอกตัวเอง ความจริงได้นั่ง รมว.เกษตรฯในยุคนั้น ยังไม่ได้เริ่มเพราะปรับ ครม.เสียก่อน และพรรคไทยรักไทยไม่ได้ทำนโยบายนี้ตามที่ใช้หาเสียงข้อมูลข่าวสารออกมาไม่เป็นความจริงกลับให้ร้ายผมเสียอีก ไม่เคยไปจับจองกระทรวงเกษตรฯตามที่ทุกคนกล่าวอ้าง แต่ช่วงการหาเสียงถูกวางให้พูดเรื่องเกษตรกร เพราะมีประสบการณ์และมีความเข้าใจ เหตุนี้หรือไม่จึงทำให้ทุกคนเข้าใจว่าจับจองกระทรวงเกษตร ถ้าคิดแบบนี้ไม่ยุติธรรมกับผม เวลานี้พอมีข่าวว่าตนจะไปเป็น รมว.ยุติธรรม มีการให้ร้ายป้ายสีเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าจะไปทำงานอยู่ตรงไหน แต่ยืนยันว่ามีความพร้อม มีมันสมองบริหารงาน ประสบการณ์มากพอควร ความดีก็มีปรากฏ
อย่ามาเล่นใต้ดินขู่พึ่ง ก.ม.จัดการ
“คนที่ออกมาโจมตีหรือให้ข้อมูลอาจเสียประโยชน์และกลัวว่าจะเอาหน้าที่ไปทำร้ายพวกเขาในคดีต่างๆหรือไม่ ไม่ทำหรอก เวลานี้ประชาชนเฝ้ารอรัฐบาล ถ้ายังมัวแต่โจมตีกันไปมาเรื่องกระทรวง ใครจะนั่งนั่นใครจะนั่งนี่ ไม่สมควรอย่างยิ่ง ขอให้เป็นหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดเพียงคนเดียว อย่าเล่นใต้ดิน อย่ากวนโคลนในน้ำให้น้ำมันขุ่น การเป็นนักการเมืองที่ดีต้องจริงใจ ทั้งด้านหน้าและลับหลัง ส่วนใครให้ข้อมูลทำร้ายตน ไม่เป็นไรขออโหสิกรรมให้ และหยุดพฤติกรรมเหล่านี้เสีย ต่อไปตนคงต้องพึ่งกฎหมายให้มากขึ้น” นายสมศักดิ์ระบุ

“ชัชวาลล์” ปัดจับมือ “เอี้ยง” ขอเก้าอี้
ที่พรรคพลังท้องถิ่นไท นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท แถลงถึงกระแสข่าวการจับมือนายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทยและพรรคเล็กๆเพื่อต่อรองโควตารัฐมนตรีกับพรรคพลังประชารัฐว่า ไม่เป็นความจริงเคยพูดตั้งแต่แรกแล้วว่า อยากทำงานให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ไม่จำเป็นต้องมีตำแหน่งอะไร เรื่องตำแหน่งแล้วแต่รัฐบาล ถ้าให้เราก็ทำ ถ้าไม่ให้ไม่จำเป็นต้องไปเรียกร้อง ไม่ได้บีบคั้นจะไปบริหารประเทศ อยู่ที่นายกฯจะเห็นอย่างไร ยืนยันไม่เคยตกลงกับนายดำรงค์ พิเดช จะไปร่วมกันบีบคั้นรัฐบาล สิ่งที่นายดำรงค์แถลงเป็นเรื่องส่วนตัวเขาคงอยากทำงาน ใครไปพูดว่าเอาตนไปรวมเพื่อสร้างฐานไม่เป็นความจริง ถ้าไปเรียกร้องตำแหน่งกันอีก ไม่รู้อีก 2 เดือนจะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ถ้าทุกคนยังเรียกร้องอยู่ อยากให้ทุกคนเห็นแก่ประเทศ ประชาชนจะผิดหวัง ถ้าเรายังแย่งกันอยู่ ส่วนที่พรรคชาติพัฒนามี 3 ส.ส.ได้ 1 รมช.แต่พรรคพลังท้องถิ่นไทได้ ส.ส.3 คน แต่กลับไม่ได้ ขอสาบานว่าไม่เคยน้อยใจ ไม่เคยคิดเลยเรื่องนี้พรรคพลังประชารัฐเคยมาสอบถามว่า ต้องการทำงานด้านใดบอกไปว่าถ้าเห็นว่าเราทำอะไรได้เราก็ทำ แต่ตนถนัดแก้ปัญหาคนจน เข้าใจว่าคนจนต้องการอะไร
ย้ำไม่ไปยืนอยู่ข้าง “ธนาธร”
นายชัชวาลล์กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนายโกวิทย์ พวงงาม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท ไปดีเบตร่วมเวทีกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายธนาธรระบุว่า เสียดายที่นายโกวิทย์ไปอยู่พรรคผิด อยากชี้แจงว่าตนรักประชาธิปไตย แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับฝ่ายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายธนาธร เพราะมองดูการกระทำหลายอย่างแล้วรับไม่ได้ นายธนาธรจะทำอะไรก็ทำไป ความคิดเห็นเราไม่ตรง ไม่ต้องมาโกรธกัน อะไรที่ทำแล้วดีก็ทำไป ไม่ต้องมาว่ากัน

“จุรินทร์” โชว์ 9 อเวนเจอร์สทีม ศก.
เมื่อเวลา 10.10 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดตัวทีมอเวนเจอร์สเศรษฐกิจทันสมัยของพรรคมีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคเป็นประธานคณะทำงาน ที่ประกอบด้วย 1.นายอรรถ เหมวิจิตรพันธ์ (รองประธาน Shell International กูรูด้านพลังงาน/Green economy) สมาชิกพรรค เป็นเบอร์ 1 ของคนไทยในบริษัทเชลล์ เชี่ยวชาญด้านพลังงานสีเขียว 2.นางอักษรศรี พานิชสาส์น ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะจีน 3.นางฮอลลี่ อัมระนันท์ นักรณรงค์ป้องกันรักษาโรคมะเร็งเต้านมและสิทธิสตรี 4.นายสุริยะพงศ์ ทับทิมแท้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจแบ่งปัน Sharing Economy 5.นายนาวี นาควัชระ ผู้เชี่ยวชาญเกษตรอินทรีย์ นวัตกรรมชาวบ้าน 6.นายสัญชัย พอพลี ผู้เชี่ยวชาญด้าน Blockchain ได้ฝากให้ช่วยคิดระบบบริหารจัดการพรรคบางเรื่องโดยใช้บล็อกเชน 7. น.ส.ปิยะดา ปุณณกิติเกษม ผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์การตลาดและโซเชียลมีเดีย 8.นายปรมินทร์ อินโสม นักเขียนโค้ดบล็อกเชน และ 9.นายสมศักดิ์ บุญคำ ผู้เชี่ยวชาญวิสาหกิจเพื่อสังคม ท่องเที่ยวชุมชนสตาร์ตอัพ ด้านท่องเที่ยวเศรษฐกิจชุมชน
“ปริญญ์” คุมทีมคลังสมองพรรค
ด้านนายปริญญ์ ในฐานะหัวหน้าทีมอเวนเจอร์ กล่าวว่า คณะทำงานจะขับเคลื่อนในส่วนของพรรคไม่เกี่ยวกับการกำหนดนโยบายให้รัฐมนตรีของพรรคไปดำเนินการ โดยจะลงพื้นที่แก้ปัญหาปากท้องประชาชน สร้างแรงงานฝีมือยุคใหม่ให้ทันสมัย ผ่านเครือข่ายความร่วมมือทุกภาคส่วน ดึงทีมอีคอมเมิร์ซเป็นโค้ชให้ชาวไร่ชาวสวนสร้างตลาดใหม่ ดึงราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้น และเติมเต็มส่วนอื่นเพิ่มรายได้ชาวบ้าน สังคมดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องช่วยกันสร้าง ขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเป็นคลังสมองให้พรรคประชาธิปัตย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต คณะทำงานชุดนี้จะมีบทบาทเสนอไอเดียระดมมันสมองคิดนโยบายที่เหมาะสมตั้งเป้า 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน และ 12 เดือน ระยะสั้นกฎหมายใดไม่เป็นธรรมทีมทำงานจะเข้าไปช่วยดู เช่น เว็บไซต์อะโคด้าหรือบุ๊กกิ้งที่ใช้ทรัพยากรในไทยมีกำไรมหาศาล แต่ไม่ต้องเสียภาษี
ปชป.ส่งชื่อ 7 รมต.ถึงมือนายกฯ
เมื่อเวลา 10.45 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า ได้มอบหมายให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ไปดำเนินการส่งรายชื่อ 7 รัฐมนตรีของพรรคให้นายกรัฐมนตรีไปแล้ว พรรคได้ตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นแล้วไม่พบว่ามีใครมีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นกรณีนายสาธิต ปิตุเตชะ ที่ถูกตรวจสอบการถือหุ้นในบริษัทที่มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการสื่อ หรือนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ที่ถูกโจมตีหลายเรื่องขณะเป็นนายก อบจ.พรรคมีข้อตกลงว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นรัฐมนตรี ต้องลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ผู้อยู่ลำดับถัดไปเลื่อนขึ้นมาทำหน้าที่ ส.ส.แทน
มั่นใจคุณสมบัติครบไร้แรงกระเพื่อม
นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า หลังพรรคมีมติเคาะ 7 รายชื่อรัฐมนตรีเชื่อว่าไม่มีแรงกระเพื่อมอะไรตามมา เพราะทุกอย่างออกมาเป็นมติร่วมที่ทุกคนยอมรับ เชื่อไม่มีปัญหาอะไรตามมาเป็นเรื่องที่พรรคต้องขับ เคลื่อนสามมิติ คือ มิติที่ 1 ขับเคลื่อนโดย รมต.ของพรรค มิติที่ 2 ขับเคลื่อนงานผ่านภารกิจของ ส.ส.พรรคและมิติที่ 3 ขับเคลื่อนผ่านกรรมการบริหารหรือทีมอเวนเจอร์สของพรรคที่จะนำผลสัมฤทธิ์ลงสู่พื้นที่แก้ไขปัญหาให้ประชาชน
“พิสิฐ-อิสระ” จ่อเสียบแทน “กัลยา-จุติ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามข้อตกลงที่ทำไว้ในที่ประชุมร่วมคณะกรรมการบริหารพรรค และ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อพิจารณาบุคคลเป็นรัฐมนตรี กำหนดให้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ไปเป็นรัฐมนตรี ต้องลาออกจาก ส.ส. ไม่รวมถึงหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เพราะถือเป็นโควตาพิเศษ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ได้แจ้งให้คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ว่าที่ รมช.ศึกษาธิการ และนายจุติ ไกรฤกษ์ ว่าที่ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รับทราบแล้ว โดยทั้งสองคนได้รับคำว่าจะทำตามมติข้อตกลงของพรรค เมื่อรับทราบว่าได้รับคัดเลือกเป็นรัฐมนตรีในโควตาของพรรค โดยคนที่จะได้เลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีก 2 คนคือ นายพิสิฐ ลี้อาธรรม และนายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 22 และ 23
“นิพนธ์” เคลียร์ทุกข้อกล่าวหา
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และว่าที่ รมช.มหาดไทย แถลงถึงกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ไปยื่นเรื่องคัดค้านการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี อ้างว่า มีกรณีทุจริตขณะปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.สงขลา อยู่ที่ ป.ป.ช.ว่า การร้องเรียนการจัดซื้อจัดจ้างรถ ซ่อมบำรุงถนน 2 คัน รวม 50 ล้านบาท ไม่ใช่การร้องเรียนว่าตนทุจริต แต่เป็นกรณีที่ตนไม่จ่ายเงิน เนื่องจากการจัดซื้อจัดจ้างมีปัญหา และดำเนินการก่อนที่ตนรับตำแหน่ง เมื่อเข้ารับตำแหน่งมีการร้องเรียนว่ามีปัญหาการสมยอมราคา คล้ายกรณีรถเรือดับเพลิง กทม. ทำให้ตนไม่จ่ายเช็คออกไปแต่ตั้งกรรมการตรวจสอบก่อน มีหนังสือผู้ว่าฯ ลงวันที่ 5 มิ.ย. 57 ระบุให้จ่ายเงินแต่ให้ตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียนด้วย หากใครทำผิดให้ดำเนินการทั้งคดีแพ่งและอาญา การกระทำของตนเป็นการรักษาผลประโยชน์ของจังหวัด ไม่มีเรื่องทุจริตจึงถือหลักตามหนังสือจังหวัดตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน หากจ่ายเงินไปก่อนแล้วพบว่ากระทำผิดภายหลังจะเกิดปัญหาตามมา ขณะนี้คดีค้างอยู่ที่ ป.ป.ช.ยังไม่คืบหน้า แต่ไม่หนักใจอะไรเพราะไม่มีเรื่องทุจริต แต่รักษาประโยชน์ให้ จ.สงขลา
งัด ก.ม.คอมพ์ ฟันคนแพร่ข้อมูลเท็จ
นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องอื่นไม่ได้มี ปัญหาอะไร ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง เช่น กรณีการซื้อรถพยาบาลตามมาตรฐานรถพยาบาล บัญชีนวัตกรรมของกรมบัญชีกลาง เช่นเดียวกับการจัดทำสวนสาธารณะ กว่า 300 ล้านบาท ที่นำสนามกอล์ฟมาทำสวนสาธารณะ มีการร้องต่อศาลปกครองกลางว่าไม่ทำประชาพิจารณ์ ไม่เกี่ยวกับ ป.ป.ช. กรณีกล่าวหาว่าจัดสรรงบฯกระจุกตัวในพื้นที่ไม่เป็นความจริง ทุกอย่างปฏิบัติตามข้อบัญญัติ ข้อกล่าวหาว่านำงบฯ ไปอุดหนุนสโมสรฟุตบอลก็ไม่เป็นความจริง มีแต่โอนเงินให้สมาคม ทุกอย่างต้องปฏิบัติตามระเบียบ หรือกรณีกล่าวหาว่าต้องลาออกจากนายก อบจ.สงขลา ไปเป็นรัฐมนตรี ทำให้ต้องเสียงบประมาณ ก็ไม่เป็นความจริง เพราะตนอยู่ในตำแหน่งเกินวาระแล้ว หากลาออกปลัดจังหวัดจะมารักษาการแทนจนกว่าจะเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ จึงมั่นใจว่าทุกกรณีชี้แจงได้ ไม่มีปัญหาขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส.เรื่องที่ร้องเรียนไม่ใช่ครั้งแรก ทุกครั้งที่เข้าทำงานการเมืองจะมีการโจมตีมาโดยตลอด กำลังสืบหาตัวว่าเอกสารที่ออกมามีที่มาที่ไปอย่างไร คนที่นำมาเผยแพร่ทำให้เสียหายจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายไปจัดการตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไป
“ศรีสุวรรณ” ค้านคนมีแผลร่วม ครม.
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล บริเวณสำนักงาน ก.พ. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยืนหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. คัดค้านการส่งชื่อนายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา เป็น รมช.มหาดไทย โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่าตรวจสอบประวัติการทำหน้าที่นายก อบจ.สงขลา ของนายนิพนธ์ พบว่ามีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจและการปฏิบัติหน้าที่อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อาทิ โครงการประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ชนิด 10 ล้อ 2 คัน วงเงิน 52 ล้านบาท ที่เอกชนเป็นผู้ฟ้องคดีโครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ใช้งบประมาณไม่ถูกต้อง หากแต่งตั้งให้เป็น รมช.มหาดไทย อาจมีผลต่อพยานหลักฐานในการไต่สวนของ ป.ป.ช.
ดักคอ “บิ๊กตู่” แหกตาปราบโกง
“การเสนอชื่อบุคคลที่มีประวัติเคลือบแคลงสงสัยเป็นรัฐมนตรี จะทำให้คณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ยุคนี้เป็นยุคปฏิรูปการเมืองต้องเอาคนที่สะอาดโปร่งใส ตรวจสอบได้มาร่วมงาน หาก พล.อ.ประยุทธ์นำบุคคลเหล่านี้มาร่วม ครม. แสดงว่าการประกาศปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันที่ พล.อ.ประยุทธ์ดำเนินการแหกตาประชาชน” นายศรีสุวรรณกล่าว

พท.ดันคนรุ่นใหม่นั่ง กก.บห.
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังไม่จำเป็นต้องรีบลาออก เพื่อเปิดทางให้เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะขั้นตอนการแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ จะเกิดขึ้นหลังมีการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรีแล้ว คาดว่าจะเริ่มชัดเจนช่วงสัปดาห์สุดท้ายเดือน มิ.ย. พรรคเพื่อไทยได้ร่างระเบียบพรรค กำหนดให้มีกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 29 คน และเตรียมให้แกนนำพรรคที่ไม่ได้เป็น ส.ส.ดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ ประธานพรรค ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ประธานที่ปรึกษาพรรค ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค และผลักดันคนรุ่นใหม่เป็นกรรมการบริหารพรรคมากขึ้น
บี้แจงคำสั่งเฟ้น ส.ว.ซ้ำสิทธิบัตรกัญชา
ร.ท.หญิงสุณิสา ทิวากรดำรง รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯ นำเอกสารคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. มาเปิดเผยต่อสาธารณชนเพราะหายไปจากราชกิจจานุเบกษา แต่ตรวจสอบพบว่าคำสั่ง คสช. ที่ 1/2562 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ไม่ใช่คำสั่งแต่งตั้งกรรมการสรรหา ส.ว. แต่เป็นคำสั่งที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการออกมาตรการสิทธิบัตรกัญชา พล.อ.ประยุทธ์ต้องชี้แจงให้ได้ว่าทำไมคำสั่ง คสช.ที่ 1/2562 จึงมี 2 ฉบับซ้อนกัน เหตุใดจึงไม่มีประกาศคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหา ส.ว. ลงในราชกิจจานุเบกษา การตั้งคนมาคัดเลือก ส.ว.เป็นเรื่องสำคัญและส่งผลกระทบต่อประชาชน เนื่องจาก ส.ว.ที่ผ่านการคัดเลือกต้องเข้าไปใช้อำนาจนิติบัญญัติในนามประชาชนทั้งประเทศ คณะกรรมการที่จะมาเป็นคนคัดเลือก ส.ว. ต้องเป็นผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญ และเพื่อให้สังคมได้รับทราบว่าคณะกรรมการสรรหา ส.ว.เป็นใครมาจากไหนหรือมีคุณสมบัติตรงตามรัฐธรรมนูญกำหนดหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก อาจส่งผลให้การสรรหา ส.ว.เป็นโมฆะ อาจทำให้การโหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯกลายเป็นโมฆะตามไปด้วย

ฝ่ายค้านเอาแน่แก้กติกาบั่นทอน
ต่อมาเวลา 13.30 น. พรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพ เชิญ 7 พรรคการเมืองฝ่ายค้าน ประกอบด้วยพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และพรรคพลังปวงชนไทย มาร่วมหารือแนวทางการทำงานร่วมกัน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่าอยากให้การทำงานฝ่ายค้านในสภาฯมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการตรวจสอบที่ไม่จำกัดบทบาทแค่ในเวทีสภาฯ แต่อยากให้สังคมมีโอกาสร่วมกับเรา 7 พรรคต้องประสานการทำงานกัน โดยต้องสื่อสารกับประชาชน นักวิชาการ องค์กรภาพประชาชน หัวใจสำคัญของ 7 พรรคการเมือง คือการแก้ไขกติกาที่บั่นทอนสถาบันทางการเมือง ต้องเคลื่อนไหวให้สังคมได้รับรู้ถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
“สงคราม” โอ่ฝ่ายค้านสุดแข็งแกร่ง
ด้านนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวตอนหนึ่งว่า 7 พรรคแม้บางครั้งจะมีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่เมื่อมาคุยกันทำให้เกิดเป็นพลัง ที่ผ่านมาไม่เคยมีฝ่ายค้านไหนที่มีพลังและร่วมมือกันขนาดนี้มาก่อน แม้จะมีข่าวว่าพรรคต่างๆ ในบรรดา 7 พรรค ถูกเจาะแต่เรานิ่ง กลายเป็นว่าฝ่ายที่ไม่นิ่งคือฝ่ายรัฐบาลเอง
ลงพื้นที่เคลียร์เหตุผลรื้อ รธน.
ต่อมาเวลา 16.00 น. นายภูมิธรรม แถลงผลการประชุมว่า เพื่อให้การทำงานของฝ่ายค้านมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐ จึงมีมติว่าจะตั้งคณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้ ส.ส. แต่ละพรรคมาทำงานร่วมกัน และส่วนที่สองคณะทำงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน มีตัวแทนพรรคละ 2 คน โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติเป็นประธาน มีนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นเลขาธิการของคณะกรรมการ เพื่อลงไปประสานกับภาคประชาชน นักวิชาการและส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องในการแก้รัฐธรรมนูญตัวสร้างปัญหาในปัจจุบัน รวมถึงทำหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัตินายกฯและ ส.ส. ไปจนถึงสถานการณ์การเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยวันที่ 18 มิ.ย. ตัวแทนทั้ง 7 พรรคจะหารืออีกครั้ง และสัปดาห์หน้าพรรคอนาคตใหม่จะเป็นเจ้าภาพ
ยันไม่เอาการเมืองลงถนน
ด้านนายชัยธวัช ตุลาธน รองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเราไม่ได้มีเจตนาลงไปทำการเมืองบนท้องถนนแบบที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่จะเป็นการทำการเมืองแบบใหม่ที่เชื่อมโยงการทำงานในสภาฯ กับนอกสภาฯ และเชื่อมโยงการทำงานระหว่าง ส.ส. กับประชาชน
กกต. ร่อนหนังสือแจงไทรักธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.มีหนังสือชี้แจงไปถึงหัวหน้าพรรคไทรักธรรม เรื่องการคำนวณจำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อว่า ตามที่ได้มีหนังสือขอให้ทบทวนคะแนนรวมทั้งประเทศของพรรคประชาธิปัตย์ และขอให้เพิกถอนประกาศ กกต.เรื่องผลการเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ครั้งที่ 2) กกต. ขอแจ้งให้ทราบว่าผลคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. ในการเลือกตั้งทั่วไปที่ได้ประกาศผลเมื่อวันที่ 28 มี.ค. กกต. พบว่าบางเขตเลือกตั้งไม่ได้นำผลคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักรมารวม หลังตรวจสอบความถูกต้องครบทุกเขตเลือกตั้งแล้ว พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนรวมที่ใช้คำนวณ 3,957,620 คะแนน ต่อมาเมื่อได้เลือกตั้ง ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 ใหม่ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนรวมที่ใช้คำนวณหา ส.ส. 3,959,358 คะแนน มีผลให้ กกต. ประกาศผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ(ครั้งที่ 2) ตามผลคำนวณมีพรรคการเมืองได้ ส.ส. 25 พรรค 150 คน โดยพรรคไทรักธรรมไม่ได้รับจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทำให้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคไทรักธรรมพ้นจากตำแหน่งตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ร้องระงับประชุมใหญ่พลังชาติไทย
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่สำนักงาน กกต. นายพรพิพัฒ พรหมชนะ อดีตนายทะเบียนและกรรมการบริหารพรรคพลังชาติไทย และตัวแทนสมาชิกพรรค ยื่นหนังสือถึงประธาน กกต. ขอให้ตรวจสอบ พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค และให้มีคำสั่งด่วนที่สุดระงับการประชุมใหญ่ของพรรคที่จะจัดขึ้นวันที่ 22 มิ.ย. ที่โรงแรมเวสต์เกต เรสซิเด้นท์ นายพรพิพัฒกล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคได้มีมติไล่ตนและสมาชิกรวม 69 คน ออกจากสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับพรรคข้อที่ 63 (4) เห็นว่าก่อการเป็นเหตุให้พรรคเสียหาย ทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด เรื่องเกิดขึ้นจากการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 24 มี.ค. พรรคไม่ได้รับเลือกตั้งตามเป้า จึงแสดงสปิริตลาออกจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และได้พูดคุยกับผู้สมัคร ส.ส.เรื่องค่าใช้จ่ายขอรับการเยียวยาจากพรรค แต่พรรคกลับมีหนังสือแจ้งพ้นสมาชิกภาพทั้ง 69 คน อ้างว่าก่อความวุ่นวายทำให้พรรคเสียหายไปรวบรวมผู้สมัครเรียกร้องค่าเยียวยาจากพรรค
พลังไทยรักไทยยื่นสอบสินบนร่วม รบ.
นายวินัย ไชยบุตร เลขาธิการพรรคพลังไทยรักไทย พร้อมกรรมการบริหารพรรค เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.ทวงถามความคืบหน้ากรณียื่นขอให้ กกต.ถอดถอนนายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย เนื่องจากกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยนายวินัยกล่าวว่า พรรคพบหลักฐานสำคัญที่ชี้ว่านายคฑาเทพกระทำผิดจริง โดยนายคฑาเทพได้เขียนจดหมายด้วยลายมือถึงผู้ใหญ่คนหนึ่งที่มีชื่อเสียง มีเนื้อหาเสนอว่า “จะสนับสนุนเงินให้ผู้ใหญ่คนนั้น 1 ล้านบาท ในนามพรรคพลังไทยรักไทย หากพรรคได้ร่วมรัฐบาล และหากมีตำแหน่งรัฐมนตรี พรรคยินดีมอบตำแหน่งดังกล่าวให้” ทำผิดจริยธรรมและอาจผิดกฎหมาย จึงมายื่นขอให้ กกต. ดำเนินการ แต่ผ่านมานานแล้ว กกต. ยังไม่ดำเนินการใดๆ จึงมาทวงถามและยื่นหลักฐานเพิ่มเติมให้เร่งถอดถอนนายคฑาเทพพ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ
“บิ๊กป้อม” เบื่อตอบร่วม ครม. หรือไม่
เมื่อเวลา 09.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการรักษาความปลอดภัยและการจราจรในการประชุมสุดยอดอาเซียนและการประชุมที่เกี่ยวข้องระหว่างวันที่ 20-23 มิ.ย. มีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และกระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ประวิตรกล่าวในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่เตรียมการด้วยความเรียบร้อย วันนี้เปิดกองอำนวยการร่วมเป็นวันแรกและจะปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง ไปจนถึงวันที่ 24 มิ.ย. ขอให้หน่วยงานวางแผนหมุนเวียนกำลังพลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เมื่อถามถึงการตัดสินใจจะอยู่ช่วยงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ใน ครม. ชุดใหม่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรเอาแต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา โดยไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
ปัดตีตั๋วลาบินรักษาตัวต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า มีกระแสข่าวว่าจะลา เพื่อไปต่างประเทศในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตรตอบสั้นๆว่า “พูดกันไปเรื่อย ไม่มี เคยลาหรือ เคยลาที่ไหนล่ะ” ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประวิตรเตรียมตัวลาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ หลังจากปฏิเสธแพทย์มาระยะหนึ่ง เนื่องจากติดภารกิจสำคัญหลายอย่าง
อัด อนค. พบประมงหวังผลการเมือง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ลงพื้นที่รับฟังปัญหาประมงที่ จ.ตราด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.เสนอให้แก้ไข พ.ร.ก.ประมงมาตรา 34, 69 และ 81 ว่า สังคมต้องพิจารณาอย่างรอบคอบว่าเป็นผลดีหรือส่งเสริมการทำลายล้างทรัพยากรทางทะเล ฝ่าฝืนมาตรฐานแรงงานเปิดช่องให้ค้ามนุษย์เหมือนในอดีตกันแน่ การลงพื้นที่หาประโยชน์ทางการเมืองนอกสภาฯ อาจกระทบความมั่นคงทรัพยากรและเศรษฐกิจการประมงไม่รู้ตัว ถ้าศึกษาอย่างแท้จริงจะพบว่าถ้ายกเลิกมาตรา 81 จะทำให้การประมงกลับไปไร้การควบคุมเหมือนที่ผ่านมา มาตรา 69 ห้ามจับปลากะตักเวลากลางคืนเพื่อรักษาปริมาณปลาให้เหมาะสม และมาตรา 34 ห้ามชาวประมงพื้นบ้านออกไปทำประมงนอกชายฝั่ง ยังไม่บังคับใช้ ยังออกไปทำประมงได้ตามปกติ
ขึ้นราคาน้ำมันปาล์มช่วยชาวสวน
พล.ท.วีรชนเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พอใจที่ราคาปาล์มสดที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 1.80 บาท เป็น 3.20-3.50 บาท/กก. น้ำมันปาล์มดิบปรับขึ้น 15 บาท เป็น 20 บาท/ลิตร และคาดว่าราคาปาล์มสดอาจปรับขึ้นไปถึง กก.ละ 4 บาท หากใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี 10 และบี 20 เพิ่มขึ้น ขณะที่สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินลดลงจาก 4 แสนตัน เหลือ 3 แสนตัน ใกล้เคียงกับระดับที่ควรสำรองไว้ 2.5 แสนตัน ส่วนกรณีห้างสรรพสินค้าบางแห่งติดป้ายขึ้นราคาน้ำมันปาล์มขวดละ 10 บาทนั้น ภาครัฐเพียงขอความร่วมมือปรับราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนไม่ใช่ต้องการให้ผู้บริโภคเดือดร้อน เพราะการขายต่ำกว่าทุนผิดกฎหมาย บิดเบือนกลไกตลาด ทำลายคู่แข่ง นายกฯอยากให้เข้าใจข้อเท็จจริง ถ้ากดราคาลงไว้จะทำให้ปาล์มสดของเกษตรราคาตก