ในวิกฤติย่อมมีโอกาส อย่างกลุ่มแปลงใหญ่เงาะ ต.ยางหัก อ.ปากช่อง จ.ราชบุรี แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ไม่ต่างจากเกษตรกรอื่น แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของกลุ่ม รวมถึงหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ ปรับเปลี่ยนมาขายแบบออนไลน์ เบนเข็มเจาะตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม โดยชูความเป็นเอกลักษณ์ “เงาะราชบุรี” หวาน หอม กรอบ ล่อน อร่อย
จากการลงพื้นที่ติดตามโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ของ สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 2 จังหวัดราชบุรี พบว่า วิธีการนี้ช่วยสร้างรายได้เกษตรกรไม่น้อยกว่ารายละ 3 แสนบาท ทำรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า 15
ล้านบาท

“เดิมเราต่างคนต่างทำ แต่มีปัญหาเรื่องถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลาง และต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูง เมื่อมีโครงการแปลงใหญ่เข้ามา เกษตรกร 50 ราย จึงรวมกลุ่มกัน มีเจ้าหน้าที่เกษตรเข้ามาส่งเสริมการใช้ชีวภัณฑ์ การใช้ปุ๋ยหมัก การดูแลช่วงเงาะติดดอก ส่งผลลดต้นทุนการผลิต และมีผลผลิตออกสู่ ตลาดมากขึ้น กระทั่งเกิดปัญหาโควิด-19 เจ้าหน้าที่ก็ยังคงดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะทางออนไลน์ ตามแนวทางนิวนอร์มอล ทำให้ทางกลุ่มนำมาเป็นแนวทางในการขาย โดยเฉพาะปีนี้จะใช้ความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์เจาะเป้าที่ตลาดจีนเพิ่ม”
...

นายจิรวัชร เมฆสุกใส ประธานกลุ่มแปลงใหญ่เงาะ ต.ยางหัก อ.ปากช่อง จ.ราชบุรี บอกถึงที่มาของกลุ่มผู้ปลูกเงาะบนพื้นที่ผลิตกว่า 1,000 ไร่ ก่อนพัฒนาสู่การขายออนไลน์ ด้วยทางกลุ่มมองว่าในเมื่อเงาะของราชบุรีมีความโดดเด่นและแตกต่างจากเงาะภูมิภาคอื่น คือรสชาติดี หวาน กรอบ ล่อน หอม อร่อย เพราะในช่วงที่เก็บเกี่ยว เกษตรกรจะไม่ใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น แม้เงาะบางพวงจะมีแมลงเกาะอยู่ก็ตาม ทำให้เงาะที่ออกมาสุกไล่กัน ที่สำคัญตั้งแต่เงาะเขียวไปจนถึงเงาะสีแดง ล้วนเป็นเงาะที่แก่จัดพร้อมเก็บ ฉะนั้น เราจึงนำจุดนี้มาเป็นจุดขาย

ทั้งนี้ จากการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ ส่งผลดีอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องของผลผลิต จากเดิมเกษตรกรมีผลผลิตไร่ละแค่ 1.5 ตัน เมื่อได้รับความรู้จากเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาส่งเสริมทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็นไร่ละ 3 ตัน หรือเพิ่มอีก 1 เท่าตัว

นอกจากนั้น ยังได้เรียนรู้ถึงรูปแบบการซื้อ ขายออนไลน์ผ่านช่องทางของสำนักงานเกษตรจังหวัดราชบุรี รวมถึงเปิดสวนให้ชม ชิม ช็อป ให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจได้เข้ามาสัมผัสวิถีธรรมชาติ แต่เนื่องจากสถานการณ์กึ่งล็อกดาวน์ในบางพื้นที่ ประกอบกับปีนี้มีผลผลิตเงาะออกมามาก จึงมองไปยังตลาดส่งออกต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน ที่เริ่มมีคนมาติดต่อขอซื้อเข้ามาแล้ว จะเป็นตลาดใหม่ที่ทางกลุ่มกำลังให้ความสำคัญ
ด้วยความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของเงาะราชบุรี ทำให้ราคาขายหน้าสวนอยู่ที่ 1.3 กก. ราคา 50 บาท ขณะที่เงาะจากที่อื่นได้ราคาหน้าสวนไม่เกิน กก.ละ 25–30 บาท คาดว่าปีนี้เกษตรกรจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่ารายละ 300,000 บาท ทำรายได้เข้าจังหวัดไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท.