การเดินสายดูด ชี้ขัดคำสั่งคสช. แกนนำไม่แคร์

“สามมิตร” เครื่องสะดุด เดินสายดูดชักไม่ราบรื่น ประธาน กกต.ออกปากเตือนเสี่ยงขัด พ.ร.บ.พรรคการเมือง-คำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 จ่อขอ คสช.ใช้อำนาจ ม.44 แบ่งเขตเลือกตั้ง ด้านสามมิตรไม่สน “ธนกร” มั่นใจไม่ได้ทำผิดกฎหมาย “ภิรมย์” ลั่นเดินหน้าต่อ ถึงถูกยุบกลุ่มก็ตั้งชื่อใหม่ได้ ฝ่ายการเมืองรุมอัด สนช.ต่อ “องอาจ” กระทุ้งรับใบสั่งปูทางให้ผู้มีอำนาจ “จุรินทร์” ชี้ล้มแนวคิดได้ก็ดี ลดข้อกังขาแทรกแซงองค์กรอิสระ “ภูมิธรรม” ตอก สนช.ไม่ใช่เจ้าของประเทศ ยันยังไม่ถึงเวลาเปิดตัวผู้นำพรรค “นพดล” เตือนขั้วอำนาจอย่าประเมินประชาชนต่ำไป “วรชัย” ท้าเหยงดึง “บิ๊กป้อม” ลงสนาม

กระบวนการเดินสายดูดของกลุ่มสามมิตรชักไม่ราบรื่น เมื่อล่าสุดนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกปากเตือนว่าอาจเป็นการกระทำให้ขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง รวมถึงอาจขัดต่อคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ได้

กกต.ยันไม่มีวางคนของตัวเอง

เมื่อเวลา 07.10 น. วันที่ 12 ส.ค. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 36 คน เสนอแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประเด็นการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งว่า การแก้กฎหมายเป็นอำนาจหน้าที่ของ สนช. ส่วน กกต.เป็นผู้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎหมายว่าอย่างไรเดินไปตามนั้น ถ้าเราไม่ปฏิบัติตามก็โดนมาตรา 157 ตราบใดที่ยังไม่มีการแก้ไขต้องดำเนินการตามตารางเวลาของเรา ยืนยันว่าไม่มีการวางคนหรือตั้งคนของเรา ส่วนจะมีผลกระทบต่อการตรวจสอบการทำงานหรือไม่ ตรงนี้ยังตอบอะไรไม่ได้ เพราะ สนช.ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอแก้กฎหมาย ยืนยัน กกต.ชุดปัจจุบันปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอยู่ ไม่ได้ไปละเมิดกฎหมายแต่อย่างใด

...

จ่อขอ คสช.ใช้ ม.44 แบ่งเขต

นายศุภชัยยังกล่าวถึงการหารือเกี่ยวกับการเลือกตั้งรอบสองระหว่าง คสช. รัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และพรรคการเมือง ในเดือน ก.ย.ว่า ได้พูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ถึงข้อเสนอของพรรคการเมือง โดยหลัง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ประกาศใช้แต่ยังไม่มีผลบังคับใช้ในช่วงเวลา 90 วันนี้ จะขอให้ คสช.ใช้มาตรา 44 เพื่อให้อำนาจ กกต.แบ่งเขตการเลือกตั้งก่อน พรรคการเมืองจะได้ไปทำไพรมารีโหวตได้ ถ้ายังไม่มีเขตเลือกตั้งที่แน่ชัดก็ยังไม่สามารถทำไพรมารีโหวตได้ ส่วนการเปิดประชุมของพรรค การเมืองเดิม เพื่อคัดเลือกกรรมการบริหารพรรค หรือเปิดรับสมาชิกใหม่ ต้องขออนุญาต คสช. ส่วนการหารือรอบสอง นายวิษณุระบุว่าควรให้เป็นหน้าที่ของ กกต.ชุดใหม่

เตือน “สามมิตร” ขัดคำสั่ง คสช.

นายศุภชัยกล่าวต่อว่า ส่วนการเดินสายลงพื้นที่ของกลุ่มสามมิตร ที่มีการสัญญาว่าจะให้แก่ประชาชนนั้น ขอตรวจสอบก่อนว่าการกระทำดังกล่าวผิดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่ กลุ่มสามมิตรยังไม่จดทะเบียนเป็นพรรค การเมืองเป็นเพียงกลุ่ม แต่ถ้าเป็นกลุ่มการเมืองแล้วมาอ้างว่าเป็นพรรคการเมือง จะเป็นความผิดเหมือนกัน รวมถึงการเดินสายต้องไปดูว่าขัดคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 ที่ห้ามการชุมนุมหรือมั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปหรือไม่ เรื่องนี้ต้องดูหลายอย่างประกอบกัน ต้องไต่สวนข้อเท็จจริงเพราะการจะลงโทษใครต้องชัดเจน กกต.ตรวจสอบทุกเรื่อง หากมีเหตุอันควรสงสัยสามารถดำเนินการได้ว่าผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมืองหรือไม่

เริ่มมีบัตรสนเท่ห์ร้องคัดค้าน

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงความคืบหน้าในการส่งรายชื่อผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดให้สำนักงาน กกต.จังหวัดปิดประกาศ เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบ และแจ้งข้อมูลข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามผู้ได้รับการคัดเลือก ว่า ทราบว่าเริ่มมีการส่งข้อมูลเรื่องร้องเรียนมายังสำนักงาน กกต.แต่ละจังหวัดแล้ว ต้องรอให้ครบกำหนดเวลา 15 วัน และให้สำนักงาน กกต.จังหวัดสรุปเรื่องร้องเรียนก่อนรายงานมายัง กกต.กลางต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องร้องเรียนที่เริ่มส่งเข้ามา ส่วนหนึ่งเป็นบัตรสนเท่ห์ไม่มีการลงชื่อผู้ร้องเรียน อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องขอให้ กกต.เปิดเผยผลการลงคะแนนคัดเลือกผู้ตรวจการเลือกตั้งแต่ละจังหวัด แต่เรื่องดังกล่าวเป็นการลงคะแนนโดยลับ สำนักงาน กกต.จังหวัดไม่สามารถเปิดเผยผลการลงคะแนนได้

“องอาจ” ซัดข้ออ้าง สนช.ฟังไม่ขึ้น

ด้านนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่ สนช. 36 คน เข้าชื่อเสนอแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต. ประเด็นการแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง โดยอ้างว่า กกต.ชุดปัจจุบันกำลังหมดวาระ ควรรอให้ กกต.ชุดใหม่มาทำหน้าที่สรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้งจะเหมาะสมกว่านั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะ กกต.ชุดปัจจุบันมีอำนาจหน้าที่ทำงานตามปกติจนกว่าจะมี กกต.ชุดใหม่ เมื่อดูร่างแก้ไขของ สนช.แล้ว ไม่เห็น หลักประกันอะไรที่แสดงให้เห็นว่าจะได้ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ดีกว่า และในเนื้อหาที่ขอแก้ไขยังตัดองค์ประกอบคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการเลือกตั้ง ในการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนออกไป ถือว่าแย่กว่าเดิม

เหน็บรับใบสั่งปูทางให้ผู้มีอำนาจ

นายองอาจกล่าวว่า แม้ สนช.จะอ้างว่าเป็นเจตนาดี เพื่อทำให้การเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม แต่ไม่สมเหตุสมผล อาจถูกมองได้ว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีใบสั่งจากผู้มีอำนาจ เพื่อทำให้ผู้ตรวจการเลือกตั้งเป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ ถือว่าเป็นอันตรายมากต่อการที่ประเทศกำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง เพราะผู้มีอำนาจมีแนวโน้มจะเป็นผู้ลงสนามการเลือกตั้งครั้งต่อไป ถ้าถูกสังคมมองว่ากำลังใช้อำนาจโดยมิชอบเพื่อประโยชน์ของตนและพวกพ้อง ผ่านกลไกผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพื่อให้สมประโยชน์กับตนเองมากที่สุด จะยิ่งฉุดรั้งความไม่เชื่อมั่นต่อความสุจริตเที่ยงธรรมในการเลือกตั้งมากขึ้น ขอฝากผู้มีอำนาจไตร่ตรองเรื่องนี้ให้ดี ต้องทำทุกวิถีทางสร้างความเชื่อมั่นต่อการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นให้ได้ ถ้าปล่อยให้เรื่องนี้คาราคาซังจะส่งผลกระทบสร้างภาพลบต่อผู้มีอำนาจเอง

ระวังแทรกแซงองค์กรอิสระ

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่ทราบเจตนาที่แท้จริงของ สนช. ว่า ต้องการยื้อการเลือกตั้งออกไปจากโรดแม็ป หรือต้องการได้คนของตัวเองเข้าไปเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัด ขณะนี้ต้องถือว่า กกต.ได้กำหนดรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดมาทำหน้าที่ในการจัดเลือกตั้ง ส.ส. และสรรหา ส.ว. ตามที่กฎหมายกำหนด หากพื้นที่ใดต้องการคัดค้านรายชื่อใดสามารถทำได้อยู่แล้ว ล่าสุดมีกระแสข่าวว่ามีแนวโน้มที่ สนช.จะยกเลิกความคิดเสนอขอแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วย กกต.แล้ว มองว่าเป็นเรื่องดี นอกจากจะยุติความขัดแย้งระหว่าง สนช.กับ กกต. ซึ่งเป็นองค์กร อิสระ ยังช่วยยุติความกังวลของสังคมเรื่องการก้าวก่าย แทรกแซงองค์กรอิสระของฝ่ายนิติบัญญัติด้วย ประเด็นนี้ เป็นประเด็นสำคัญสูงสุดที่ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้น หากส่งผลต่อความสุจริตเที่ยงธรรมของการเลือกตั้ง ส.ส. และการสรรหา ส.ว. อาจเป็นเหตุนำไปสู่การไม่ยอมรับการเลือกตั้งในอนาคตได้

ตอก สนช.ไม่ใช่เจ้าของประเทศ

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ กกต. เสนอรายชื่อมายังไม่ทันได้เริ่มการปฏิบัติ แต่ สนช.คิดจะเปลี่ยนและแก้ไข โดยที่ยังไม่รู้ว่าผลดีผลเสียเป็นอย่างไร สนช.กำลังทำตัวเป็นผู้ประกาศิตความถูกต้องกับสังคม อะไรที่ไม่ถูกใจตัวก็จะแก้ไข ควร ทำทุกอย่างให้เป็นกระบวนการปกติ แล้วให้ผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายทำหน้าที่ไป อย่าเอาตัวเองเป็นตัวกำหนดให้คนอื่นทำตาม สนช.ไม่ใช่เจ้าของประเทศ คนอื่นก็รักอยากผลักดันประเทศเดินไปข้างหน้าเช่นกัน ทุกคนควรกลับไปใช้สติและคิดถึงสิ่งที่ประเทศชาติได้ประโยชน์ อย่างที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯระบุ คำพูดนี้กำลังเตือนสนช.อยู่หรือไม่

ยังไม่ถึงเวลาเปิดตัวผู้นำพรรค

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยเตรียมสนับสนุนลูกของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเป็นผู้นำพรรคแทนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ว่า ยังไม่เคยได้ยินเรื่องนี้ ในพรรคไม่เคยพูดคุยกัน ไม่เคยได้ยินชื่อใครไม่ว่าจะชื่อลูก ชื่อหลาน รวมถึงชื่อนายสมชาย มีแต่ ข่าวลือ ในพรรคยังปกติไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ เพราะยังไม่ถึงเวลา ถ้าอยากรู้ว่าใครจะขึ้นนำพรรคเพื่อไทยก็ขอให้รัฐบาลเร่งปลดล็อก ให้พรรคจัดประชุมเพื่อระดมความเห็นของสมาชิกพรรค กรรมการบริหารพรรค ว่าต้องการผู้นำแบบไหน เป็นกระบวนการที่ต้องฟังเสียงจากสมาชิกพรรค และกรรมการบริหารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด วันนี้ยังเป็นภาวะที่ไม่ปกติ ถามอะไรก็คงไม่มีคำตอบใดๆ เพราะยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร

อย่าประเมินประชาชนต่ำไป

นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศและแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าเจตนาที่แท้จริงของ สนช.คืออะไร ถ้าใช้ หลักกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา คนที่ติดตามการเมืองน่าจะหาคำตอบได้ สนช.จะทำอะไรควรไตร่ตรองให้รอบคอบว่าทำแล้วประชาชนได้ประโยชน์ไหม บ้านเมืองปรองดองหรือจะขัดแย้งตามมา ประชาชนอยากเลือกตั้งช้าหรือเร็ว หลายคนมีความรู้มีประสบการณ์น่าจะคิดได้ อย่าประเมินความอดทนของประชาชน ต่ำเกินไป เห็นมีข่าวว่าอาจไม่เดินหน้าแก้ไขกฎหมายแล้ว ไม่แน่ใจว่าเริ่มคิดได้หรือเพราะมีเสียงคัดค้าน ถ้าไม่เสนอแก้จริงคงช่วยคลายความไม่ไว้วางใจเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่ผู้นำรัฐบาลได้พูดไว้

“วรชัย” ท้า “ประวิตร” ลงสนาม

นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรค เพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ออกมาเตือนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้หยุดคิดแพ้ชนะและเห็นแก่ประเทศ อย่านึกถึงแต่ตัวเองนั้น ที่นายทักษิณพูดเพราะห่วงใยประเทศ สะท้อนออกมาเพราะเป็นฝ่ายถูกกระทำมาตลอดจากการยึดอำนาจทั้ง 2 ครั้ง คำว่าสงครามยังไม่จบนั้นหมายถึงการต่อสู้ทางการเมืองด้วยแนวทางประชาธิปไตยที่สันติวิธี ไม่ใช่การต่อสู้ทางทหารเหมือนที่ พล.อ.ประวิตรนำรถถังออกมายึดอำนาจจากประชาชน แต่นายทักษิณได้รับมอบอำนาจจากประชาชน ขอให้ พล.อ.ประวิตรลงเลือกตั้งเพื่อพิสูจน์ว่าประชาชนจะเลือกใครนายทักษิณเข้ามาแก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ ไม่ได้ซื้อเรือดำน้ำ เครื่องบิน หรือรถถังที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ส่วนข้อครหาว่าพรรคเพื่อไทยอาจถูกครอบงำโดยคนนอกนั้น คนรักกันชอบกันไปเยี่ยมกันจะเป็นการครอบงำได้อย่างไร นายทักษิณไม่ได้บอกให้พรรคเพื่อไทยต้องทำตามนโยบาย หรือคำสั่งของท่าน มีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่อิจฉานายทักษิณเพราะว่าคนไทยรัก ฉะนั้นคนที่บริหารประเทศโดยไม่มีความรอบรู้ไม่มีวิสัยทัศน์ จะแก้ปัญหาประเทศชาติได้อย่างไร

เย้ยเผด็จการผวา “นายใหญ่”

นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า คำพูดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ฮ่องกง สร้างความตื่นตระหนกให้เผด็จการและลิ่วล้อจนถึงขั้นเสียกิริยา สงครามเพื่อประชาธิปไตยคือการต่อสู้ทางความคิด ประชาชนต่อสู้เพื่ออนาคตตัวเองและลูกหลาน ไม่ได้รับจ้างใครมาสู้ ต่างจากลิ่วล้อเผด็จการและพรรคการเมืองบางพรรคที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว บางคนอยากมีโอกาสได้นั่งชูคอจึงยอมเอาสิทธิและเสรีภาพของคนทั้งประเทศไปแลกกับเศษอาจมที่เผด็จการโยนมาให้ คนเหล่านี้ต่างหากที่เป็นกากเดนหรือขี้ข้าเผด็จการ การที่ประชาชนยังมีความรักความปรารถนาดีต่ออดีตนายกฯทั้งสองคน ความผูกพันนี้เป็นสิ่งที่เผด็จการและลิ่วล้อไม่มีวันเข้าใจ เพราะสัมพันธ์กันด้วยผลประโยชน์และการต่อรอง จึงเก็บอาการไม่อยู่ทุกครั้งเมื่อได้เห็นคนที่ประชาชนเลือกส่งสัญญาณการต่อสู้ หวาดผวาทุกครั้งเมื่อถูกเอ่ยถึงการเลือกตั้ง

สามมิตรมั่นใจไม่ทำผิดกฎหมาย

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกรณีที่ประธาน กกต.จะตรวจสอบความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรว่ากระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ว่า เบื้องต้นคิดว่าไม่น่าผิดกฎหมาย เพราะกลุ่มสามมิตรไม่ใช่พรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง เราเป็นเพียงกลุ่มบุคคลที่มีเจตนาบริสุทธิ์ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน และนำปัญหาข้อเรียกร้องเหล่านั้นส่งไปยังรัฐบาลผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลช่วยดำเนินการแก้ไข ถือเป็นการสะท้อนปัญหาประชาชนฐานรากของประเทศ เชื่อว่าไม่น่าจะขัดกับคำสั่ง คสช. เพราะกลุ่มสามมิตรไปรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน ไม่ได้ไปเคลื่อนไหวการเมืองหรือไปสร้างความวุ่นวาย เชื่อว่า คสช.จะเข้าใจ กลุ่มสามมิตรยังมีส่วนช่วยรัฐบาลทางอ้อมในการสะท้อนปัญหาของประชาชน รวมถึงนโยบายรัฐบาลที่ประชาชนชื่นชอบและได้ประโยชน์ เช่น โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ชาวบ้านพอใจมาก แนวทางของกลุ่มสามมิตรจึงไม่น่าผิดกฎหมาย เพียงแต่อาจไม่ถูกใจใครบางคนเท่านั้น ดังนั้น กลุ่มสามมิตรยังคงเดินหน้าลงพื้นที่รับฟังปัญหาพี่น้องประชาชน เพื่อหาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป

เมิน กกต.ขู่ยุบเดินหน้าลุยต่อ

นายภิรมย์ พลวิเศษ แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า การลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ร่วมกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำและหัวหน้ากลุ่มสามมิตร ถือว่าได้ประโยชน์มาก ประชาชนฝากขอบคุณรัฐบาลที่ใส่ใจชาวนาทำให้ปีนี้ข้าวมีราคาสูงขึ้น เมื่อถามว่าประธาน กกต.ระบุว่าอาจเข้าข่ายกระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยพรรคการเมือง นายภิรมย์ตอบว่า กลุ่มสามมิตรไม่ใช่พรรคการเมือง ถ้า กกต.จะยุบกลุ่มสามมิตร ก็ตั้งกลุ่มหรือพรรคมหามิตรหรืออะไรก็ได้ ไม่มีปัญหาไม่ได้ซีเรียส พวกตนยิ่งจะเดินหน้าต่อไป หรือบอกว่าขัดคำสั่ง คสช. ไม่มีกฎหมายไหนในโลกห้ามคนมารวมกันแล้วมารักกัน สร้างสรรค์ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ เขาไม่จับหรอก ถ้าเอาเสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือหลายสีมาหา แล้วเขาชอบกันรักกัน ให้เขามาจับตนได้เลย จะไปติดคุกจะได้ผอมหุ่นดีเหมือนคนติดคุกสัก 3 เดือน กลุ่มสามมิตรยังเดินหน้าต่อไป หัวหน้ากลุ่มสามมิตรสั่งแล้วสัปดาห์หน้าไป 3 จังหวัดภาคใต้ ตนรับคำสั่งไปแน่นอน “ฝากถึงเจ้านายเก่าว่าอย่าตื่นเต้นกับคำว่าสามมิตร ถ้ามั่นใจว่าพรรคท่านยังถูกใจพี่น้องประชาชน เขาจะย้ายออก 200-300 คนก็อย่าซีเรียส และที่นายทักษิณประกาศไม่ยอมแพ้จะต่อสู้สงครามประชาธิปไตยนั้น ขอบอกว่าการเลือกตั้งไม่ใช่สงคราม”

อนาคตใหม่ยกระดับเกษตร 4.0

วันเดียวกัน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยนายรณวิต หล่อ–เลิศสุนทร ว่าที่รองหัวหน้าพรรค จัดกิจกรรม “ธนาธรออนทัวร์” รับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ ต.ดอนแตง อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร โดยนายธนาธร กล่าวว่า การเดินทางมารับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ จ.กำแพงเพชร ถือเป็นจังหวัดที่ 40 แล้ว ตั้งใจจะไปให้ครบทุกจังหวัด เพื่อนำมากำหนดเป็นแนวนโยบายต่อไป จากการได้ไปหลายแห่งทั่วประเทศ พบปัญหาตรงกันคือเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ขณะที่ต้นทุนการผลิตมีราคาสูง เป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชแทบทุกชนิด มีการพูดถึงให้รัฐเข้ามาช่วยรับจำนำ หรือประกันพืชผล แต่สำหรับพรรคอนาคตใหม่ การประกันราคาผลผลิตทางการเกษตรมีความจำเป็นแค่ระยะสั้น ในช่วง 1-2 ปี แรกรัฐอาจต้องเข้ามาช่วยบรรเทาความเดือดร้อน แต่ในระยะยาวเรามองไปถึงเรื่องการแปรรูปสินค้าเกษตรเพื่อเพิ่มมูลค่า ทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน เราต้องสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ ยังมีเทคโนโลยีนวัตกรรมด้านการเกษตรที่ทันสมัยอีกมากนำมาใช้เพิ่มผลผลิตได้ นี่ต่างหากคือเกษตร 4.0 ที่แท้จริง

ไร้ปัญหา “บิ๊กตู่” นั่ง ปธ.อาเซียน

อีกเรื่อง นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีสื่ออินโดนีเซีย วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ไม่เหมาะสมนั่งเป็นประธานอาเซียนในปีหน้าว่า ประเทศในกลุ่มอาเซียนมีระบอบการปกครองที่หลากหลาย รวมถึงไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร คนที่เขียนบทความนี้ก็คุ้นเคย เป็นนักคิดนักเขียน ไม่ได้เป็นผู้บริหารหนังสือพิมพ์ แต่ที่น่าสังเกตคือมีคำบางคำที่ใช้ไปสอดคล้องกับบางเว็บไซต์ ที่มีคนบางกลุ่มเข้าไปใช้ หรือคิดที่คล้ายกับคนบางกลุ่ม ไปเอาข้อมูลจากแหล่งนั้นมาเขียน ซึ่งฝ่ายความมั่นคงได้ติดตามอยู่

ปูทางให้หาเสียงได้ทั่วประเทศ

นายปณิธานกล่าวอีกว่า ส่วนสถานการณ์ช่วงใกล้เลือกตั้ง ฝ่ายความมั่นคงโดย พล.อ.ประวิตร มีหน้าที่ทำพื้นที่ทางการเมืองให้ปลอดภัย จัดให้ทุกพรรคลงหาเสียงได้ทุกพื้นที่ อย่างที่ 10 ปีไม่เคยมีมา ที่มีบางพรรคการเมืองเข้าบางพื้นที่ไม่ได้ หาเสียงไม่ได้ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงต้องจัดพื้นที่เหล่านี้ให้ทุกพรรคมีโอกาสหาเสียง พูดคุยกับทุกพรรคถึงข้อตกลงในการลงพื้นที่หาเสียงในรูปแบบที่ไม่ขัดแย้ง จะทำให้การเลือกตั้งเกิดความชอบธรรม ดูแลเรื่องปรองดองที่ไม่ใช่แค่กับกลุ่มนักการเมือง แต่รวมถึงประชาชนที่สนับสนุนพรรคการเมือง ทำงานภายใต้กติกาใหม่ๆ ที่หลังจากนี้งานการเมืองจะเข้มข้นขึ้น ดังนั้นการให้เวลากับการเตรียมการจึงเป็นเรื่องใหญ่ และเชื่อว่าคนที่หลุดพ้นจากคดีต่างๆออกมา ต้องการกลับมาทำงานการเมืองในระบบใหม่ที่ไม่ขัดแย้ง และเป็นไปตามโรดแม็ป

คุณสมบัติว่าที่ ส.ส.ต้องซื่อสัตย์

ขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,034 คน เรื่องการเลือก ส.ส.ของคนไทย ณ วันนี้ ปรากฏว่า 5 ปัจจัยสำคัญที่ประชาชนใช้ ตัดสินใจเลือกผู้สมัคร ส.ส. ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป อันดับ 1.ความซื่อสัตย์ 2.ความรู้ความสามารถ 3. ประวัติส่วนตัว 4.พื้นฐานการศึกษา และ 5.ประสบการณ์ทางการเมือง เมื่อถามว่าประชาชนอยากได้ผู้สมัคร ส.ส. ที่มาจากอาชีพอะไรมากที่สุด อันดับแรกคือ ข้าราชการ รองลงมาได้แก่ นักธุรกิจ นักกฎหมาย นักวิชาการ และทหาร และอยากได้ผู้สมัครที่จบการศึกษาทางด้านเศรษฐศาสตร์มากที่สุด รองลงมาคือ ด้านรัฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ และกฎหมาย