เป็นข่าวใหญ่แก๊งมิจฉาชีพทำทีขอซื้อทองคำร้านค้าทองจำนวนมาก อ้างว่ามีการชำระผ่านเช็คไม่มีเงินเขียนสั่งจ่ายร้านทองแล้วยื่นให้ธนาคารเพื่อเคลียริงเงินเข้าบัญชีร้านทอง แต่ไม่ได้มีเงินเข้ามาในบัญชีจริง
ร้านทองให้ทองคนร้ายไป
ล่าสุด วันที่ 11 ก.พ. คนร้าย 1 คน เข้ามาที่ร้านทองที่เมืองหนองคาย ทำทีเป็นขอซื้อทองคำน้ำหนัก 100 บาท ตกลงกันราคา 2.9 ล้านบาท มีคนร้ายอีกคน น.ส.พิชชาภา ครณรงค์ อายุ 46 ปี อยู่ที่ธนาคาร นำเช็คเข้า บัญชีร้านทอง แต่เป็นการเคลียริงเช็ค ร้านทองเห็นข้อความที่นำเช็คเพื่อเคลียร์ริ่งเข้าบัญชี 2.9 ล้านบาท
โดยไม่ได้ตรวจสอบละเอียดมอบทองคำหนัก 100 บาทให้คนร้าย ส่วนเช็คไม่มีเงิน คดีแบบนี้เคยเกิดปลายปี 2564 ต่อมาเดือน ม.ค.2565 ที่ จ.กาฬสินธุ์ ร้านทองถูกหลอกทองคำน้ำหนัก 80 บาท ผู้เสียหายไม่แจ้งความ
ต้นเดือน ก.พ.2565 ที่ จ.สุรินทร์และ จ.บุรีรัมย์ มีแก๊งแบบนี้เข้ามาที่ร้านทองเพื่อหลอกขอซื้อทองจำนวนมาก เจ้าของร้านไหวทัน เช็กกับธนาคารพบว่าเป็นการเขียนเช็คเข้าบัญชีรอเคลียริงในอีกวันเลยไม่ยอมขายให้
ทำให้คนร้ายไม่ได้ทอง
การสืบสวนพบว่า นายรชต วิไลเจริญพงศ์ บุคคลอันตราย ขับรถไปส่ง น.ส.พิชชาภา ครณรงค์ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาหลอกร้านทอง ใช้แผนประทุษกรรมแบบเดียวกัน ผู้ต้องหาเปลี่ยนชื่อนามสกุลหลายครั้ง
พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รอง ผบช.ภ.4 และโฆษก บช.ภ.4 เห็นพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งนี้ไม่มีอะไรลึกซึ้ง ถ้าทำแล้วร้านทองหลงเชื่อยอมมอบทองให้ ซึ่งคนร้ายกลุ่มนี้ฉวยโอกาสคนเดือดร้อนช่วงโควิด-19 ระบาดหนักมาเป็นช่องทางหลอกลวงร้านค้าทอง
อนาคตน่าจะเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่อง อาจมีผู้ประกอบการ ร้านค้าประเภทต่างๆ ซึ่งไม่รู้วิธีการหลอกลวงของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพที่เปลี่ยนรูปแบบไปอีก มีโอกาสเป็น “เหยื่อ” ถูกหลอกรูปแบบเดียวกับแก๊งซื้อขายทองคำ
...
พล.ต.ต.ไพศาล ใช้ช่องทาง “สื่อออนไลน์” มาแจ้งเตือนภัยผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการ ร้านค้า ถึงเล่ห์กลของกลุ่มแก๊งคนร้ายหลอกซื้อทองคำ เพื่อไม่ให้มีการขยายความเสียหายออกไปในวงกว้างมากกว่านี้
บอกว่า “สิ่งที่อยากจะเพิ่มเติมร้านค้าให้ตรวจสอบการชำระค่าสินค้าให้ถูกต้องละเอียดรอบคอบก่อน เช่น โทร.ถามและตรวจสอบว่ามีเงินเข้าบัญชีของร้านเพื่อชำระค่าสินค้าแท้แน่จริงหรือยัง การอ่านข้อความที่ธนาคารส่งมาก็อ่านให้เข้าใจ หากไม่เข้าใจให้ทวงถามจากธนาคารให้แน่ชัด เพื่อไม่ให้ถูกแก๊งเหล่านี้มาหลอกลวง” ความใส่ใจของ โฆษก บช.ภ.4 กับความเดือดร้อนชาวบ้าน แม้เป็นคดีที่เพิ่งเกิดขึ้น
แต่วิธีการง่ายๆของกลุ่มแก๊งคนร้าย ใช้ความเดือดร้อนผู้คนมาหลอกซ้ำเติมคนไทยด้วยกัน
ออกมาเตือนเพื่อไม่ให้คนตกเป็นเหยื่ออีก.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th