ผลพวงจากรัฐธรรมนูญ ปราบโกง เพราะต้องการเอาชนะคนเพียงคนเดียว ทำทุกอย่างที่จะให้ได้มาซึ่ง อำนาจแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เชื่อมโยงอำนาจจากปัจจุบันลากยาวไปถึงอนาคต โดยลืมคิดไปว่า ระบอบประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองที่ตัดสินอำนาจด้วยประชาชนเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ ถ้าจะพยายามดึงดัน ทะลวงทางตันเพื่อไปสู่จุดหมายโดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมา ในท้ายที่สุดแล้วจะกลายเป็น มหันตภัยครั้งร้ายแรงของประเทศ และความหายนะของประชาชน

องค์กรภายใต้รัฐธรรมนูญเองที่มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้ง ก็ประสบปัญหาจากรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันนี้ กระทั่งวิธีการคิดคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กกต.ที่มีอำนาจเต็มก็ยังไม่กล้าตัดสินใจว่าจะใช้สูตรไหน ระหว่างวิธีการคำนวณที่เสนอร่วมกับ กรธ. ที่จะส่งผลให้พรรคการเมืองที่ได้คะแนนพรรคต่ำกว่าคะแนน ส.ส.พึงมี ได้อานิสงส์จำนวน 27 พรรคการเมือง วิธีที่ 2 ตามการคิดคำนวณของ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ที่ยึดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 91 พรรคการเมืองที่จะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต้องได้คะแนนพรรคไม่ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ย ส.ส.พึงมี จำนวน 16 พรรคเท่านั้น และสูตร ที่ 3 เป็นวิธีคิดของ โคทม อารียา อดีต กกต.อีกคน ที่ให้คิดตามคะแนนเฉลี่ยของ ส.ส.พึงมีเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ความเห็นของ กรธ.ที่ยืนยันว่า คะแนนทุกคะแนนมีความหมาย เพราะฉะนั้นพรรคที่มีคะแนนต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ย ส.ส.พึงมีก็ควรจะได้รับอานิสงส์จากคะแนนส่วนที่ถูกทิ้งน้ำ ซึ่งเมื่อนำมารวมกันแล้วมีเป็นจำนวนมาก ที่จะนำมายกประโยชน์ให้กับพรรคเล็กไล่ไปตามลำดับคะแนนจนกว่าจะได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อครบ 150 คน ซึ่งวิธีนี้น่าจะเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนกรณีการนำสูตรนี้มาคิดคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจะขัดกันระหว่าง รัฐธรรมนูญมาตรา 91 กับ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 128 หรือไม่นั้น กรธ. ให้เหตุผลว่า รัฐธรรมนูญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ในเบื้องต้น พ.ร.ป.กำหนดรายละเอียดในการปฏิบัติเพราะฉะนั้นไม่มีอะไรที่จะเป็นการขัดแย้งหรือทำให้การคิดคะแนน ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อเป็นโมฆะ

...

อันที่จริงแล้วปัญหาที่น่าเป็นห่วงคือ การประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง มากกว่า ถ้าจะยึดตามกรอบเวลา 150 วันจากวันที่มีพระราชกฤษฎีกาให้เลือกตั้ง ก็จะครบวันที่ 9 พ.ค.พอดี

เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ถึงจะไม่ต้องประกาศรับรอง ส.ส.ให้ครบ 100% คือประกาศได้แค่ 95% เพื่อให้เปิดประชุมสภาได้ก็พอ แต่เมื่อดูจากจำนวนเรื่องร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้ง โดยเฉพาะคดีขาดคุณสมบัติเพราะถือหุ้นสื่อ หรือการทำผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.อื่นๆเป็นร้อยเรื่อง

มีโอกาสจะประกาศรับรอง ส.ส.ให้ครบ 100% ไม่ได้ อย่างน้อยจะต้องประกาศรับรอง ส.ส.ให้ได้มากกว่า 330 คนในวันที่ 9 พ.ค.นี้ ยังไม่รวมกับการคิดคะแนน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อที่ต้องรอประกาศรับรอง ส.ส.ให้ครบทุกเขต ในที่สุดแล้วจะเกิดปัญหาขึ้นมา 3 กรณี ถ้าประกาศรับรอง ส.ส.หลังวันที่ 9 พ.ค.จะเกิดอะไรขึ้น หรือ กกต. จะประกาศรับรอง ส.ส.เขต ให้ครบร้อยละ 95 ไปก่อนภายในวันที่ 9 พ.ค.นี้ แล้วมาสอยเป็นใบแดงทีหลัง

หรือปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ.

หมัดเหล็ก