ความเดือดร้อนของ กลุ่มรักษ์เวียงต้า ร้องเรียนมาเรื่องของโรงโม่หิน ที่เปิดดำเนินการอยู่ในเขตบ้านม่อน ม.3 ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ ชาวบ้านบอกว่า เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ.2550 ตั้งแต่โรงโม่หินแห่งนี้ได้เปิดดำเนินการ ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่ เป็นอย่างมาก

เนื่องจากทางโรงโม่หินทำการระเบิดหินบนภูเขาทุกวัน ซึ่งเสียงที่ดังจากการระเบิดและฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปในอากาศ ทำให้เกิดเป็นมลพิษ เข้าไปในโรงเรียน ร้านค้าและบ้านพักอาศัย อีกทั้งในบริเวณนี้มีหินโบราณอายุนับล้านปีที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจำนวนมาก มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ที่ต้องถูกทำลายไปอย่างน่าเสียดาย

นอกจากนี้ยังมีรถพ่วงขนาดใหญ่นับสิบคันที่วิ่งบรรทุกหินจากโรงโม่ ซึ่งส่วนใหญ่มีน้ำหนักบรรทุกเกินกว่า 30 ตัน ที่วิ่งเข้าออกผ่าน ถ. เวียงต้า-ต้าผามอก ต.เวียงต้า อ.ลอง จ.แพร่

เรียกว่าเกือบตลอดทั้งวัน

ทำให้ถนนได้รับความเสียหายเกิดหลุมบ่อจำนวนมาก ทำให้รถของชาวบ้านส่วนใหญ่ที่เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่ต้องวิ่งผ่านทางเส้นนี้ได้รับอุบัติเหตุไปแล้วหลายคัน

กลุ่มรักษ์เวียงต้า บอกว่า เนื่องจากก่อนการเปิดดำเนินการของโรงโม่หินแห่งนี้ ทางเทศบาล ต.เวียงต้า ไม่มีการให้ข้อมูลล่วงหน้าแก่ชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อให้ทำประชาพิจารณ์แสดงความคิดเห็น และยังไม่มีการสำรวจศึกษาถึงผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นกับชุมชน และสิ่งแวดล้อม ตามขั้นตอนทางกฎหมาย

อยู่ดีๆทางเทศบาล ต.เวียงต้า ก็อนุมัติให้โรงโม่หินแห่งนี้ได้เปิดการดำเนินงานเลย ทั้งที่ยังไม่มีใบอนุญาต จึงเป็นที่น่าสงสัยว่าเปิดดำเนินการมาได้อย่างไร และผ่านขั้นตอนต่างๆมาอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ชาวบ้านอยากให้ตรวจสอบ ผู้บริหารเทศบาล ต.เวียงต้ามีส่วนได้รับผลประโยชน์ใดๆกับโรงโม่หินแห่งนี้หรือไม่

...

ชาวบ้านที่ร้องบอกว่า เรื่องนี้ทางกลุ่มรักษ์เวียงต้าของเราได้เคยแจ้งไปทางผู้บริหารเทศบาล ต.เวียงต้าหลายครั้ง เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้องของการเปิดดำเนินการโรงโม่หินแห่งนี้

รวมทั้งหาทางลดผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้น

แต่กลับได้รับคำตอบแบบขอไปทีว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ แล้วเรื่องก็เงียบหายไป โดย ไม่มีการดำเนินการใดๆทั้งสิ้น ทำให้ทางกลุ่มฯจึงจำเป็นต้องร้องเรียนมาเพื่อเป็นสื่อช่วยกระจายข้อมูลนี้ ให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจเข้ามาตรวจสอบความไม่ถูกต้องต่างๆของการเปิดดำเนินกิจการของโรงโม่หินแห่งนี้

เป็นไปอย่างถูกต้องตามขั้นตอนทางกฎหมายหรือไม่

รวมทั้งให้เอาผิดกับผู้ที่ร่วมกันรู้เห็นเป็นใจ

ในการกระทำผิดด้วย.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th