ชนะไม่มีแพ้ ต้องให้แน่ก่อน

ที่รอฟังคำตอบเห็นจะต้องรอไปก่อน เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่แสดงท่าทีอย่างชัดเจนออกมาว่าจะเอายังไงกันแน่

บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลังเลือกตั้ง

แต่ต้องฟังให้ชัดก่อนกลับไปคิดกันเอง เพราะเมื่อเจ้าตัวได้แย้มๆ พอให้เห็นห้วงเวลาที่จะกล่าวถึงอนาคตทางการเมืองอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

เมื่อกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ คือ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว.ได้รับการโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว เมื่อมีคำสั่ง ม.44 คลายล็อกพรรคการเมือง

ขั้นตอนต่อไปคือการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพื่อนำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ที่จะต้องได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล

“สถานการณ์ในช่วงนั้นจะเป็นผลในการตัดสินใจของผมว่าจำเป็นต้องอยู่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามรัฐธรรมนูญหรือกลไกของรัฐธรรมนูญหรือไม่

ถ้าจำเป็น แล้วจะเป็นได้อย่างไร จะตัดสินใจอีกครั้งในสถานการณ์ช่วงนั้น”

เพราะวันนี้คงตอบได้เท่านี้...

เป็นเหตุเป็นผลที่นายกฯประยุทธ์ให้คำตอบ

ว่ากันตามจริงแล้ว หากมองกันจากสภาพความเป็นจริงการตัดสินใจของนายกฯจากนี้ไปถือเป็นเรื่องสำคัญของตัวนายกฯเอง

เพราะแม้ว่ายังต้องการที่จะทำหน้าที่ต่อไป เพราะมีความเชื่อมั่นจากความจริงใจว่ามีความสามารถเพียงพอที่จะเดินหน้าต่อไปได้

แต่การกลายสภาพไปเป็นนักการเมืองจริงๆนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนกัน หากตัวเองไม่พร้อมหรือห่วงอะไรอย่างอื่นก็คิดหนักไม่ใช่น้อย

แม้แต่การตัดสินใจเข้ามามีอำนาจการปกครองประเทศ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 พูดไปแล้วสถานการณ์ในขณะนั้นสุกงอมเป็นเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์ในการกระทำการ

พูดง่ายๆพร้อมทุกอย่าง...

กว่าจะตัดสินใจได้ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก

...

แต่ในทางการเมืองนั้นต่างกันไปในฐานะ “ผู้เล่น” ไม่ใช่

“ผู้กระทำ” มันจึงต่างกันมาก การตัดสินใจต่อไปนี้จึงต้องคิดให้รอบคอบรอบด้าน

พิจารณาจากคำพูดของ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่สนับสนุนให้ “น้องเล็ก” ว่าควรจะเป็นนายกฯต่อไปเพื่อทำงานต่อให้จบ

เป็นที่ทราบกันดีว่าพี่น้องคู่นี้ผูกพันกันขนาดไหนรู้อยู่แล้ว ดังนั้น การออกตัวของ พล.อ.ประวิตรครั้งนี้

ถามว่าปรึกษาหารือกันหรือไม่?

คำตอบก็คือแน่นอนเพราะมิฉะนั้น “กองหนุน” ในส่วนของนักการเมือง พรรคการเมืองคงไม่เดินหน้าไปไกลอย่างนี้

เพราะ “พี่ใหญ่” ทำหน้าที่ “ผู้จัดการรัฐบาล” ครบเครื่องไปแล้ว

แม้กระทั่งมีข่าวบอกด้วยว่าหากมีรัฐบาลใหม่ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯหลังเลือกตั้งก็จะไม่ร่วม ครม.ด้วยจะเป็นอะไรต่อไปในอนาคตก็คอยดูกันต่อไป

นี่ก็เท่ากับว่าเป็นการประกาศสนับสนุนอย่างชัดเจน พร้อมที่จะเพิ่มคะแนนให้ “น้องเล็ก” เพิ่มเข้าไปอีก ทำให้กองเชียร์ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้

สำคัญกว่านั้นคือสิ่งที่จะต้องพิจารณาจากสภาพความเป็นไปของบรรดา “กองหนุน” ว่าเมื่อใกล้ถึงวันประกาศตัวจะหนักแน่นมากน้อยแค่ไหน

ที่ว่าเครียดๆกลัวๆกล้าๆก็ตรงนี้ล่ะมั้ง...

“สายล่อฟ้า”