คดีผู้เสียหายถูกหลอกเปิดขายโครงการคอนโด-บ้าน เป็นคดีที่ตำรวจไม่ค่อยใส่ใจ มองเป็นเรื่องทางแพ่ง มีคนเขียนมาบอกว่า ครั้งนี้เห็นข่าว ตำรวจท่องเที่ยว มาสนใจ ช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของคนที่ตกเป็นเหยื่อบอกว่า เห็นข่าวที่มีการจับกุมเจ้าของคอนโด เปิดขายห้องชุดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีคนถูกหลอกลวงตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก เห็นแล้วดีใจแทนคนที่เป็นเหยื่อที่ถูกหลอก และคนที่กำลังจะถูกหลอกเป็นเหยื่อ

เจ้าของโครงการมีการโฆษณาประกาศขายคอนโด และห้องชุดในพื้นที่ อ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยหลอกลวงให้ผู้เสียหายวางเงินจอง และผ่อนชำระค่างวด จนถึงวันที่นัดโอนกรรมสิทธิ์ตามสัญญา ไม่มีการโอนหรือส่งมอบคอนโดให้ผู้ที่ซื้อได้ รวมยอดเงินที่ทำความเสียหายกว่า 2,300 ล้านบาท ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

มีคนไทยและชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยตกเป็นผู้เสียหายจำนวนมาก เป็นเรื่องที่สร้างความเสียหายในวงกว้าง และมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเรื่องการท่องเที่ยวไทย

หลัง พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. ทราบเรื่องนำทีมตรวจสอบทันที รวบรวมหลักฐานขอศาลออกหมายจับ นายสาวิตร เกตุโรจน์ ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” ตามตัวผู้ต้องหาส่ง สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต

ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่

ผู้เสียหายจำนวนมาก ได้ติดตาม ทวงถาม แต่ไม่มีความคืบหน้า พอไปตรวจสอบพื้นที่บริเวณก่อสร้างของโครงการ พบว่าไม่มีการก่อสร้างอาคารหรือห้องชุดใดๆ เมื่อผู้เสียหายไปขอเงินคืน ทางโครงการไม่ให้

...

ที่น่าตกใจปัจจุบันนี้ยังมีการเสนอขายคอนโดและห้องชุดอย่างต่อเนื่อง ทางเว็บไซต์ และโฆษณาขายทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย

หลอกลวงประชาชนต่อเนื่อง

ตำรวจแถลงว่า ยังมีโครงการเข้าข่ายการกระทำความผิดเดียวกันอีก ได้แก่ 1.ดิ เอมเมอรัลด์ ซิตี้ไลฟ์ คอนโด ป่าตอง โดย บริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป จำกัด 2. ดิ เอมเมอรัลด์ อ่าวนาง คอนโด โดย บริษัท เอ็มเมอรัลด์ ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป จำกัด 3. ดิ เอมเมอรัลด์ เทอเรซ ป่าตอง โดยบริษัท ภูเก็ต ฟิวเจอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 4. ดิ เอมเมอรัลด์เซ็นทรัล โดย บริษัท แคปปิตอล เรียลเอสเตท จำกัด รวมเสียหายกว่า 2,306 ล้านบาท

คดีนี้ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ตำรวจท่องเที่ยวประสานงานแจ้งให้สถานทูตหรือกงสุล แจ้งผู้ที่ได้รับความเสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ถึงที่สุด

ส่วนผู้เสียหายคนไทยที่ถูกหลอก ให้เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติม เป็นอีกคดีตัวอย่างที่ได้เห็นกองบัญชาการ ตำรวจท่องเที่ยว เอาจริง ลงพื้นที่แก้ไขความเดือดร้อนชาวบ้านทันที

หลายโครงการที่เข้าข่ายถูกหลอก คงสะดุ้งเป็นแถว ไม่กล้าทำผิด.

“เพลิงพยัคฆ์”