ตะครุบตัว “ไอ้วัน” ตาเลี้ยงชาวพม่าอำมหิตฆ่าเหี้ยม “น้องตี้” ได้แล้ว หลังก่อเหตุเผ่นไปกบดานในบ้านร้าง ตำรวจตามไปลากคอมาเค้นสอบปากคำ อ้างถูกขับไล่จนต้องเผ่นไปอาศัยเพิงพัก วันเกิดเหตุเดินผ่านหน้าบ้านถูกเด็กตะโกนด่าและใช้สากกะเบือตีหัว โมโหขาดสติคว้ามีดด้ามยาวฟันยับสิ้นใจตายสยอง ก่อนลากศพไปทุบตีให้หายแค้น

คดีสะเทือนใจ กรณี ด.ช.ธนวัต หรือน้องตี้ อิ่มขุนทอง วัย 11 ขวบ ถูกนายวัน อายุ 49 ปี ชาวเมียนมา และเป็นตาเลี้ยงของเด็ก ก่อเหตุฆาตกรรมอย่างเหี้ยมโหด ใช้มีดหวดหญ้าฟันท้ายทอยและกลางศีรษะจนเสียชีวิต ก่อนลากศพน้องตี้ไปทุบตีใบหน้าเละแล้วหมกศพไว้ในกองหญ้าบ้านตอไม้แดง หมู่ 2 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 5 เม.ย. ต่อมาฝ่ายสืบสวน สภ.หนองขาม กระจายกำลังไล่ล่าคนร้ายอย่างไม่ลดละ

ความคืบหน้าของคดี เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 7 เม.ย. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จ.ชลบุรี ฝ่ายสืบสวน สภ.หนองขาม และฝ่ายสืบสวน สภ.ศรีราชา นำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านร้าง เลขที่ 24/3 ซอยท่าเรือจรินทร์ ถนนเจิมจอมพล ต.ศรีราชา จับกุมนายวัน ผู้ต้องหาฆ่าโหดน้องตี้ขณะนอนหลับอยู่ในบ้านร้างดังกล่าว คุมตัวไปสอบปากคำที่ห้องสอบสวน สภ.ศรีราชา ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

นายวันให้การรับสารภาพอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับนางลำไย สมศรี อายุ 56 ปี ภรรยาของตนและเป็นยายของเด็กอย่างรุนแรง ประกอบกับลูกสาวของนางลำไยและน้องตี้พากันขับไล่ตนออกจากบ้านเลขที่ 168/1 หมู่ 2 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จนต้องไปอาศัยเพิงพักใกล้บ้านภรรยาเป็นที่กินอยู่หลับนอน ก่อนเกิดเหตุได้เดินออกมากรอกน้ำที่หน้าปากซอย ระหว่างเดินกลับได้พบกับน้องตี้ที่ตะโกนด่าทอและยังนำสากกะเบือมาตีศีรษะ ทำให้ตนโมโหสุดขีดคว้ามีดหวดมีด้ามจับเป็นเหล็ก ฟันเข้าท้ายทอยและกลางศีรษะน้องตี้ จากนั้นลากศพไปทุบตีใบหน้าเพื่อให้หายแค้น ก่อนจะนำหญ้าสดหญ้าแห้งกลบทับศพไว้แล้วรีบหลบหนีออกมา กระทั่งถูกจับตัวได้ในที่สุด

...

พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างมาก ผู้เสียชีวิตเป็นเด็กอายุแค่ 11 ขวบ หลังเกิดเหตุตำรวจแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ออกติดตามตัวคนร้าย กระทั่งพบนายวัน นั่งรถสองแถวสายศรีราชา-หนองค้อ จากชุมชนโค้งดารา ต.หนองขาม อ.ศรีราชา ไปลงปากซอยท่าเรือจรินทร์ ถนนเจิมจอมพล ต.ศรีราชา แล้วเดินเท้าเข้าไปหลบซ่อนตัวในบ้านร้างดังกล่าว จากการสอบปากคำแม่และยายของเด็กทราบว่า นายวันอยู่กินกับนางลำไย ยายน้องตี้ มานานเกือบ 20 ปี กระทั่งช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา นายวันมีพฤติกรรมติดสุราหนัก เวลามึนเมาสุราจะทุบตียายน้องตี้จนศีรษะแตกต้องเย็บ 3 เข็ม นางลำไยเลยตีตัวออกห่าง แต่นายวันยังคงแวะเวียนมาพูดจาข่มขู่ว่าจะฆ่ายกครัว ก่อนเกิดเหตุนายวันได้มาที่บ้านจนมาพบกับน้องตี้ และก่อเหตุฆาตกรรมอำพรางศพ

หลังสอบปากคำ ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เกิดเหตุเป็นอย่างมาก เกรงว่าผู้ต้องหาจะถูกรุมประชาทัณฑ์ ประกอบกับเป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เกรงว่าหากมีประชาชนมารวมตัวกันจำนวนมากอาจเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้ รวมทั้งยังอยู่ในช่วงประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีกด้วย เบื้องต้นดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ต่อมาเวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่ป่าหญ้าบ้านตอไม้แดง บริเวณจุดเกิดเหตุ น.ส.มัลติกา จันทร์ดวง อายุ 27 ปี แม่น้องตี้ และนางลำไย สมศรี ยายของเด็ก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา เดินทางมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณลูกชายไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดเนินตอง หมู่ 2 ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี น.ส.มัลติกากล่าวว่า วันนี้ได้มาจุดธูปเพื่อเชิญวิญญาณลูกชายกลับไปทำพิธีทางศาสนา และขอให้ลูกไปสู่สุคติ หากชาติหน้ามีจริง ขอให้เกิดเป็นแม่ลูกกันอีก หลังเสร็จพิธีทางศาสนาของลูกชายแล้วจะดำเนินเรื่องทางคดีให้ถึงที่สุด เสียใจมากและยังทำใจไม่ได้ที่ต้องเสียลูกชายไป ยืนยันไม่ขออโหสิกรรมให้คนร้ายอย่างแน่นอน