ภูมิใจไทย ย้ำ กัญชาต้องเป็นของคนทั้งประเทศ ประชาชน ปลูกได้เอง ขณะที่รัฐต้องสนับสนุนการวิจัยฟรี ค้านสุดตัว ต้องไม่เอื้อสัมปทานให้นายทุน ลั่น ทำตามนโยบายไม่ได้พรรคขอลาออกเอง ไม่ต้องรอเลือกตั้งครั้งหน้า

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 มี.ค. ที่พรรคภูมิใจไทย พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ แถลงเรื่อง “การรณรงค์คัดค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา” ว่า วันนี้เราใช้ยุทธการดาวกระจาย เพื่อหาคะแนนจากประชาชน เพราะพรรคมีเวลาอันสั้นในการหาเสียงในครั้งนี้ วันนี้ชัดเจนว่า นโยบายของพรรคภูมิใจไทยได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งทั่วทั้งประเทศ

ด้าน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการคัดค้านนายทุนผูกขาดสัมปทานกัญชา ว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 ที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และประกาศใช้ ผู้ที่จะสามารถเข้ามาเป็นผู้ได้รับอนุญาตผลิต นำเข้า จำหน่าย ประกอบด้วยคน 7 กลุ่ม แต่ไม่พบว่ามีประชาชน ส่วนเรื่องของเกษตรกรที่รวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน แม้จะสามารถยื่นขออนุญาตได้ แต่ต้องมีผลการวิจัย ซึ่งพรรคคิดว่าเป็นเรื่องยากที่ประชาชนจะทำการวิจัยได้ เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่าการวิจัยที่ระบุใช้ระเบียบวิธีแบบไหน และใครเป็นคนตรวจ เราคิดว่าเหมือนเป็นการกำหนดเงื่อนไขเพื่อล็อกสเปกคนที่จะเข้าถึงการวิจัยได้

...

เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวอีกว่า แม้ว่าผู้มีหน้าที่บอกว่า ยังไม่ให้สัมปทานกับใคร แต่กำลังพรรคมองว่า กำลังจะเดินไปแบบนั้น จึงขอเรียกร้องว่าอย่าทำอะไรที่ไม่เป็นประโยชน์กับประชาชน เพราะกัญชาต้องเป็นของประชาชนทั้งประเทศ ต้องเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ โดยรัฐบาลเป็นพี่เลี้ยงในการควบคุมให้กัญชาเกิดประโยชน์สูงสุด และป้องกันไม่ให้เกิดโทษ ไม่ใช่นำกฎหมายมาใช้เพื่อเป็นอุปสรรคต่อประชาชน ในการได้รับประโยชน์จากกัญชา เราเรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการในส่วนที่จะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์จากกัญชา จริงๆ ไม่สร้างภาระให้ประชาชนในฐานะผู้บริโภค พรรคไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้นต้องมีการแก้กฎหมายตามนโยบายพรรค ทั้งทางการแพทย์ การพาณิชย์ ประชาชนต้องเข้าถึงกัญชาได้เสรี โดยการปลูกบ้านละ 6 ต้น และรวมกันเป็นวิสาหกิจชุมชนเชิงพาณิชย์ได้ โดยรัฐบาลวิจัยให้ฟรี และมีหน้าที่รับซื้อจากประชาชน ไม่ใช่มีหน้าที่ปลูกเอง

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า วันนี้มี 34 ประเทศปลดล็อกกัญชาแล้ว โดยมีระดับในการปลดล็อก ประเทศที่ปลดล็อกแล้วจริงๆ ได้แก่ ประเทศแคนาดา อุรุกวัย และเม็กซิโก ซึ่งสร้างรายได้ให้รัฐ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยนำแบบแคลิฟอร์เนียโมเดลมาใช้ โดยประชาชนยื่นจดขอปลูก 6 ต้น หรือรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน จะไม่มีให้กับทางราชการ หรือบริษัทเอกชนปลูก เราต้องการให้ประชาชนปลูกเองอย่างเท่าเทียม ส่วนการเป็นผู้บริโภคจะต้องบริโภคในบ้านตัวเอง หรือสถานที่ที่ได้รับอนุญาต ไม่ใช่บริโภคในที่สาธารณะหรือที่ใดก็ได้

“อีก 20 วันจะเลือกตั้ง เราขอเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันคัดค้าน อย่าให้รัฐบาลมาทำแบบนี้ ประชาชนต้องช่วยกันแสดงฉันทามติในวันที่ 24 มี.ค. เข้าคูหาอย่างมีสติป้องกันการผูกขาดการปลูกกัญชา ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทย วันนี้เราคัดค้านโดยการทำสติกเกอร์แจกประชาชน ให้ทราบว่าภูมิใจไทยจะคัดค้านเรื่องนี้จนกว่าจะสำเร็จ เราศึกษานโยบายจริงๆ ไม่ได้ลอกใคร หรือคิดเอาเอง เราจัดทำเรื่องนี้เรียบร้อย โดยจัดทำเป็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) และระเบียบแก้ไขไว้เรียบร้อย หากอยากให้ทำเร็วก็เลือกเราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล” นายศักดิ์สยาม กล่าว

เลขาธิการพรรคฯ ย้ำถึงนโยบายด้านอื่นๆ ด้วยว่า การแก้ไขปัญหาให้ลูกหลานที่เป็นหนี้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) จะทำได้เสร็จในปีนี้หลังมีรัฐบาล โดยแก้ระเบียบปรับโครงสร้างหนี้ ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ และปลอดหนี้ 5 ปี การปลดล็อกให้ประชาชนประกอบอาชีพจากทรัพย์สินที่มีอยู่ คือแกร็บคาร์ การปลดล็อกกฎหมายประมง การสร้างระบบการดูแลสุขภาพให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ การจัดทำนโยบายกรุงเทพฯ สะดวก ให้ทำงานออนไลน์ที่บ้านได้ สลับกันหยุดสัปดาห์ละ 1 วัน ช่วยแก้ปัญหาจราจรได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ทันที ส่วนระบบการเรียนออนไลน์ฟรีตลอดชีวิต กำลังเขียนแพลตฟอร์ม คาดว่าจะใช้เวลา 6–21 เดือน จะสามารถมีระบบการศึกษาแบบออนไลน์ได้อย่างฟรีจริงๆ การแก้ปัญหาความไม่สงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ โดยการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการปลูกกัญชาเสรี จะใช้เวลาสำหรับเรื่องนี้ 9–24 เดือน หากพรรคได้เป็นรัฐบาลแล้วทำไม่ได้ พรรคจะขอลาออกเองไม่ต้องรอเลือกตั้งครั้งหน้า

ด้าน นายศุภชัย กล่าวว่า ในข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2562 ที่ระบุ บุคคลมี 7 กลุ่ม สิ่งที่ระบุไว้ไม่มีประชาชนทั่วไป เราเรียกร้องให้ประชาชนมีเสรีในการปลูกกัญชาแต่ละครัวเรือน ไม่ใช่รัฐบาลผูกขาดสิ่งทั้งปวงของกัญชาในประเทศไว้กับรัฐเสียเอง แทนที่จะให้ประชาชนอย่างเสรี เช่น มาตรา 26/5 (7) เรื่องคณะกรรมการว่าด้วยกัญชา เท่าที่ดูเป็นข้าราชการถึง 24 คน เสมือนว่ารัฐกำลังดำเนินการในการรวบอำนาจนี้ไว้ในมือ ผูกขาดสัมปทานตรงนี้ให้นายทุน ฉะนั้นหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล จะดำเนินการแก้กฎหมายฉบับนี้ให้ประชาชนปลูกได้แต่ละครัวเรือน รวมถึงแก้ไข (4) การรวมตัวของกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยให้รัฐเข้ามาอำนวยความสะดวกเรื่องการวิจัยต่างๆ พรรคพร้อมแก้กฎหมายฉบับนี้เพื่อประโยชน์ประชาชน.