ควันหลงการประชุม ครม.สัญจร 4 จังหวัดภาคเหนือ ฐานคะแนนแข็งโป๊ก ของพรรคเพื่อไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คสช.จัดคิวเดินสายปราศรัยกับประชาชนหลายเวที

“แม่ลูกจันทร์” สังเกตว่าการปราศรัยของ “นายกฯลุงตู่” เที่ยวนี้ ไม่ได้เน้นตีปี๊บผลงานรัฐบาล คสช.อย่างเดียว

ยังถือโอกาสวิจารณ์นโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองแบบถึงลูกถึงคน

นายกฯลุงตู่ กระชุ่นเตือนประชาชนอย่าไปหลงเชื่อนักการเมืองหาเสียงหลอกลวง

อย่าไปฟังใครที่บอกจะให้ที่ดินทำกิน จะขุดน้ำให้ทุกบ้าน หรือจะให้ทุนเรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี

หาเสียงแบบนี้คนฟังชอบ แต่ทำไม่ได้จริง

ใครที่บอกว่าจะล้างหนี้สินชาวไร่ชาวนาทั้งประเทศ ต้องถามคนพูดด้วยว่าจะเอาเงินจากไหนไปล้างหนี้ให้เกษตรกร??

แม้แต่นโยบายแปลงที่ดิน สปก.เป็นโฉนดทองคำของพรรคพลังประชารัฐที่เปิดโอกาสให้เกษตรกรเอาที่ดิน สปก.ไปประเคนขายให้นายทุน

ก็โดนนายกฯลุงตู่ กระตุกเบรกอย่างแรง

พล.อ.ประยุทธ์ ปราศรัยว่า ที่ดิน สปก.ให้ทำการเกษตร ถ้าไม่ทำการเกษตรก็ต้องยึดที่ สปก.คืน ไม่ใช่ให้เอาที่ สปก.ไปขายให้คนอื่น แล้วเกษตรกรไม่มีที่ทำกิน

พี่น้องอย่าให้ใครมาสอนวิธีคิดที่ผิดหลักผิดเกณฑ์

“วันนี้มีคนบอกว่าจะแจกเงินดูแลเด็กตั้งแต่เกิดจนถึง 6 ขวบ คนละ 600 บาทต่อเดือน”

ถามว่าหาเสียงแบบนี้ชอบไหม ทุกคนต้องชอบแน่นอน

แต่ความจริงคือขณะนี้ประเทศไทย มีเด็กตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 6 ขวบ ถึง 4,318,884 คน

นโยบายนี้ต้องใช้งบอัดฉีดไม่ต่ำกว่า 31,095 ล้านบาทต่อปี

พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำว่า ที่ต้องเอา เรื่องนี้มาพูดไม่ได้ต้องการจับผิดใคร

“แต่ในฐานะที่เป็นรัฐบาลต้องทำความเข้าใจที่ถูกต้องกับพี่น้องประชาชน ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา”

...

ถึงแม้ นายกฯลุงตู่ ไม่ได้ระบุว่า เป็นนโยบายหาเสียงของพรรคไหน แต่ดูตามเนื้อผ้าน่าจะหมายถึง “นโยบายเกิดปั๊บรับเงินแสน” ที่พรรคประชาธิปัตย์ กำลังประโคมหาเสียงกันอึกทึกครึมโครม

“แม่ลูกจันทร์” สรุปย่อๆว่า นโยบาย “เกิดปั๊บรับเงินแสน” ของพรรค ปชป.ที่ “นายกฯลุงตู่” ตั้งข้อสงสัยว่าจะเอาเงินจากไหนมา??

คือการแจกเงินอุดหนุนเด็กแรกเกิดเดือนแรก 5 พันบาทต่อคน

จากนั้นยังจ่ายเบี้ยอุดหนุนอีกเดือนละ 600 บาทไปอีก 3 ปี

แล้วจ่ายเพิ่มเป็นเดือนละ 1 พันบาทจนอายุครบ 8 ปี

รวมเป็นเงินแจกฟรี 1 แสนบาทต่อเด็ก 1 คน

ยังไม่รวมโครงการแจกอาหารเช้า-กลางวันฟรี นักเรียนอนุบาลถึง ม.3 อีกคนละ 30 บาทต่อวัน

รวมเบ็ดเสร็จต้องใช้เงินอัดฉีด 4 หมื่นล้านบาทต่อปี จนถึงหนึ่งแสนล้านบาทต่อปี

ยังไม่รวมโครงการบัตรคนจน 14.5 ล้านคน ต้องใช้งบอัดฉีดอีกหนึ่งแสนล้านบาทต่อปี

ยังไม่รวมโครงการ “เบี้ยยังชีพคนชรา” 7 ล้านคนอีก 7 หมื่นล้านบาทต่อปี

และยังไม่รวมโครงการบัตรทองรักษาฟรีประชาชน 44 ล้านคนอีก 2 แสนล้านบาทต่อปี

และยังไม่รวมงบอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจอีกสารพัดโครงการ

สรุปว่าพรรคไหนได้เป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งจะต้องจัดงบอัดฉีดโครงการแจกฟรีปีละ 4 แสนล้านบาทขึ้นไป

ริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟน่ะซีโยม.

“แม่ลูกจันทร์”