ถึงตัวจริงพระเอกของท้องเรื่อง “นายกฯลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่ได้โผล่ แต่ส่ง “เสียงจริง” และคลิปวิดีโอโชว์ภาพเคลื่อนไหว ไปเปิดบนเวทีปราศรัยของค่ายพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็เก๋ได้
ประเดิมแมตช์ใหญ่ เซอร์ไพรส์ในมหกรรมปราศรัยหาเสียงก่อนเข้าโค้งสุดท้าย ที่สนามฟุตบอลทุ่งทะเลหลวง สโมสรสุโขทัย เอฟซี ของเจ้าถิ่น “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พปชร.
ช็อตแรง “บิ๊กตู่” มาช่วยกระตุกแต้มแล้ว
ไม้เด็ดคิวนี้ เพียงแค่ไม่ไปโชว์ตัว แต่เนื้อหาสาระในการปราศรัยผ่านคลิป ก็ถือเป็นแพลตฟอร์มใหม่ ไม่แตกต่างจากแม่ทัพป้อมค่ายอื่นๆที่ตระเวนช่วยลูกทัพหาเสียง
โดยไฮไลต์หลังร่ายยาวเรื่องการทำงานแก้ปัญหาชาติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ยังกระตุกอารมณ์ผู้คนที่ยังลังเล บอกหากมีโอกาสปฏิบัติหน้าที่ต่อ จะสานงานพัฒนาประเทศ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
“อย่าลังเลใจ ขอให้คุณกล้าไปกับผม”
ที่ชูจั๊กกะแร้ไปกับท่านผู้นำแน่ ไม่พ้นบรรดาขุนศึก ขุนพล ตลอดจนลูกค่าย พปชร. โดยเฉพาะ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ที่ยิ้มแฉ่งในฐานะเจ้าบ้าน “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคอีสาน
สมประสงค์ได้ดังที่ส่งเสียงเพรียกร้อง “บิ๊กตู่ ช่วยด้วย”
เพราะต้องยอมรับ วันนี้นอกจาก “อุตตม สาวนายน-สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์-กอบศักดิ์ ภูตระกูล-สุวิทย์ เมษินทรีย์” 4 ยอดกุมาร บวก 2 ส. ดึงแต้มได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าดีกรีสเปเชียล 1 “บิ๊กตู่” จัดให้แบบนี้ คะแนนไหลได้
อย่างที่หลายสำนักโพลสำรวจความนิยมโค้งนี้ “บิ๊กตู่” ติดชาร์ต ว่าที่นายกฯ
คนต่อไป พลังประชารัฐไล่บี้ประชาธิปัตย์ บางสำนักโพลชี้ว่าเริ่มคู่คี่ พปชร.ขี่คอรอแซงขึ้นแป้นอันดับ 2 กันแล้ว
...
นั่นก็เป็นปัจจัยบังคับในห้วงนี้ อย่างที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” วิเคราะห์ไว้ ปัจจัยสำคัญในโค้งสำคัญของค่าย พปชร. หนึ่งคือ ผู้สมัครต้องสู้ สอง คู่แข่งมีแรงหนุนแค่ไหน และสุดท้าย ทำให้นโยบายโดนใจสู่การรับรู้ของชาวบ้าน
ส่วนที่ไม่ได้พูดแต่เหมารวมได้ โค้งสุดท้ายสิ่งสำคัญคือ ทำความเข้าใจชาวบ้าน “ใกล้ชิดยิ่งยวด” สอดรับกับกระแสข่าวช่วงนี้ แว่วๆกระบอกปืนใหญ่จากค่ายหลัก ถูกยิงจากคลังส่งกำลังบำรุง พปชร.แล้ว
จัดเกรดพื้นที่ สองเม็ด-หนึ่งเม็ด-ครึ่งเม็ด สาดส่งทั่ว
คิวที่ว่า “บิ๊ก” ผู้คุมคลังสั่งเช็กละเอียด บางจุดใช้ “ยิงตรง” ไม่ผ่านหัวหน้าทีม นัยว่าเพื่อสลายกลุ่มก๊วน
แต่ก็ตามมาด้วยเสียงบ่น จะมาสลายอะไรกันตอนนี้
ไฟต์บังคับกับตัวเลขเป้าหมาย ถ้า “ต่ำ 120” ที่หวังเป็นแกนนำฟอร์มรัฐบาล ก็เสี่ยงฝันสลาย ในจังหวะ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ปล่อยหมาก ชูธงประชาธิปัตย์สถาปนาเป็น “ขั้วที่สาม”
กับภาพรวมการเมืองที่ต้องเริ่มประกาศท่าทีและตัวตน ไล่ตั้งแต่ขั้วเพื่อไทย ถึงแม้จะรู้ว่าเสี่ยงสูงหลุดจากอำนาจ แต่สถานะว่าที่มีแต้มอันดับต้น-ก็ต้องปั่นสุดแรง หวังบวกพรรคเครือข่ายแล้วใกล้หลัก 200
ยอดสูงลิ่วปั่นถึงยาก ลุ้นเปลี่ยนโมเมนตัมห้วงช่วงชิง
ส่วนตัวแปรขนาดเล็กขนาดกลาง ทั้งพรรคชาติไทยพัฒนาชาติพัฒนา วันนี้ต้องทำให้เข้าเป้าตามสูตรคณิตศาสตร์การเมือง 2 ค่ายเอสเอ็มอีท่อง “สัจจะกตัญญู-โนพรอบเบลม ไม่มีปัญหา”
ด้านค่ายภูมิใจไทย “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค ก็ปั่นเต็มแรง เริ่มขายความเป็นค่ายที่ยืดหยุ่นสูง ไม่ว่าพรรคใดตั้งรัฐบาล “ขาดภูมิใจไทยไม่ได้” ที่โกรธก็ต้องดีกัน เพราะ “กาวใจชั้นดี” อย่างค่ายสีน้ำเงิน
“หนูพร้อมหย่าศึกขัดแย้ง ช่วยทุกราชสีห์”
เข้าสู่โค้งสุดท้าย นอกจากถูกเบรกกันทุกค่าย จากทั้ง “บิ๊กตู่” ที่ออกสารนายกฯ และ “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ออกโรงเตือนทุกพรรคการเมือง รวมถึง พปชร.ที่เพิ่งปล่อยทีเด็ด ชูนโยบาย “ค่าแรง 400 บาทขึ้น”
สรุปเสียงเตือนที่ขายนโยบายใช้งบฯมาก ต้องดูเรื่องรายได้ด้วย อย่าแข่งอย่าเบิ้ลประชานิยมกันมาก
ประเมินแล้ว เมื่อทุกพรรคขายนโยบายประเภทอัดฉีดแหลกลาญ ประชานิยมกันจนล้น ก็เป็นจังหวะที่ดี ผู้ถืออำนาจปัจจุบันรู้ตัวเลขแล้วต้องออกมากระตุกเตือน
ดึงกลับเข้าลู่แข่งขัน ไม่แห่ขายฝันแล้วทำผู้คนฝันค้าง.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน