อีกหนึ่งเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดของคนไทย “จ่าทหารคลั่ง” ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บ 58 ราย คนทั่วโลกลุ้นระทึก ขอให้เจ้าหน้าที่คุมสถานการณ์โดยเร็วไม่ให้สูญเสียเกิดขึ้นอีก
เหตุเกิดบ่ายวันที่ 8 ก.พ. จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุยิงนายทหาร พ.อ.อนันต์ฐโรจ กระแสร์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ แม่ยายเสียชีวิต ปมทวงเงินค่า “นายหน้า” โครงการบ้านพักสวัสดิการทหารที่อ้างถูกโกง ก่อนบุกปล้นอาวุธปืนสงครามจากคลังอาวุธในค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ยิงทหารเวรเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ขับรถฮัมวีของทหารหลบหนีตามเส้นทางวัดป่าศรัทธาราม
คนร้ายใช้ปืนกราดยิงชาวบ้านรายทางเสียชีวิต 9 คน ยิงปะทะตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครราชสีมาที่เข้าสกัด ด.ต.ชัชวาล แท่งทอง ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองนครราชสีมา ถูกคนร้ายกราดยิงเสียชีวิตบนรถยนต์สายตรวจ มีตำรวจถูกยิงบาดเจ็บ คนร้ายหลบหนีเข้าห้างเทอร์มินอล 21 ระหว่างทางยิงคนเสียชีวิตที่ติดแยกไฟแดง 2 ราย ยิง รปภ.และยิงผู้คนหน้าห้างอีก 2 ราย ก่อนยิงถังแก๊สของห้างจนเกิดเพลิงไหม้เป็นข่าวใหญ่ทันที

...
ขณะก่อเหตุกราดยิงคนอื่นคนร้ายได้ไลฟ์สดลงเฟซบุ๊กส่วนตัวไปด้วย สร้างความตื่นกลัวให้คนไทยทั้งประเทศ และคนร้ายเลือกใช้ห้างสรรพสินค้าที่เต็มไปด้วยผู้คนในช่วงวันหยุด เป็นเกราะกำบังขวางเจ้าหน้าที่ไม่กล้าเข้าจับกุม ยิ่งทำให้สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ ผู้ก่อเหตุได้รับการฝึกฝนเชี่ยวชาญยุทธวิธี เป็นนักแม่นปืนของหน่วย จำนวนอาวุธปืนสงครามและระเบิดที่ถูกปล้นออกมาจากคลังแสงค่ายทหาร นำมาไว้ใช้ต่อสู้ขัดขวางการจับกุม
เป็นเหตุวิกฤติชีวิตผู้คนนับร้อยที่ติดเป็นตัวประกันอยู่ในห้างสรรพสินค้า
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ช่วยเหลือคนเจ็บ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เข้าคุมสถานการณ์ร่วมกับ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เข้าร่วมระงับเหตุลูกน้องในสังกัดที่ก่อเหตุร้ายแรง
3 ทุ่มครึ่ง เฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 10 ลำ นำชุดปฏิบัติการพิเศษฝีมือดีทั่วประเทศเข้าปฏิบัติการในพื้นที่ จ.นครราชสีมา นำโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ มาพร้อมกับ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษก ตร.

ชุดปฏิบัติการ “หนุมาน” ตำรวจกองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. คุมกำลัง ชุด “อรินทราช 26” ของ บก.สปพ. พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. นำทีมมา ชุดปฏิบัติการ “คอมมานโด” ของตำรวจมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผบก.ตร.มหด.รอ.904 นำทีม พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบช.ก. ที่ติดราชการต่างประเทศต่อสายตรงมาสั่งการ ชุด “นเรศวร 261” ตำรวจพลร่ม ตชด.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายหลักที่ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำทีมจากภาคเหนือเข้าพื้นที่โคราช มี พ.ต.ต.ชานันท์ ชัยจินดา สว.กก.สอ.บช.ตชด. คุมกำลังมา
เป็นการรวมพลชุดปฏิบัติการพิเศษมือดีจากตำรวจทั่วประเทศกว่า 60 ชีวิต ผนึกกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 3 ที่มี พล.ต.ต.อัครเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3 รับหน้าที่ ผบ.เหตุการณ์ หลังเข้าพื้นที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ พล.อ.อภิรัชต์ พล.ต.อ.สุวัฒน์ พล.ต.อ.สุชาติ พล.ต.ต.จิรภพ พล.ต.ต.สำราญ นวลมา ผบก.สปพ. นั่งประชุมวอร์รูมที่ ศปก.ส่วนหน้า โดยมี พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. เข้าร่วม ในรูปแบบ ทีมประเทศไทย พบว่าจ่าทหารคลั่งอยู่ชั้นใต้ดินศูนย์อาหาร ผบ.ตร.ทำหน้าที่ ผบ.เหตุการณ์ นำกำลังตำรวจเข้าห้าง
ภารกิจสำคัญแรก พล.ต.อ.จักรทิพย์ มอบ พล.ต.ต.จิรภพ นำชุด “หนุมาน” เข้าไปในห้างเป็นหน่วยแรก เป็นภารกิจสำคัญเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดค้างเป็นตัวประกันอยู่ด้านในของห้างเทอร์มินอล 21 ออกมาให้ได้มากที่สุด พล.ต.ต.จิรภพ เปิดเพจ “กองปราบปราม” เป็นช่องทางให้ประชาชนแจ้งจุดที่อยู่ ชุดหนุมานกองปราบฯใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง ช่วยประชาชนออกมาได้เกือบหมด เหลือตกค้างในชั้นใต้ดินที่จ่าทหารคลั่งยึดเป็นที่มั่นต่อสู้เจ้าหน้าที่
...
หลังตัวประกันชุดสุดท้ายห้องฟิตเนสชั้นใต้ดิน 50 คนออกมา ผบ.ตร.ตัดสินใจนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษทุกหน่วยขยับเข้าพื้นที่หลบซ่อนของคนร้ายที่อยู่ในชั้นใต้ดินของห้าง ยังเหลือตัวประกันที่ถูกจับอยู่ในห้องแช่เย็น

ช่วง 03.30 น. ผบ.ตร.ตัดสินใจนำกำลังยิงปะทะคนร้ายที่หลบอยู่ชั้นในสุดของห้องเย็น เป็นสมรภูมิที่ได้เปรียบมองเห็นคนที่ลงมาชั้นใต้ดิน ชุดปฏิบัติการพิเศษที่เข้าไปรู้ดีว่า ต้องมีการสูญเสีย แต่ด้วย “จิตวิญญาณ” ความเป็นตำรวจ พวกเขาไม่เคยกลัว อาสาเสี่ยงอันตรายเข้าช่วยเหลือชีวิตตัวประกันออกมาและเข้าปะทะคนร้าย
เหตุปะทะต่อเนื่อง ส.ต.ท.กฤษฎา การุณ ชุดอรินทราช 26 ส.ต.ต.รัฐธรรมนูญ นาทอง ชุดหนุมาน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ชุดอรินทราช 26 ที่เข้าเปิดทางจับคนร้ายถูกยิงที่หน้าอกเสียชีวิต
ช่วงสาย ผบ.ตร.เปิดปฏิบัติการจับกุมคนร้ายอีกรอบ หลังรู้ตำแหน่งที่แน่ชัด แยกภารกิจให้ ชุดหนุมาน ช่วยตัวประกัน ส่วน ชุดอรินทราช 26 และ ชุดนเรศวร 261 บุกจู่โจมคนร้ายเพื่อปิดเกมโดยเร็วที่สุด
...
การตัดสินใจครั้งนี้ได้ผล ผบ.ตร.นำทีมควบคุมสถานการณ์ ช่วยเหลือตัวประกัน คนร้ายถูกวิสามัญฆาตกรรม ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ชุดอรินทราช 26 ที่เข้าเบิกทางจับคนร้ายถูกยิงเสียชีวิตเป็นรายที่ 3

เหตุกราดยิงทำให้สูญเสียตำรวจมือดี 2 นายของชุดอรินทราช 26 ร.ต.อ.ตระกูล ทาอาษา ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย และ ด.ต.ชัชวาล แท่งทอง ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองนครราชสีมา ที่เสี่ยงชีวิตเข้าสกัดจับ “จ่าคลั่ง” ถูกยิงถล่มด้วยอาวุธสงครามเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์สายตรวจ แลกกับความสงบสุขของพี่น้องชาวโคราช
ความสูญเสียชีวิตประชาชน ตำรวจ ทหาร กว่า 30 ราย แลกกับการหยุดยั้งจ่าทหารบ้าคลั่ง
ก่อเหตุยึดห้างกราดยิงเมืองโคราช ตำรวจทุกหน่วยที่ร่วมคลี่คลายได้รับเสียงชื่นชมจากคนทั่วโลก
หากปล่อยล่าช้า อาจจะเกิดความสูญเสียหรือลุกลามบานปลายมากไปกว่านี้

...
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “แม้จะต้องแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องประชาชนและสังคม สมกับการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างแท้จริง ทุกคนเสียใจความสูญเสียชีวิตตำรวจที่มีความรู้ความสามารถเป็นบุคลากรที่ดี ทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่แสดงถึงความกล้าหาญในหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ สมควรได้รับ การยกย่องมอบให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอกรอง ผบ.ตร.ดูแลเงินช่วยเหลือสวัสดิการทุกอย่างที่ให้ได้อย่างเต็มที่ อย่าให้ขาดตกบกพร่อง”
“ทุกคนที่ช่วยเหลือสนับสนุนในการปฏิบัติ งานกราดยิงเมืองโคราช ทุกคนเป็นฮีโร่ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง หมอ พยาบาล หน่วยกู้ภัย เจ้าของห้าง ภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มีส่วนร่วมมีส่วนสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ ขณะนี้ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง “ถอดบทเรียน” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”
บทบาทของ ผบ.ตร. ผู้นำที่ รบเคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง ชีวิต 3 ตำรวจ วีรบุรุษผู้กล้า ที่พลีชีพทำหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ปกป้องคุ้มครองชีวิตชาวโคราช น่าจะเป็นบทสรุปที่ว่า “มีตำรวจไว้ทำไม”
ตำรวจยังเป็นที่พึ่งที่ขาดไม่ได้ของคนไทย.
ทีมข่าวอาชญากรรม