“บิ๊กโจ๊ก-สุรเชษฐ์ หักพาล” นำทีมแถลงข่าวหลังเปิดปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ จ.ตาก จ.นราธิวาส จ.ภูเก็ต จ.สุราษฎร์ธานี จับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติตามหมายจับ 7 คน 1 ในนั้นเป็นเจ้าพ่อค้ามนุษย์รายใหญ่ฝั่งประเทศเมียนมา มีเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 600 ล้านบาท หลังขนชาวโรฮีนจาจากรัฐยะไข่ข้ามประเทศไทยไปส่งประเทศมาเลเซียมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี

ที่ บก.ภ.จ.ชุมพร เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.และรอง ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ (ศพดส.) ตร. พล.ต.ท. อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 ผอ.ศพดส.ภ.8 พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 รอง ผอ.ศพดส.ภ.8 พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 พล.ต.ต.วิรุฬ สุวรรณวงศ์ ผบก.ภ.จ.ชุมพร พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ ผบก.ภ.จ.ตาก พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผบก.ภ.จ.นราธิวาส พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต พร้อมผู้เกี่ยวข้องแถลงข่าวปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายจับกุมตัวผู้ต้องหาในพื้นที่ 4 จังหวัด ใน อ.แม่สอด จ.ตาก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต จับกุมผู้ต้องหา 7 คน ประกอบด้วยนายบำรุง วานิชคาม อายุ 70 ปี นายมูฮำหมัด ซูไบ๋ อายุ 50 ปี นายอ่อง โกอู อายุ 41 ปี นายกำพล ยอดแก้ว อายุ 65 ปี นายอานัส อูมา อายุ 28 ปี นายอาลี ลาลู อายุ 47 ปี นายมูฮัมหมัด มะแซ อายุ 31 ปี และมีผู้ต้องหาที่หลบหนีการจับกุมอีก 4 คน

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.ย. ตำรวจ สภ.บ้านมาบอำมฤต จ.ชุมพร ร่วมกันจับกุมนายเขมทัต ผาลี อายุ 36 ปี ขณะขับรถตู้ที่มีชาวโรฮีนจา 5 คน โดยสารมา โดยแจ้งข้อหาให้ความช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม จากนั้นไม่นานจับกุมตัวนายชัยชาญ ไม่ยาก อายุ 41 ปี น.ส.จุลลา บรรเทา อายุ 26 ปี ขณะขับรถตู้ขนชาวโรฮีนจา 6 คน เพื่อไปส่งที่หมาย โดยกล่าวหาว่าให้ความช่วยเหลือ ด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวซึ่งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม ต่อมาช่วงค่ำวันเดียวกันตำรวจ สภ.เขานิพันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมกันจับกุมตัวนายฮู เซ็น อายุ 48 ปี นายชูอา (นามสมมติ) อายุ 18 ปี 2 ผู้ต้องหาชาวเมียนมา โดยกล่าวหารู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ตรวจค้นบ้านเลขที่ 59/7 ม.5 ต.คลองฉนวน อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พบชาวโรฮีนจาหลบหนีเข้าเมือง 3 คนถูกขังอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว

...

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์เปิดเผยว่า ทั้ง 3 คดีนี้ตำรวจบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี บก.ภ.จ.ชุมพร มีความเห็นทั้งหมดเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 จึงออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนขยายผลความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ฯ โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ รอง ผบช.ภ.8 เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน จากการสืบสวนทั้ง 3 คดีเชื่อมโยงกันมีความสัมพันธ์เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและฟอกเงิน เริ่มจากจัดหาคนจากประเทศเมียนมาส่งเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นจะมีผู้รับตัวเดินทางมาพักตามจุดต่างๆ ที่กลุ่มผู้กระทำผิดได้เตรียมไว้ อาทิ กทม. จ.ปทุมธานี จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.สงขลา จ.นราธิวาส จนถึงประเทศมาเลเซีย โดยมีการกักขังขู่เข็ญ ขูดรีด เพื่อเรียกเงินจากเหยื่อและญาติ จึงได้ร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 คดี

“คณะพนักงานสอบสวนชุดที่ตั้งขึ้นมาได้ขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 14 คน รวม 24 หมายจับ ในพื้นที่ สภ.บ้านมาบอำมฤต จ.ชุมพร สภ.เขานิพันธ์ จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาวันที่ 6 ธ.ค. พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 หัวหน้าฝ่ายสืบสวน พร้อมกำลัง ศพดส.ตร. และ ศพดส.ภ.8 ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหาในพื้นที่ 4 จังหวัด คือ อ.แม่สอด จ.ตาก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และพื้นที่อื่นๆ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 7 คน จากการสืบสวนเส้นทางการเงินพบขบวนการดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท อยู่ระหว่างประสาน ปปง.ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กล่าว

มีรายงานจากชุดจับกุมว่า สำหรับนายอาลี ลาลู ผู้ต้องหาชาวเมียนมานั้นถือเป็น 1 ในผู้ต้องหาค้ามนุษย์คนสำคัญ ในฐานะเป็นหัวหน้าค้ามนุษย์รายใหญ่ฝั่งประเทศเมียนมา พบเงินหมุนเวียนในบัญชี กว่า 600 ล้านบาท หลังขนชาวโรฮีนจาจากรัฐยะไข่ข้ามประเทศไทยไปส่งประเทศมาเลเซียมาเป็นเวลานานกว่า 20 ปี