ปัดโดนนายทุนบงการ จ่อเชือดพวกแตกแถว ธนาธรปลุกรับสมาชิก
“พุทธิพงษ์” รีบแจ้นปัดซื้องูเห่าฝังเพชรหลักร้อยล้าน แจงไม่เกี่ยวข้องยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่ “มิ่งขวัญ” เคลียร์คัตชัดเจน ยันไม่ร่วมตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐ ไม่โหวตหนุน “บิ๊กตู่” อุดมการณ์ต่างกัน ลั่นยังอยู่ฝ่ายเดียวกับเพื่อไทย ปัดข้อหานายทุนบงการลับหลัง จ่อฟ้องพวกแตกแถว “ธนาธร” ชวนแนวร่วมเดินตามฝันสมัครสมาชิก อนค. “ปิยบุตร” ย้ำไม่มีงูเห่าสีส้มแน่ พท.ถามกลุ่มคิดสืบอำนาจสะกดคำว่า “สปิริต” เป็นไหม “วิษณุ” ชี้คดี “ธนาธร-ปิยบุตร” ไม่กระทบประกาศผล ส.ส. ยื่นยุบพรรคปมบงการไม่ใช่ง่าย “ป๋า” ให้กำลังใจ ป.ป.ช.ทำงาน แจงตีตกคดี “ปู” ออก พ.ร.ก.กู้เงิน
ประเด็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้พิจารณายุบพรรค โดยอ้างว่ามีบุคคลภายนอกเข้ามาบงการการดำเนินกิจกรรมของพรรค ล่าสุดนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรค นำทีมผู้บริหารพรรคออกมาแถลงตอบโต้ พร้อมพิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย

...
“มิ่งขวัญ” ยันไม่ร่วมพลังประชารัฐ
เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าพรรค นายสุภดิช อากาศฤกษ์ รองหัวหน้าพรรค นายภาสกร เงินเจริญกุล เลขาธิการพรรค นายประพันธ์ เอี่ยมศิริ โฆษกพรรค นายอภิวัฒน์ อากาศฤกษ์ นายทะเบียนพรรค พร้อมกรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงชี้แจงกรณีผู้สมัคร ส.ส. พรรคเศรษฐกิจใหม่ ยื่นหนังสือต่อ กกต.ขอให้ยุบพรรค อ้างว่าถูกครอบงำจากบุคคลภายนอก นายมิ่งขวัญกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนี้ จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่นั้น ตนไม่รู้ การจะไปสืบสาวราวเรื่องต่อหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องของเรา เป็นหน้าที่ของ กกต. เมื่อถามว่าพรรคเศรษฐกิจใหม่จะไปร่วมกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายมิ่งขวัญตอบว่า ตนไม่ไปร่วม เพราะได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วก่อนหน้านี้ ไม่ได้รังเกียจหรือโกรธพรรคพลังประชารัฐ ถือเป็นคนรู้จักในวงการ แต่อุดมการณ์ทางการเมืองต่างกัน คิดไม่เหมือนกัน
ลั่นยังอยู่ฝ่ายเดียวกับเพื่อไทย
นายมิ่งขวัญกล่าวอีกว่า การที่ทุกคนบอกมีงูเห่าในพรรค หรืออยู่ระหว่างการเจรจากับพรรคพลังประชารัฐนั้น ยืนยันว่าไม่มี และไม่เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงไม่ร่วมโหวตชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ และจะยังอยู่ในฝ่ายเดียวกับพรรคเพื่อไทย ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ช่วงนี้เป็นเวลาเถลิงถวัลยราชสมบัติ อยากให้คนไทยมีความสุข ไม่อยากให้มานั่งทะเลาะกัน ถึงเวลาที่ประเทศเจริญก้าวหน้า เจริญรุ่งเรือง และหากย้อนประวัติของตนจะเห็นจุดยืนชัดเจนในเรื่องของความ จงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ปัดนายทุนคอยบงการลับหลัง
นายสุภดิช อากาศฤกษ์ กล่าวว่า เรื่องที่สมาชิกไปร้องต่อ กกต. ไม่เป็นความจริง ที่ผ่านมาพรรคจัดอบรมสมาชิกมาตลอด นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ บุคคลที่ถูกอ้างชื่อว่าเป็นนายทุนมาครอบงำพรรคนั้น เป็นสมาชิกพรรคเศรษฐกิจใหม่ตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2562 พี่ชายเป็นว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค พรรคเรามีความเป็นเอกภาพ ไม่มีใครแตกแถว ไม่มีงูเห่า เราไปในทิศทางเดียวกันแน่นอน แต่ยังไม่มีการพูดคุยกับผู้ไปยื่นยุบพรรค กำลังดูข้อกฎหมายว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร เพราะพรรคเราไม่ได้ทำอะไรผิด เรืองนี้กระทบต่อสมาชิกและคนหมู่มาก
ปัดซื้องูเห่า-ยุบเศรษฐกิจใหม่
ที่สุเหร่าลำสาลี ถนนกรุงเทพกรีฑา นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างลงพื้นที่ช่วย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 13 หาเสียง ว่า ขอประชาชนออกมาใช้สิทธิ เพราะทุกคะแนนเสียงมีความหมาย สะท้อนถึงการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยเครือข่ายของพรรคเชื่อว่าจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล รวบรวมได้เกิน 251 เสียงแน่นอน จะมีอีกหลายพรรคเพิ่มเติมเข้ามา เมื่อถามว่ารวมพรรคเศรษฐกิจใหม่ด้วยหรือไม่ นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ขอยังไม่เปิดเผย ส่วนข้อวิจารณ์การยื่นยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่ เพราะต้องการให้มาร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐนั้น ยืนยันว่าพรรคไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องภายในของเขา เราไม่ไปก้าวก่าย แต่ละพรรคมีกระบวนการตรวจสอบของตัวเองอยู่ เมื่อถามว่าสื่อโซเชียลระบุว่ามีการซื้อตัวงูเห่าตัวละ 100 ล้านบาท นายพุทธิพงษ์ตอบว่า ไม่เป็นความจริง ตัวเลข ส.ส.ยังไม่นิ่ง อยากเตือนผู้ที่ปล่อยข่าวให้ระวังการฟ้องร้อง
“ตรีรัตน์” ฝากแก้ปัญหาชุมชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเวลาเดียวกัน นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 13 พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชน และบังเอิญพบนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ประธานยุทธศาสตร์ กทม. พรรคพลังประชารัฐ ที่มาช่วยผู้สมัครหาเสียงเช่นกัน นายตรีรัตน์กล่าวกับนายพุทธิพงษ์ว่า “แม้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ผมจะไม่ได้เป็น ส.ส. แต่หากขอได้อย่างนึง ถ้ารวบรวมปัญหา เรื่องร้องเรียนจากชุมชนมาให้ พี่ต้องช่วยแก้ไขปัญหาให้พี่น้องในชุมชนด้วย เพราะคือความตั้งใจที่เข้ามาทำงานการเมือง” ต่อมานายตรีรัตน์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องแปลกมากที่ กกต.สั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่เพียง 1 หน่วย ทั้งที่ตรวจสอบพบกรณีบัตรเขย่งและความไม่ชอบมาพากลอื่นมากกว่า 30 หน่วย ถือว่าเสียเวลาและงบประมาณไปเปล่าๆ

“ธนาธร” ชวนแนวร่วมทำตามฝัน
วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นายไกลก้อง ไวทยการ นายทะเบียนพรรค แจ้งว่ามีผู้สมัครสมาชิกพรรคเกิน 50,000 คนแล้ว ตนรู้สึกทั้งตื่นเต้นและประหลาดใจที่เห็นตัวเลขสมาชิกพรรคมากเกินกว่าที่เคยคาดไว้เมื่อตอนตั้งพรรคใหม่ๆ แต่อีกด้านนึงเมื่อมาคิดว่ามีประชาชนผู้ที่เดินเคียงข้างเราอีก 6 ล้านกว่าเสียง พอหันมาดูตัวเลขสมาชิกพรรค 5 หมื่นคน คิดเป็นแค่ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่โหวตให้พรรค อยากขอให้ผู้ที่ สนับสนุนและยืนเคียงข้างธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ มาร่วมกันสมัครสมาชิกพรรคให้มากๆ “ความฝันง่ายๆ ของผมและทุกคนที่มาร่วมกันทำพรรค คืออยากให้พรรคอนาคตใหม่เป็นพรรคที่มีสมาชิกมากที่สุด มีระบบสมาชิกเข้มแข็งที่สุด มีส่วนร่วมมากที่สุด มีกิจกรรมมากที่สุด มีชีวิตชีวามากที่สุด ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมมากที่สุด สร้างสรรค์มากที่สุด และเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดด้วย จะพัฒนาให้มีกิจกรรมและกลไกการส่งเสริมการมีส่วนร่วมต่างๆ ของสมาชิกพรรค ธนาธรหรือปิยบุตรไม่ใช่เจ้าของพรรคอนาคตใหม่ แต่เจ้าของที่แท้จริงคือสมาชิกพรรคผู้ที่คอยให้การสนับสนุนค้ำจุน มีส่วนร่วมกำหนดทิศทางพัฒนา และความเป็นไปของพรรค สมาชิกพรรคคนนั้นที่ผมกล่าวถึง คือคุณ”
“ปิยบุตร” ยันไม่มีงูเห่าสีส้มแน่
ขณะที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมว่าที่ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่เข้าสภา ว่า ภายในพรรคพูดคุยกันบ่อยครั้ง มีการจัดสัมมนาติวกัน ทำงานทางความคิดกันมาโดยตลอด จะจัดอีกครั้งปลายเดือน เม.ย.นี้ เป็นการบรรยายให้ความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ กฎหมาย ข้อบังคับการประชุม กระบวนการนิติบัญญัติ การตั้งกระทู้ หน้าที่กรรมาธิการ นโยบายที่พรรคอยากแปลงให้เป็นกฎหมายทำอย่างไร พร้อมทั้งบรรยายประวัติศาสตร์การเมืองไทยด้วย จะจัดกันบ่อยๆ เราต้องการทำการเมืองแบบใหม่จริงๆ ส่วนเรื่องงูเห่านั้น ยืนยันว่าที่เรามารวมตัวกันคือเรื่องของอุดมการณ์แนวคิด ทุกคนได้ลงนามในคำประกาศสัตยาบันของพรรคแล้ว ว่าจะอยู่ร่วมกันจนกว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน เราจะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. พวกเรานำไปรณรงค์หาเสียงจนได้เป็น ส.ส.เพราะเรื่องเหล่านี้ ต้องไม่ทรยศต่อคะแนนที่พี่น้องประชาชนไว้วางใจ มั่นใจว่าจะไม่มีงูเห่า แต่ในท้ายที่สุดถ้ามันจะเกิดขึ้นอะไรก็ห้ามไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่มี
พท.ถามสะกด “สปิริต” เป็นไหม
นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถอดรหัสความไม่ปกติที่เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้ง สะท้อนถึงการขัดขวางพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ไม่ให้เข้าบริหารพลิกฟื้นประเทศหลังอยู่ในระบอบเผด็จการเกือบ 5 ปี ความพยายามดังกล่าวยิ่งเด่นชัดหลังเลือกตั้ง เมื่อรวมคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตของพรรคฝ่ายประชาธิปไตย พบว่ามีมากกว่าพรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจอย่างเทียบกันไม่ติด แม้ฝ่ายสืบทอดอำนาจจะมั่นใจว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกตัวเอง แต่ตัวเลขที่ออกมาบอกชัดเจนว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการการสืบทอดอำนาจ ดังนั้นทางออกคือฝ่ายสืบทอดอำนาจต้องยอมรับความจริง ที่ผ่านกระบวนเลือกตั้งตามวิถีทางประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา นอกจากว่าจะสะกดคำว่าสปิริต และมารยาททางการเมืองไม่เป็น
เพื่อชาติล้อผู้เฒ่ากลายเป็นเด็ก
น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เพิ่งเข้าใจประโยคที่ว่าเมื่อกาลเวลาผ่านไป “ผู้เฒ่าจะเป็นเด็กอีกครั้ง” จากสถานการณ์การเมืองขณะนี้ เนื่องจากคณะผู้เฒ่าที่อยากอยู่ยาววัยร่วงโรยกำลังเปิดศึกแย่งชิงอำนาจจากคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ถ้ามองในสายตาคนนอกน่าจะขำในพฤติกรรมผู้เฒ่า แต่ถ้ามองในสายตาคนรุ่นใหม่ที่ได้รับผลกระทบคงจะขำไม่ออก ทั้งนี้ ฝ่ายผู้เฒ่าที่หวงอำนาจ มีเสียง ส.ส.จากประชาชนสนับสนุนไม่เพียงพอ แต่ดันทุรังอยากมีอำนาจต่อไป ชอบอ้างเหตุผลว่าต้องทำให้หลักการต่างๆบิดเบี้ยว เพื่อบ้านเมืองจะได้ไม่ถึงทางตัน ขอบอกเลยว่าเมืองไทยไม่เคยถึงทางตัน ทางตันที่ว่าคือ ทางตันของกลุ่มผู้เฒ่าที่อ้างเพื่อผลประโยชน์ของการอยากมีอำนาจยืนยาว

เด็ก ปชป.ออกหมัดสวน“ชูวิทย์”
อีกด้านนายราเมศ รัตนะเชวง รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอบโต้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ที่กล่าวพาดพิงโจมตีพรรคประชาธิปัตย์ตลอดว่า อย่าบิดเบือนความจริง พรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันการเมือง ไม่ได้ตั้งมาเฉพาะกิจเหมือนที่นายชูวิทย์เคยตั้งพรรคมา เราพร้อมรับฟังทุกความเห็น ไม่ดูถูกคนอื่นด้วยวิธีการที่นายชูวิทย์ทำ การแพ้เลือกตั้งไม่เป็นอุปสรรคในการทำหน้าที่ พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วตลอด 7 ปีที่ไม่มีสภาฯ แต่พรรคไม่เคยปฏิเสธการช่วยเหลือประชาชน ฉะนั้น อย่าดูถูกกัน การพาดพิงถึงนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน ว่าให้พักได้แล้วนั้น ยืนยันว่าทั้งสองท่านยังทำประโยชน์ให้ประเทศชาติและส่วนรวมได้ ขอให้ไปเรียกร้องกับคนโกงการเลือกตั้ง คนทุจริตโกงชาติบ้านเมืองให้หยุดพักจะดีกว่า
15 กก.บห.พลังชาติไทยลาออก
ที่พรรคพลังชาติไทย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี นายพรพิพัฒ พรหมชนะ รักษาการตำแหน่งนายทะเบียนสมาชิกพรรคพลังชาติไทย เดินทางมายื่นเอกสารการลาออกต่อ พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายพรพิพัฒกล่าวว่า คณะกรรมการบริหารพรรคที่แสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก 15 คน มอบหมายให้ตนมายื่นเอกสารหลักฐานการลาออกต่อรักษาการหัวหน้าพรรค พร้อมทั้งเรียกร้องให้รักษาการหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคที่เหลืออยู่แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก และเรียกประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม มีคนในบ้านออกมาบอกว่าไม่รับหนังสืออะไรทั้งนั้น ตนจึงเหน็บเอกสารไว้ที่หน้าประตูที่ทำการพรรคแล้วก่อนจะเดินทางกลับ
“ปูเค็ม” ยื่นสอย 7 พรรคขั้ว พท.
ที่สำนักงาน กกต. ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม กลุ่ม กปปส. เข้ายื่นหนังสือถึง กกต. ขอให้ตรวจสอบสมาชิกพรรคการเมือง 6 พรรค เนื่องจากยังถือครองหุ้นบริษัทที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจด้านสื่อสารมวลชน แม้บางแห่งปัจจุบันเป็นบริษัทร้าง แต่ยังถือเป็นความผิดเพราะยังไม่ได้จดทะเบียนเลิกกิจการ เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ขอให้ กกต.ตรวจสอบ สำหรับผู้สมัครที่ยื่นถอดถอนเป็นผู้สมัครของ 6 พรรคการเมือง รวม 32 คน แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 10 คน อาทิ นางอาภรณ์ สาราคำ ว่าที่ ส.ส.อุดรธานี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ว่าที่ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ 7 คน พรรคเสรีรวมไทย 6 คน พรรคเพื่อชาติ 5 คน พรรคพลังปวงชนไทย 2 คน พรรคประชาชาติ 2 คน หากพบว่ามีความผิดจริงจะมีผลให้คะแนนของทั้ง 6 พรรค หายไป 286,805 คะแนน ส่งผลให้จำนวน ส.ส.พึงมีหายไป 9 คน และส่งผลให้คะแนนของทั้ง 6 พรรคไม่ใช่เสียงข้างมากที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้

“วิษณุ” ชี้คดี อนค.ไร้ผลกระทบ
ช่วงเที่ยงที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ตกเป็นผู้ต้องหาในหลายคดีจะกระทบต่อการประกาศรับรองผลเลือกตั้งหรือไม่ ว่าไม่เกี่ยวกัน ผลกระทบนั้นมีแน่ หากรับรองการเป็น ส.ส.แล้วเกิดมีปัญหา พบว่ามีความผิดและดำเนินคดีถึงที่สุด ก็ต้องถือว่าเป็นตำแหน่งว่าง แต่เมื่อยังไม่ถึงขั้นตอนการพิพากษาก็ยังไม่ถือว่ามีปัญหา ไม่มีผลกระทบอะไร เมื่อมีการเปิดประชุมสภาจะได้รับความคุ้มกัน แปลว่าหยุดดำเนินคดี ทำได้เฉพาะอยู่ระหว่างสมัยประชุมสภา และสภาคุ้มครอง เว้นแต่เจ้าหน้าที่จะขอตัวและสภามีมติอนุญาต ถึงสามารถดำเนินการได้ เหมือนขั้นตอนการขอตัวไปดำเนินคดีทั้งหลาย แต่ถึงวันประชุมสภาเจ้าหน้าที่ก็ต้องปล่อยตัวกลับมาประชุมสภาอยู่ดี การจะขาดจากตำแหน่งได้นั้นต้องรอให้คดีถึงที่สุด หรือขาดคุณสมบัติขึ้นมาก่อน
ยังมีช่องให้การเมืองดิ้นไปได้
เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองวันนี้ ถึงขั้นต้องพูดถึงรัฐบาลแห่งชาติ หรือรัฐบาลปรองดองแล้วหรือยัง นายวิษณุตอบว่า ไม่มีความเห็นต้องไปถามคนที่พูด ไม่ค่อยเข้าใจว่าคืออะไร หรือทำอย่างไร และไม่ทราบว่าสถานการณ์วันนี้จะทำให้สิ่งที่เขาพูดเกิดขึ้นได้หรือไม่ กลไกตามกฎหมายไม่ได้ระบุในเรื่องนี้ แต่มีกลไกที่จะทำให้การเมืองเดินไปได้ โดยให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีกันในสภา ไม่ว่าจะกี่รอบแล้วยังไม่สามารถได้ข้อสรุป จึงจะอาศัยเสียงของ ส.ว. โหวตเปิดทางให้เลือกคนนอกมาเป็นนายกฯได้
ยื่นยุบพรรคปมบงการไม่ง่าย
เมื่อถามว่า มีการยื่นต่อ กกต.ให้ยุบพรรคการ เมืองจำนวนมาก นายวิษณุตอบว่า การร้องยุบพรรคอาจมีมาก แต่การยุบพรรคจริงๆไม่ได้ง่าย แม้แต่กรณีพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ก็ไม่ใช่ว่าง่าย เราอาจรู้สึกว่ากระบวนการมันเร็ว แต่การเข้าไปสู่ข้อหานั้นไม่ได้เข้าไปง่ายๆ ล่าสุดที่มีการยื่นยุบพรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวหาว่ามีบุคคลภายนอกครอบงำพรรคนั้น ข้อหานี้ไม่ง่าย แต่ไม่ต้องถึงขนาดมีใบเสร็จ เพียงแค่มีพยานบุคคล แต่ขอให้มีความชัดเจนจนศาลเชื่อว่ามีการบงการจริง ได้แก่ ต้องเป็นคนนอก ต้องบงการ และบงการเรื่องกิจกรรมของพรรค ส่วนเรื่องอื่นที่ไม่ใช่กิจกรรมพรรคไม่เป็นไร เมื่อถามว่าหากให้เปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคถือเป็นการบงการหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า อย่างนี้ไม่ได้ ถือว่าบงการในเรื่องกิจกรรมของพรรค คำว่ากิจกรรมของพรรค เป็นกิจกรรมที่กรรมการบริหารหรือสมาชิกพรรคต้องตัดสินใจกัน แต่คนนอกเข้ามาเป็นมือที่สามไม่ได้ เมื่อถามว่าการสั่งให้ประชุมพรรคหรือไม่ประชุมพรรค ถือว่าบงการหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า อย่างนี้เรียกบงการ แต่ต้องมีพยานที่มากพอจนศาลเชื่อว่ามาบงการจริง
นักวิชาการเห็นเเวว รบ.แห่งชาติ
ขณะที่นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงข้อเสนอการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า ปรากฏการณ์นี้เป็นผลมาจากการที่เลือกตั้งเสร็จไปเกือบ 1 เดือน ยังไม่เห็นทิศทางจัดตั้งรัฐบาล ในภาวะเเบบนี้โอกาสที่จะมีรัฐบาลแห่งชาติเป็นไปได้ โดยมี 2 ปัจจัย และ 3 เงื่อนไขเอื้ออำนวยอยู่ ปัจจัยแรกคือ กติการัฐธรรมนูญมาตรา 272 เปิดโอกาสให้มีนายกฯนอกบัญชีพรรคเข้ามาได้ ปัจจัยที่สอง ภาวะเสียงปริ่มน้ำของขั้วการเมืองใหญ่ ส่วน 3 เงื่อนไขคือ 1.ทิศทางคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตีความจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของแต่ละขั้ว 2.กรอบระยะเวลาการประกาศผลเลือกตั้ง อาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะได้ 3.เรื่องคดีความ ใบเหลือง เเดง ส้ม จาก กกต. ถ้าเป็นรัฐบาลแห่งชาติในลักษณะให้นายกฯคนนอก และ ครม.เป็นคนนอก อาจไม่มีฝ่ายค้านเลย ก็เป็นไปได้ที่เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์อาจจับมือกันร่วม แต่จะไม่มีใครตรวจสอบ เป็นข้อวิจารณ์ว่าผิดหลักประชาธิปไตยแบบรัฐสภา นั่นคือหลักการ แต่ความเป็นจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในภาวะเดินไม่ได้อาจกลายเป็นสิ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมา เป็นไปได้ที่เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ รวมถึงทุกพรรคจับมือกันตั้งรัฐบาลแห่งชาติ

ดีเอสไอรับคดี “ฟอร์ด” หมิ่น คสช.
อีกเรื่อง พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง แนวร่วมนักเคลื่อนไหวกลุ่มคนเสื้อแดง เข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอ กองคดีความมั่นคง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 10 ก.พ.62 ระบุ “คสช.จะใช้อำนาจมาตรา 44 เพื่อตัดสิทธิบุคคลสำคัญท่านหนึ่งมิให้เกี่ยวข้องทางการเมือง หรืออีกนัยหนึ่งต้องการผูกขาดอำนาจในการปกครองประเทศอยู่ในมือของกองทัพฝ่ายเผด็จการ” เข้าข่ายเป็นการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน ทั้งนี้ดีเอสไอรับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษที่ 12/2562 พนักงานสอบสวนจะเปิดโอกาสให้นายอนุรักษ์ นำพยานหลักฐานมาหักล้าง ก่อนพิจารณาความเห็นทางคดีส่งให้อัยการ
“ป๋า” ให้กำลังใจ ป.ป.ช.ทำงาน
วันเดียวกันเวลา 10.30 น. ที่บ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมกรรมการ ป.ป.ช.รวม 9 คน ประกอบด้วยนายณรงค์ รัฐอมฤต นายวิทยา อาคมพิทักษ์ นายปรีชา เลิศกมลมาศ พล.ต.อ. สถาพร หลาวทอง น.ส.สุภา ปิยะจิตติ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ นายสุรศักดิ์ คีรีวิเชียร พล.อ.บุณวัจน์ เครือหงส์ และนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. พร้อมคณะ ผู้บริหารเข้ารับพรและโอวาทจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า พล.อ.เปรมให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมระบุว่าถือเป็นเกียรติยศที่ได้เข้ามาปฎิบัติหน้าที่ตรงนี้ ขอให้ทำดี และรักษาความดีไว้ ปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด
แจงตีตกคดีบริหารจัดการนํ้า
ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงผลการไต่สวนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมกับคณะรัฐมนตรีลงมติเห็นชอบออก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อวาง ระบบบริหารจัดการน้ำ วงเงิน 3.5 แสนล้านบาทโดยมิชอบ ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า ไม่ปรากฎว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ ครม. ร่วมกันตรา และออก พ.ร.ก.ดังกล่าวโดยมิชอบ เรื่องดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ ครม.กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ให้ข้อกล่าวหาตกไป โดย ป.ป.ช.พิจารณาโดยอาศัยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 5-7/2555 วันที่ 22 ก.พ.2555 ว่า การตรา พ.ร.ก.ดังกล่าวเป็นกรณีเพื่อประโยชน์ที่จะรักษาความมั่นคง ทางเศรษฐกิจประเทศ และป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ และเป็นกรณีฉุกเฉินมีความจำเป็นรีบด่วน มิอาจหลีก เลี่ยงได้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า การตรา พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวเป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรค 1 และวรรค 2 ป.ป.ช.จึงมีมติเอกฉันท์ให้ยกคำร้องดังกล่าว