หนีไม่รอด “ไอ้ต่อ” นักโทษชายคดีลักทรัพย์ใช้คีมตัดโซ่ตรวนหนีออกจาก รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่พบซุกตัวนอนที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารภายใน รพ. ใช้ถุงดำอำพรางสภาพอิดโรยต้องรีบพาไปปฐมพยาบาลก่อนคุมตัวไปทำแผน เผยสาเหตุหนีเพราะคิดถึงลูกชายวัย 8 ขวบและเมีย ช่วงหนีคดี ชีวิตแสนทรมานเจ็บแผลและหิวโซ ขณะที่ตำรวจคุมตัว น.ช.และเมียส่งศาลจังหวัดพัทยาจากเหตุ น.ช.ธนภัทร หรือต่อ มายอด อายุ 37 ปี นักโทษคดีลักทรัพย์ใช้คีมตัดเหล็กตัดโซ่ตรวนหนีออกจากโรงพยาบาลบางละมุง จ.ชลบุรี ในช่วงเวลา 02.00 น. วันที่ 9 ธ.ค. หลังเข้ามารับการผ่าตัดอวัยวะเพศ เนื่องจากฉีดเพิ่มขนาดแล้วเกิดการอักเสบติดเชื้ออย่างรุนแรง แพทย์ให้นอนพักฟื้นที่ห้องคนไข้ แผนกศัลยกรรมชั้น 7 เตียง 32 ก่อนหลบหนีเข้าป่าด้านหลังโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ระดมกำลังหาแต่ยังไม่พบตัวความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 10 ธ.ค. เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษพัทยารับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลบางละมุงว่า พบชายใช้ถุงดำคลุมตัวนอนอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าของอาคารสุขใจ เป็นอาคารชั้นเดียวอยู่ภายใน รพ. ตรวจสอบพบน.ช.ธนภัทรอยู่ในสภาพอิดโรย ใส่เสื้อคนไข้สีเขียว นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา ที่ข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง ยังมีเหล็กโซ่ตรวน เจ้าหน้าที่เรือนจำควบคุมตัว น.ช.ธนภัทรไปปฐมพยาบาลภายในห้องฉุกเฉิน ก่อนส่งตัวให้ตำรวจ สภ.บางละมุงต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง พ.ต.ท.กรณ์พงษ์ สุขวิสิฏฐ์ รอง ผกก.สส. พร้อมด้วยพนักงานสอบสวนคุมตัวน.ช.ธนภัทร มายอด ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เริ่มจากรับคีมตัดเหล็กจาก น.ส.วาสนา ก๊วยสุวรรณ อายุ 30 ปี เมียของ น.ช.ธนภัทร จากนั้นใช้คีมตัดโซ่ตรวนบริเวณขา และชี้จุดเส้นทางที่ใช้ในการหลบหนี แจ้งข้อกล่าวหาผู้ใดหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาล ของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวน หรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับนช.ธนภัทร มายอด สารภาพว่า หลังใช้คีมตัดโซ่วิ่งหนีไปที่ป่ารกด้านหลังโรงพยาบาล เดินลัดเลาะไปตามแนวกำแพงโยนคีมตัดเหล็กทิ้งพงหญ้า จากนั้นปีนเสาไฟขึ้นไปบริเวณดาดฟ้าตึกอาคารสุขใจ ใช้ถุงดำคลุมตัวอำพรางลงไปนอนในช่องระหว่างคาน ตนนอนอยู่ในบริเวณดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเวลาตี 2 ของวันที่หลบหนี กระทั่งเวลา 22.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.ปีนลงมาหาน้ำดื่ม แล้วปีนขึ้นกลับไปนอนในจุดเดิม ก่อนจะมาถูกเจ้าหน้าที่จับตัว รวมเวลานอนที่ดาดฟ้าร่วม 28 ชั่วโมงนช.ธนภัทรเปิดเผยอีกว่า สาเหตุที่วางแผนหลบหนีเพราะคิดถึงลูกชายวัย 8 ขวบและเมีย เกิดความคิดชั่ววูบ แต่ไม่ได้วางแผนเส้นทางหลบหนีจึงปีนขึ้นไปแอบบนดาดฟ้า ตึกอาคารสุขใจ ยอมรับว่าช่วงที่หนีทรมานมากเพราะเจ็บแผลจากการผ่าตัดอวัยวะเพศ และไม่ได้กินข้าวเป็นเวลา 2 วัน สุดท้ายหนีไม่รอดเพราะไม่รู้จะหนีไปไหน อีกทั้งถูกตำรวจและผู้คุมปิดล้อมไว้ทุกด้านของโรงพยาบาล อยากขอโทษเมียที่ต้องทำให้มาถูกจับไปด้วยขณะที่ตำรวจแจ้งดำเนินคดีกับ น.ส.วาสนา ก๊วยสุวรรณ เมียของ น.ช.ธนภัทร ในข้อหาผู้ใดกระทำด้วยประการใดให้ผู้ที่ถูกคุมขังตามอำนาจของศาลของพนักงานอัยการ ของพนักงานสอบสวนหรือของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา หลุดพ้นจากการคุมขังไป ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นตำรวจคุมตัว น.ช.ธนภัทรและ น.ส.วาสนา ไปที่ศาลจังหวัดพัทยาส่งดำเนินคดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
