ยอมถอย “บิ๊กตู่” สั่งเลื่อนไปสระแก้ว หลังโดนกระหน่ำเปิดหัวดูดกลุ่มวังน้ำเย็น อ้าง “ฮุน เซน” ติดภารกิจ ฝากอีกบทกลอนซึ้งปลุกคนไทยสานพลังไทยยั่งยืน เปรียบลงพื้นที่เหมือนเล่นดนตรีดีด-สี-ตี-เป่ากับชาวบ้านให้เป็นเพลงเดียวกัน ประกาศให้ทั่วยังไม่ทำการเมือง เอาการบ้านให้เสร็จก่อน ถอนหายใจเฮือกศัตรูเยอะ “อภิสิทธิ์” ยกมาเลเซียโมเดลกระตุกผู้มีอำนาจ “นิพิฏฐ์” มองข้ามปมดูด ยกการเมืองเพื่อนบ้านล้ำหน้าไทยไปอีกขั้น “สาธิต” เตือนอย่าดูถูกประชาชน กลุ่มวังน้ำเย็นย้ำไม่ทิ้ง พท. บ่นรำคาญเด็ก “บิ๊กป้อม” ยุให้รำตำให้รั่ว “อนุดิษฐ์” วัดใจจะเลือก ปชต. หรือเผด็จการ วงเสวนานักการเมืองรุ่นใหม่ ชทพ.-ปชป.-พท.-“ธนาธร” ไม่มีใครเอาคนดูด ป.ป.ช.รอคุ้ยทรัพย์สิน “บิ๊กอ๊อด” ไม่แจ้งยืมเงิน 300 ล.

ตามที่นายสรวงศ์ เทียนทอง และนายสุรชาติ เทียนทอง บุตรชายนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย กลุ่มวังน้ำเย็น ยืนยันปฏิเสธไม่ทิ้งพรรคเพื่อไทย หันไปซบพรรคการเมืองที่ คสช.จัดตั้งขึ้นนั้น ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งเลื่อนกำหนดการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ออกไปแล้ว

“บิ๊กตู่” ไม่ยอมตกเป็นเป้านิ่ง

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 11 พ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การเชื่อมโยงข้าว กข.43 และ ผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว กับผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร และผู้จัดจำหน่าย โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทุกครั้งที่ทำอะไรไปมักถูกตีเป็นประเด็นการเมืองหมด เลยจำเป็นต้องพูดบ้างเพื่อให้เกิดการรับรู้ในสังคมว่าเราไม่ได้ทอดทิ้ง ใคร โดยเฉพาะเกษตรกรต้องช่วยกันทำเรื่องการตลาด

...

อย่าคิดแต่ให้รัฐบาลดูแล

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องข้าวรัฐบาลไหนก็ตามถ้าทำงานอย่างนี้ได้ก็ไม่ห่วง ถ้าอยากให้ทุกอย่างดีขึ้นต้องได้รัฐบาลที่ทำงานไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แต่บางทีก็ถูกหาว่าไม่ดูแลเกษตรกรปาล์ม-ยาง ปัญหาคือเกษตรกรบางคนเข้าใจแค่ว่ารัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนตามหน้าที่ในรัฐธรรมนูญ งบประมาณทั้งหมดเป็นภาษีประชาชนต้องคืนประชาชนทั้งหมด คิดกันอยู่แค่นี้ มีคนเข้ามาบิดเบี้ยวบิดเบือนด้วย ขนาดเรื่องคาบสมุทรเกาหลีที่จะไปคุยกันที่ประเทศเพื่อนบ้าน ก็บอกกันว่าที่เขาไม่มาเพราะมี “ตาตู่” อยู่ การเมืองมีไว้ให้สร้างบ้านสร้างเมือง ไม่ใช่ใช้การเมืองไว้ทำลายกัน สร้างความเกลียดชังไปเรื่อย แล้วจะอยู่กันอย่างไรวันข้างหน้า เลือกตั้งมาใหม่ก็เกลียดกันอย่างนี้อีกแหละ นั่นคือสิ่งที่เป็นกังวล

ประกาศทั่วยังไม่ทำการเมือง

นายกฯกล่าวต่อว่า ฝากให้ทุกคนรับรู้รับทราบ ว่า เวลาตนไปต่างจังหวัดไปประชุม ครม. ก็ไปทุก จังหวัด ตรงไหนได้เจอคนก็ได้เจอตรงนั้น ไม่ใช่ไปเจอคนแบบจัดให้เจอ จะพูดคุยกับเขาเองไม่ต้องการให้เป็นคำครหา ยังไม่ทำเรื่องการเมือง แต่ทำเรื่อง การบ้านให้สำเร็จ โดยเฉพาะก่อนการเลือกตั้ง ให้ ทุกคนสบายใจว่าสิ่งที่ทำวันนี้ไว้ดีๆจะได้เกิดต่อในวันหน้า ไม่ใช่หวังกลับมาอยู่แบบเดิม ทำอะไรผิดกฎหมาย ก็ได้ ปล่อยปละละเลยให้สินบนอะไรก็ได้ ไม่ใช่แก้ที่รัฐบาลอย่างเดียวต้องแก้ที่ประชาชนด้วย มันไม่มีคนให้ก็ไม่มีคนรับ ถ้าไม่มีคนเสนอก็ไม่มีคนสนอง

ถอนหายใจขอพระบารมีปกป้อง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้ทุกธุรกิจและเอกชนที่ทำดีเพื่อแผ่นดิน ทำดีเพื่อคนจน ขอให้เจริญร่ำรวยต่อไปเรื่อยๆ มากขึ้นเป็นร้อยเท่าพันทวี แต่ถ้าใครรังแกเอาเปรียบประชาชนลงโทษกันเอง ตนศัตรูเยอะอยู่แล้ว พระสยามเทวาธิราชทรงดูแลประเทศไทยมานานตั้งแต่สร้างมากว่า 200-300 ปี ท่านก็เหนื่อยนะ ให้ท่านพักบ้างเถอะ อะไรก็ขอให้ท่านช่วย ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ท่านช่วยให้เราทำงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกล่าวมาถึงช่วงนี้นายกฯได้หยุดพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะกล่าวต่อว่า “ขอให้พระบารมีอันมากล้นของสถาบันพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้ปกป้องทุกคน เราต้องปฏิรูปประเทศในสมัยเราให้ได้ ตราบที่เรามีชีวิตอยู่ ถ้าเราไม่ช่วยกัน ไม่มีรัฐบาลไหนจะทำได้ ทุกรัฐบาลไม่ว่าชาตินี้หรือชาติหน้า ถ้าเราไม่ช่วยกันทำเอง”

ถอยกรูดเลื่อนไปสระแก้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จพิธีลงนามเอ็มโอยู พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความชัดเจนในการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว วันที่ 18 พ.ค. โดยเดินเชิดหน้าไม่หันมามอง พร้อมส่ายศีรษะด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนโบกมือปฏิเสธไม่ตอบคำถาม เมื่อผู้สื่อข่าวแหย่ถามว่าจะใช้พลังเงียบกับสื่ออย่างนั้นหรือ พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังไม่ยอมตอบคำถามใดๆ เดินขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที สำหรับกำหนด การลงพื้นที่เปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทย กับ จ.สระแก้ว หารือเตรียมการให้นายกฯลงพื้นที่ดังกล่าวจริง แต่หลังจากเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก และนายกฯไม่อยากตกเป็นเป้าการเมือง โดยเฉพาะเรื่องของพลังดูด จึงขอให้เลื่อนออกไปก่อน และล่าสุดมีรายงานว่าสมเด็จฮุน เซน นายกฯกัมพูชา ก็ติดภารกิจ

คนใกล้ชิดซัดมโนกันแต่ดูด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คนใกล้ชิดนายกฯระบุว่า กระแสข่าวการลงพื้นที่ จ.สระแก้วเพื่อหวังพบปะกับนักการเมืองในพื้นที่นั้น มโนกันไปเอง ยังไม่มี อะไรทั้งสิ้น นายกฯต้องการลงพื้นที่ทั้ง 77 จังหวัด เพื่อรับฟังแก้ไขปัญหาประชาชน ส่วนภารกิจนายกฯ มีการวางกำหนดการไว้ประจำเดือน จะประชุม ครม.สัญจรเดือนละ 1 ครั้ง และลงพื้นที่ 1 ครั้ง ส่วนการลงพื้นที่ประมาณวันที่ 23 พ.ค. มีกำหนดการไว้ไม่ไกลจาก กทม. วันนี้ไปคิดไปมโนกันเอง นายกฯไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง

“บิ๊กฉัตร” ขออย่าผูกการเมือง

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายการเมืองถึงการใช้งบประมาณลงพื้นที่ของรัฐบาล ว่าอย่าไปผูกเป็นเรื่องการเมืองจนเกินไป ทุกพื้นที่ทุกจังหวัดก็มี ส.ส. เป็นเรื่องปกติไม่ได้มีประเด็นอะไร นายกฯสั่งด้วยซ้ำให้รองนายกฯและรัฐมนตรีพยายามลงพื้นที่ หากมีเวลานายกฯก็อยากลงไปด้วย ถ้ามองเป็นเรื่องการเมืองไปหมดไม่ต้องทำงานอะไรกัน การลงพื้นที่ก็หมุนเวียนกันไป อย่างที่ จ.ปราจีนบุรี มีปัญหาหลายเรื่อง ทั้งภัยแล้ง การค้าชายแดน เมื่อถามว่านายกฯจะเปลี่ยนใจการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว หรือไม่ หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเตรียมดูด ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็น พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าท่านเปลี่ยนหรือยัง เมื่อถามว่าจากกระแสข่าวนายกฯมีความสนิทสนมกับนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำพรรคเพื่อไทย พล.อ.ฉัตรชัยตอบว่า ไม่ทราบว่าท่านสนิทหรือไม่สนิท แต่นายกฯทำงานอยู่ในพื้นที่นั้นตั้งแต่เป็นนายทหารเด็กๆ

รัฐบาลเล่นโน้ตเพลงเดียวกัน

ต่อมาเวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาว่า เมื่อต้นสัปดาห์ ครม. ได้ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ เพื่อติดตามงานและรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในกลุ่มอีสานตอนล่าง ให้เกิดความต่อเนื่อง ในการวางรากฐานการพัฒนาการลงทุนเพื่ออนาคต ต้องพูดจากันเพื่อให้เกิดการประสานสอดคล้องเหมือนเครื่องดนตรีดีด-สี-ตี-เป่า ที่เล่นตามโน้ตจนออกมาเป็นเพลงเดียวกันทั้งวง ไม่อยากให้เป็นเหมือนในอดีตที่คิดแต่สร้าง แต่ไม่คิดเรื่องบริหารจัดการ รัฐบาลจำเป็นต้องจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วน อาจไม่ตอบสนองทุกความต้องการ แต่จะไม่สร้างภาระให้รัฐบาลในอนาคต

ฝากบทกลอนซึ้งถึงคนไทย

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ฝากบทกลอนถึงพี่น้องประชาชนเป็นหลักคิดร่วมกันพัฒนาบ้านเมือง ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน อย่ามองว่าแต่งดี ไม่ดี แต่งผิดแต่งถูก ขอให้ดูสาระอยากให้ทุกคนได้ลองคิดดู “ทำการเมืองเป็นพลังไว้สร้างบ้าน ไม่ก่อการขัดแย้งทุกแห่งหน ประชาธิปไตยใหญ่หลวงเพื่อปวงชน ใช่พร่ำบ่นให้คนไทยไร้กฎเกณฑ์ ทุกโครงการปฏิรูปช่วยสานต่อ เหมือนถักทอเส้นไหมให้เป็นผืน ทั้งย้อมสีลวดลายให้กลมกลืน ไทยต้องตื่นรู้เท่าทันอันตราย รัฐบาล-คสช. ทำทุกอย่างคงไม่ไหว ไทยช่วยไทยประชารัฐเร่งขวนขวาย พ้นยากจนทนลำบากยากใจกาย สู่เป้าหมายปลายทางไทยยั่งยืน”

“อภิสิทธิ์” ยกมาเลย์โมเดล

วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงในไลน์ถึงสมาชิกในกลุ่มต่อผลการเลือกตั้งของประเทศมาเลเซีย ระบุว่า เลือกตั้งมาเลเซียครั้งนี้ทำเอาหลายคนแปลกใจ หลายสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นก็เกิดขึ้นแล้ว เช่น การจับมือกันของศัตรูทางการเมืองในอดีต ผู้นำโลกที่มีอายุมากที่สุดถึง 92 ปี แต่สำหรับตนสิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐ แม้ต้องต่อสู้กับการใช้อำนาจรัฐเอาเปรียบคู่แข่งขันหลายเรื่อง รวมทั้งการอัดฉีดนโยบายประชานิยมอย่างเต็มที่

“นิพิฏฐ์” มองข้ามปมดูดแล้ว

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกำหนดการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ถึงกระแสการดูด ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็นมาร่วมสนับสนุนรัฐบาล คสช. ว่า แม้นายสรวง เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย บุตรชายนายเสนาะ เทียนทอง แกนนำ พรรคเพื่อไทย ออกมาปฏิเสธว่ากลุ่มวังน้ำเย็นยังอยู่พรรคเพื่อไทย ไม่ไปร่วมกับพรรคที่สนับสนุนทหารนั้น เรื่องใครจะดูดเพื่อการปฏิรูปประเทศ ก็ให้เขาดูดกันไป แต่ตนมองไปไกลเกินกว่าเรื่องนี้แล้ว ขณะที่เรายังดูดกันไปดูดกันมา มาเลเซียล้ำหน้าเราไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ประชาชนมาเลเซียเลือกนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี วัย 92 ปี กลับมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนำการปฏิรูปประเทศอีกครั้ง

ขอคนไทยเลือกให้ถล่มทลาย

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า นายมหาธีร์เป็นผู้ริเริ่มการปฏิรูปประเทศมาเลเซีย และทำสำเร็จ แต่หลังจากนั้นคนมาเป็นผู้นำต่อกลับไม่ได้สานต่อ นายมหาธีร์จึงลุกขึ้นสู้ในวัย 92 ปี เพื่อนำการปฏิรูปประเทศของเขาให้เป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้อง ดังนั้นเราอย่ามาตกหลุมกับเรื่องของการดูดกันเลย ส่วนใครจะดูดใคร ใครจะเหนียมอาย หรือใครจะไป ไม่ไป ขอให้คนไทยตั้งหลักให้มั่นว่าพรรคการเมืองใดที่สามารถนำพาการปฏิรูปประเทศไปได้โดยไม่เสีย แนวทาง หรือไม่ทำให้ประเทศเสียหาย ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเลือกพรรคนั้นให้ถล่มทลาย หรือถ้าเชื่อว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ที่นำการดูดอยู่ขณะนี้จะสามารถปฏิรูปประเทศได้ ก็ขอให้ช่วยกันเลือกพรรคที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์หรือพรรคทหารให้ถล่มทลายไปเลย จะได้ชัดเจนไม่ต้องมาวิจารณ์กันทุกครั้งเมื่อมีใครไปดูดใคร หรือไปดูดกลุ่มก๊ก หรือดูดพรรคไหนอีก

เตือนอย่าดูถูกประชาชน

นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “ผู้มีอำนาจอย่าดูถูกประชาชน” ชัยชนะของคนอายุ 92 ในมาเลเซีย ไม่ใช่แก่หรือหนุ่ม ไม่ใช่ใหม่หรือเก่า ไม่ใช่ดีหรือเลวทั้งหมด แต่มันคือพลังประชาชนไม่ยอมรับการสืบทอดอำนาจเพื่อการทุจริตคอร์รัปชัน ใช้อำนาจโดยไม่เป็นธรรมเอาเปรียบกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้าม การเลือกตั้งมาเลเซียที่ผ่านมา ชัยชนะของนายมหาธีร์ ในวัย 92 ปี อาจมีอะไรอีกมากมายที่เกิดขึ้นก่อนเราเห็นชัยชนะ และอาจเป็นการสะสมบางสิ่งบางอย่างติดต่อกันเนิ่นนาน แต่ทั้งหมดสรุปสั้นๆ แต่ละประเทศไม่เหมือนกัน มีประสบการณ์เหตุการณ์ที่ผ่านมาแตกต่างกัน กติกากฎหมายการเลือกตั้งก็แตกต่างกันไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฝ่ายผู้มีอำนาจต้องสำนึกคือ “อย่าดูถูกประชาชน”

“อำนวย” ลั่นวังน้ำเย็นไม่ทิ้ง พท.

ขณะที่นายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวว่า สมาชิกกลุ่มวังน้ำเย็นในพรรคเพื่อไทยมีกว่า 20 คน ทุกวันนี้ยังไปมาหาสู่กันอยู่ ข่าวเรื่องดูดเป็นเพียงกระแสข่าว ยังไม่มีคำพูดจากปากนายเสนาะ เทียนทอง และบุตรชายนายเสนาะพูดชัดเจนแล้วว่ายังอยู่กับพรรคเพื่อไทย เชื่อว่านายเสนาะและสมาชิกกลุ่มวังน้ำเย็นทุกคนยังคงเหนียวแน่นอยู่กับพรรคเพื่อไทย ไม่ไปไหนแน่นอน เพราะเสียงประชาชนชัดเจนอยากให้อยู่ทำการเมืองกับพรรคเพื่อไทยต่อไป คสช.คงดูดได้แค่พวกอดีตผู้สมัครที่สอบตก หรือคนที่เขตเลือกตั้งซ้ำซ้อนไม่มีพื้นที่ลงเท่านั้นที่จะยอมไปกับ คสช. หากเป็นอดีต ส.ส.ที่มีพื้นที่ชัดเจน ไม่มีใครอยากโดนดูดแน่นอน

อัดเด็ก “บิ๊กป้อม” ยุให้รำตำให้รั่ว

นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กลุ่มวังน้ำเย็น กล่าวว่า กรณีที่นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปรดน้ำดำหัวนายเสนาะ เทียนทอง ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เจ้าของบ้านอุตส่าห์เปิดบ้านให้รดน้ำดำหัวด้วยความเมตตา รักใคร่แบบลูกแบบหลาน ขอถ่ายรูปก็เมตตาให้ถ่าย แต่กลับเอามาหาประโยชน์ทางการเมือง ยุให้รำตำให้รั่ว แอบอ้างว่าตระกูลเทียนทองเตรียมขนคน 5 หมื่นรอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.สระแก้ว จนนายสรวงค์ และนายสุรชาติ เทียนทอง 2 บุตรชายของนายเสนาะต้องออกมาแสดงจุดยืนไม่เอานายกฯคนนอกชัดเจน ขอให้เลิกพฤติกรรมแหลแบบนี้ได้แล้ว ที่สำคัญ ผบ.ที่บ้านเมืองทองคือ นางอุไรวรรณ เทียนทอง ไม่สบายใจ ถ้ารักใคร่นับถือกันอย่ามายุแหย่แบบนี้อีก เพราะสระแก้วชัดเจน อยากเห็นประเทศชาติเดินหน้าได้ ประชาชนเดือดร้อนอดอยากลำบากกันมากแล้ว หยุดซ้ำเติมและรีบคืนอำนาจประชาชน ขอให้พอได้แล้วกับการเดินสายดูด เพราะไม่สง่างาม อดีต ส.ส.อึดอัด

“อนุดิษฐ์” วัดใจ ปชต.-เผด็จการ

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนนี้เหมือนการต่อสู้ระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย หันไปทางไหนมีแต่ข่าวเรื่องดูด แต่ประชาชนแยกแยะได้ว่าพรรคไหนเป็นฝ่ายเผด็จการ หรือฝ่ายประชาธิปไตย แต่การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ รัฐบาลต่อไปจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจาก คสช. พรรคที่ได้เสียงมากสุดอาจไม่ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล คงต้องยอมรับสภาพเป็นฝ่ายค้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังไม่นับมือ ส.ว.อีก 250 เสียง ที่เก็บเอาไว้เป็นหมัดเด็ดน็อกฝ่ายประชาธิปไตยอีก เชื่อว่าฝ่ายเผด็จการจะใช้อิทธิพลและกลไกต่างๆสืบทอดอำนาจต่อไป ถึงเวลานั้นต้องดูว่าประชาชนจะยอมให้เผด็จการกดขี่ข่มเหงต่อไปอีกหรือไม่ ถ้าไม่ยอมจะเกิดอะไรขึ้น การเลือกตั้งครั้งต่อไปจึงสำคัญ เพราะไม่ใช่แค่การเลือกคนที่รักพรรคที่ชอบ แต่ประชาชนต้องตัดสินใจเลือกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย

คนบุรีรัมย์โต้ไม่ได้ถูกเกณฑ์

ช่วงสายวันเดียวกัน ประชาชนจากหลายตำบลใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน รวมตัวกันถือป้ายที่มีข้อความว่า “หยุด...ดูถูกประชาชนชาวบุรีรัมย์” เดินจากบริเวณศาลาริมลำน้ำมูลไปยังหน้าที่ว่าการอำเภอสตึก ตอบโต้กรณีที่มีนักการเมืองบางคนออกมากล่าวหาว่าประชาชนที่มาร่วมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ ครม. เป็นกลุ่มคนที่ถูกเกณฑ์มา โดยนายอภินพ พันธุ์มุง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ถือเป็นการดูหมิ่นคนบุรีรัมย์ ทุกคนไปต้อนรับในฐานะเจ้าบ้านที่ดีตามธรรมเนียมประเพณีไทย ไม่ว่าใครเป็นนายกฯก็ต้องต้อนรับขับสู้

พลังชาติไทยชูการเมืองสีขาว

ช่วงเช้าที่โรงแรมโนโวเทล กลุ่มพลังชาติไทยจัดประชุมใหญ่เพื่อจัดตั้งพรรคพลังชาติไทย นำโดย พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ อดีตคณะทำงานด้านการปฏิรูปประเทศของ คสช. นายสดใส รุ่งโพธิ์ทอง นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง พร้อมสมาชิกกว่า 500 คนเข้าร่วม บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยที่ประชุมพรรคมีมติเลือก พล.ต.ทรงกลดเป็นหัวหน้าพรรคควบตำแหน่งเลขาธิการพรรค นายสุรพัฒน์ หมื่นศรีรัชต์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และตำแหน่งอื่นๆ พล.ต.ทรงกลดกล่าวว่า นโยบายพรรคพลังชาติไทยจะไม่เหมือนใคร มุ่งเปลี่ยนประเทศให้ไม่เหมือนเดิม จะส่งผู้สมัครครบทุกเขต พร้อมชูนโยบายการเมืองสีขาวไม่สาดโคลนหรือเป็นศัตรูกับพรรคใด เน้นการสร้างความปรองดอง

“ท็อป” ลั่นให้ดินกลบหน้าก่อน

ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดอภิปรายหัวข้อ “อภิวัฒน์สยาม 2562 : ความหวังและอนาคตประเทศไทย” เนื่องในวันปรีดี พนมยงค์ ประจำปี 2561 โดยมีตัวแทนพรรคการเมืองเข้าร่วม นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางส่วน เพราะรัฐธรรมนูญมีข้อจำกัดด้านการบริหารรัฐบาล ไม่สามารถแก้ไขด้วยการเลือกตั้งภายในครั้งนี้ แต่จะเข้ามาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราใดมาตราหนึ่งที่เป็นตัวถ่วงในการบริหารประเทศชาติ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งครั้งต่อไป ใครจะคิดว่าการเลือกตั้งมาเลเซีย ประชาชนจะแสดงออกทำให้นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด กลับมาชนะได้ เมื่อถามว่า ขณะนี้ถูกดูดไปร่วมงานกับพรรคที่ คสช.ตั้งขึ้นหรือไม่ นายวราวุธตอบว่า ถ้ามาตามระบบก็รับได้ แต่อยู่ๆลอยขึ้นมาก็ไม่สนับสนุน ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาไม่โดนดูด ให้ดินกลบหน้าก่อนถึงจะออกจากพรรค

“รัชดา” หนักแน่นหนุน “มาร์ค”

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ประชาชนต้องรู้เท่าทันพรรคการเมือง นโยบายพรรค ส่วนเรื่องการดูดนั้น ตนไม่นิยมการดูด ส.ส. เพราะการดูดคือการไม่เลือกว่าจะเอาใคร ไปอยู่ในพรรค ขอแค่ให้มีเสียงไว้ก่อน ขัดต่อประชาธิปไตย ที่คุยกันอยู่ไม่ได้คุยกันเพื่อบ้านเมือง แต่คุยกันกี่ที่นั่ง แล้วเอาตำแหน่งอะไรไป จึงไม่สนับสนุน ยังคงสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้เป็นนายกฯ

“เดียร์” หวัง ลต.เปลี่ยนประเทศ

น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า มีความหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเปลี่ยนแปลงประเทศ เพราะมีโหวตเตอร์เกิดขึ้นใหม่ 8 ล้านเสียง จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ แต่คนที่ไม่ใช้สิทธิ์ตั้งแต่ปี 2554 ถึงเวลาแล้วที่ใช้สิทธิ์ของเขาเพื่อเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศ ประ-ชาธิปไตยไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด แต่เป็นระบบที่สวยงามที่สุด ให้ประชาชนเป็นคนตัดสินดีกว่าอะไรควรอยู่ ควรไป อะไรคือสิ่งควรเลือกไม่ควรเลือก ส่วนเรื่องการดูด ส.ส. เหมือนดูดของเหลว ถ้าเราเป็นสิ่งที่เข้มแข็งก็ไม่สามารถถูกดูดได้ จะดูดได้ก็แต่ของเสียที่ไม่มีอุดมการณ์ ไม่เคารพประชาชน ดูถูกประชาชน ทั้งที่มาจากประชาชน

“ธนาธร” ชูธงอภิวัฒน์พลเมือง

ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ประชาชนยังไม่เป็นพลเมืองที่มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาคที่แท้จริง หากการเลือกตั้งปี 2562 มีจริง ธงที่สำคัญที่สุดคือเอาหลักหมุดหมายของการอภิวัฒน์ 2475 กลับคืนสู่สังคมอีกครั้งคือ การให้อำนาจเป็นของราษฎรทั้งหลาย ส่วนเรื่องการดูด การที่ พล.อ.ประยุทธ์เริ่มดึง ส.ส.พรรคอื่นไปเป็นเรื่องที่ดีมาก ทำให้ประชาชนเห็นชัดว่านักการเมืองคนไหนทรยศต่อวิชาชีพตัวเอง และพรรคอนาคตใหม่ไม่ยอมรับคนที่ไม่ได้มาตามวิถีทางประชาธิปไตย

ตั้ง กมธ.สอบประวัติว่าที่ กกต.

อีกเรื่องที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 7 คน โดยที่ประชุมมีมติตั้ง กมธ.จำนวน 17 คน ต่อมามีการประชุม กมธ.สามัญเพื่อตรวจสอบประวัติฯนัดแรก มีมติเลือก พล.อ.ไพชยนต์ ค้าทันเจริญ เป็นประธาน พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ เป็นรองประธาน วางกรอบการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 9 ก.ค.

“บิ๊กอ๊อด” ไม่แจ้งยืมเงิน 300 ล.

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง กรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิก สนช. เมื่อวันที่ 14 มี.ค.2561 โดย พล.ต.อ.สมยศแจ้งว่า มีทรัพย์สินทั้งหมด 358,683,700 บาท มีหนี้สินเป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน 3,313,473 บาท รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 355,370,227 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุน เงินให้กู้ยืม ที่ดิน โดยมีทรัพย์สินที่น่าสนใจ อาทิ พระเครื่อง 12 องค์ มูลค่า 25 ล้านบาท นาฬิกาหรูยี่ห้อโรเล็กซ์ ปาเต็ก ฟิลิปป์ แพนนาไฮน์ จำนวน 7 เรือน และอาวุธปืน 7 กระบอก อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ ไม่ได้แจ้งเรื่องการกู้ยืมเงิน หรือการคืนเงินนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ อาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท มูลค่า 300 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว ไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.แต่อย่างใด ทั้งนี้เมื่อเทียบกับบัญชีทรัพย์สินที่ พล.ต.อ.สมยศยื่นไว้ต่อ ป.ป.ช. เมื่อตอนเข้ารับตำแหน่ง สนช. เมื่อวันที่ 8 ส.ค.2557 พบว่ามีทรัพย์สินลดลง 4.8 แสนบาท

“วัชรพล” หยั่งเชิงรอขยายผล

พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. กล่าวถึงการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่า หากไม่พบสิ่งผิดปกติในการแสดงบัญชีทรัพย์สิน เจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องให้ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณา เพื่อให้ตนลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษารับรองว่าได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินอย่างถูกต้อง แต่หากพบว่าการแสดงบัญชีทรัพย์สินไม่ตรงกับที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ต้องไปตรวจสอบความมีอยู่จริง ที่มาของทรัพย์สิน ตามขั้นตอนกฎหมาย หากมีแนวโน้มเป็นการแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ ต้องพิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน

ตรวจหลักฐานสถาบันการเงิน

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ประเด็นที่สังคมสนใจคือการยืมเงิน 300 ล้านบาท จากนายกำพล เบื้องต้น พล.ต.อ.สมยศส่งคำชี้แจง มาให้ ป.ป.ช.แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมทั้ง ป.ป.ช.จะตรวจสอบกระแสการเงินจากสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องด้วย มีบางส่วนที่แจ้งกลับมาแล้ว บางส่วนยังไม่ได้แจ้งกลับมา รวมถึงบางส่วนที่ ป.ป.ช.ต้องสอบถามเพิ่มเติมไปในการตรวจสอบ หากมีกรณีจำเป็นต้องประสานความร่วมมือกับ ปปง.ด้วย เรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนแสวงหาข้อเท็จจริงยังไม่ถึงขั้นตั้งอนุกรรมการไต่สวน

พท. อัด ป.ป.ช.ยื้อช่วย “บิ๊กป้อม”

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ระบุว่า ต้องใช้เวลาอีก 2-3 เดือนในการตรวจสอบคดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว. กลาโหม ว่า ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความไม่ยุติธรรม ทั้งที่คดีนี้ไม่น่าจะมีความสลับซับซ้อน การส่งสัญญาณเช่นนี้ประชาชนอาจตั้งคำถามว่า เป็นการยื้อเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องหรือไม่ จะถือว่าไม่สนองวาระแห่งชาติในการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน หรือไม่ ขนาดคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการทุจริตคอร์รัปชันและส่งผลต่อวิกฤติศรัทธารัฐบาล คสช. ยังยื้อ ยังลด ราวาศอกช่วยกัน ประชาชนแปลกใจว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จึงไม่ดำเนินการใดๆกับ พล.อ.ประวิตร แต่กับฝ่ายอื่นใช้มาตรา 44 ปลดได้หมด และสังคมตั้งคำถามว่า พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช. ทำงานใกล้ชิดเป็นเจ้านายลูกน้องกับ พล.อ.ประวิตร จะส่งผลต่อมาตรฐานการทำงานตรวจสอบของ ป.ป.ช.หรือไม่ การต่ออายุมาเพื่อการนี้หรือไม่

ย้อนเกล็ดสอบโกงของ กทม.

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.กทม. กล่าวว่า กรณีรองผู้ว่าฯ กทม. สั่งห้ามทำกิจกรรมช่วยเหลือประชาชน และให้เก็บป้ายของนักการเมืองออกทุกจุด โดยมีจดหมายของ ผอ.เขตหลักสี่ ไปถึงผู้อำนวยการสาขาพรรคเพื่อไทยเขตหลักสี่นั้น แม้นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯ กทม. จะออกมาปฏิเสธว่า ผอ.เขตเข้าใจผิดไปเอง แต่ตนไม่เชื่อ เพราะเขตเลือกตั้งของตนที่เขตคลองสามวา ก็โดน ผอ.เขตคลองสามวาโทร.มาสั่งให้ปลดป้ายเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ สำนักงานปราบโกงของพรรคเพื่อไทยในส่วน กทม. จะตรวจสอบการใช้งบประมาณการใช้อำนาจในทางมิชอบของ กทม. ซึ่งมีผู้ร้องเรียนเข้ามาพร้อมข้อมูลมาที่พรรคอย่างน้อย 11 โครงการ และ 5 โครงการเป็นโครงการขนาดใหญ่ และจะนำข้อมูลร้อง ป.ป.ช.ต่อไป

“พลภูมิ” จี้รื้อให้หมดทุกเขต

นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่กรุงเทพมหานครประสานให้เก็บป้ายในพื้นที่ เพราะกีดขวางพื้นที่สาธารณะ แม้แต่ป้ายเชิญชวนประชาชนให้ออกกำลังกายบนเวทีเต้นแอโรบิกยังต้องเก็บไปนั้น มองว่าอาจมีนัยแอบแฝงบางอย่าง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ต้องการทำให้พื้นที่สาธารณะเป็นระเบียบเรียบร้อยพร้อมสนับสนุน จึงมอบหมายให้ทีมงานไปตรวจสอบป้ายต่างๆในพื้นที่ ทั้งที่อยู่ในที่สาธารณะและป้ายโฆษณาในพื้นที่เอกชนแล้ว จะรวบรวมแจ้งยังสำนักงานเขตเพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากไม่ดำเนินการอาจต้องยื่นฟ้องตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต่อไป

ฟุ้งไทยเป็นแชมป์ส่งออกข้าว

ต่อมาช่วงค่ำ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา ว่า วันที่ 14 พ.ค. จะมีพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ซึ่งมีความสำคัญสำหรับเมืองไทยที่เป็นชาติเกษตรกรรม สะท้อนถึงความผูกพันอันใกล้ชิดระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับปวงชนชาวไทย เป็นพระราชพิธีเพื่อเป็นสิริมงคลทำให้เกษตรกรเกิดความมั่นใจในการเริ่มต้นฤดูทำนา ทั้งนี้ ในครึ่งปีแรกประเทศไทยครองแชมป์ส่งออกข้าวเป็นอันดับ 1 ของโลกกว่า 4.99 ล้านตัน และได้ปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 9.5 ล้านตันเป็น 10 ล้านตัน ซึ่งราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้น การส่งออกข้าวไทยจะดีขึ้นต่อเนื่อง

รวบ “เอกชัย” มือสอบนาฬิกาหรู

วันเดียวกัน เวลา 15.00 น. พล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 พ.ต.อ.รัชพล ชนะศรีขจร รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.จักรกริศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมจับกุมนายเอกชัย หงส์กังวาน แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่บ้านเลขที่ 530 ซอยลาดพร้าว 109 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. กรณีร่วมชุมนุมทางการเมืองที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ก่อนเคลื่อนขบวนมาชุมนุมที่หน้า บก.ทบ. ส่วนแกนนำอีก 9 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนรับทราบข้อหาตามหมายเรียกไปก่อนหน้านี้