เดินสายพบผู้นำโลก ก้าวไม่พ้นแม้ว

ถ้าก้าวพ้นนายทักษิณ ชินวัตร ไปได้แล้วบ้านเมืองคงไม่ต้องวุ่นวายอย่างนี้หรอก คิดในใจได้ แต่ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น

เห็นท่านนายกฯพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อารมณ์ขุ่นๆ เมื่อถูกถามเรื่องที่มีการทำโพลที่ระบุว่า ในรอบ 15 ปี นายทักษิณมีคะแนนนิยมเหนือกว่านายกฯทุกคน

นั่นเป็นความจริงที่ต้องรับฟังกันมากกว่า

เอาเป็นว่าเรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องภายใน สู้ไปว่ากันเรื่องงานนอกประเทศที่นายกฯเดินทางไปร่วมประชุม ครม.นัดพิเศษอย่างไม่เป็นทางการที่กัมพูชาดีกว่า

มีการเจรจาการค้า ความร่วมมือและขยายความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้น เป็นการเจรจากับนายกฯฮุน เซ็น ได้เรื่องได้ราวที่เป็นประโยชน์ระหว่าง 2 ประเทศ

อีกไม่นานจะมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นก็คือ การสร้างเส้นทางรถไฟจากกรุงเทพฯ-พนมเปญ ก็เป็นอีกเส้นทางหนึ่งที่ทำให้การเดินทางสะดวกเหมาะแก่การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว

อดีตนายกฯหญิงยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถ้ารออีกนิดก็ไม่ต้องลำบากลำบนหนีไปแบบนั้น แอบขึ้นรถไฟสะดวกสบายกว่า

ว่าไปนั่น...

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางไปร่วมประชุม BRICS ที่ประเทศจีน ซึ่งประกอบไปด้วยประเทศที่มีประชากรมากสุดในโลก

คือ บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้

มีการเชิญประเทศที่กำลังพัฒนาและประเทศเกิดใหม่อีกหลายประเทศเข้าร่วมด้วย ไทยถือเป็นประเทศเดียวในอาเซียนได้รับเชิญ

ว่าไปแล้วเป็นการรวมกลุ่มเพื่อมุ่งไปสู่ความร่วมมือในด้านเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนเพื่อสร้างศักยภาพให้เหนือกว่ากลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจแบบเดิมๆ

ที่มีสหรัฐฯและประเทศในกลุ่มยุโรปซึ่งมีบทบาทคุมเศรษฐกิจโลกมาตลอด

ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ที่ประเทศซึ่งมีพลเมืองมากที่สุดในโลกมาร่วมมือกันเพื่อสร้างศักยภาพใหม่

...

เพื่อกำหนดกติกาการค้าการลงทุนในรูปแบบใหม่

สามารถสร้างอำนาจต่อรองด้านเศรษฐกิจด้วยวิธีการใหม่ไม่ใช่กุล่มอำนาจเก่ามาบงการหรือครอบงำเอารัดเอาเปรียบอย่างที่ผ่านมา

ทุกวันนี้สหรัฐฯประกาศตัวอย่างชัดเจนว่ากำลังทำสงครามทางการค้ากับจีนอย่างตรงไปตรงมา ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ประมือกันได้ในฐานะประเทศที่มีเศรษฐกิจโตเป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก

แต่เชื่อว่าอีกไม่นานกับการที่จีนจับมือกับประเทศยักษ์ใหญ่ได้อย่างนี้ ก็คงพอจะมองเห็นที่ชัดเจนแล้วว่า

อีกไม่นานก็จะรู้ว่าใครจะมีอิทธิพลด้านเศรษฐกิจของโลกมากที่สุด

เช่นกัน การที่นายกฯไทยได้พบกับผู้นำโลก ไม่ว่าจะเป็น “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน และ “ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย

ไทยย่อมได้ประโยชน์สูงสุดมากกว่าที่ผ่านมาด้วยซ้ำไป

อีกไม่นานนายกฯประยุทธ์ก็จะเดินทางไปพบกับผู้นำสหรัฐฯ “ทรัมป์” ถือว่าเป็นงานช้างอีกครั้งหนึ่ง

เท่ากับว่าผู้นำไทยใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจสามารถพบปะกับผู้นำโลก ซึ่งน่าจะหนุนนำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศและตัวเอง

เพียงแต่จะต้องเล่นให้เป็น เล่นให้ฉลาดเท่านั้น.

“สายล่อฟ้า”