ตำรวจท่องเที่ยวรวบ กก.ผจก.บริษัททัวร์ ลอยแพนักท่องเที่ยว เจ้าของบริษัทขายสินค้านำเข้าพาลูกทีมฉลองยอดไปโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ถูกลอยแพยึดพาสปอร์ต สัมภาระ เกือบไม่ได้กลับประเทศ อีกรายจับสาวแสบตุ๋นนำเที่ยวตุรกีโปรแกรม 9 วัน 8 คืน ได้เหยื่อกว่า 30 ราย เชิดเงินล้านหายเข้ากลีบเมฆจับบริษัททัวร์ลอยแพนักท่องเที่ยวเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 เม.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1 พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. ร่วมแถลง จับกุมนายสนธยา โพธิ์ศรี อายุ 35 ปี กก.ผจก.บริษัท เคพีเอส เวิร์ด เซอร์วิส จำกัด ตามหมายจับศาลแขวงชลบุรีที่ จ.60/2561 ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหานำนักท่องเที่ยวชาวไทย 33 คน ไปเที่ยวที่เมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 2-6 ก.พ. รวม 4 วัน เป็นเงิน 1,184,700 บาท หลังชำระเงิน ได้ออกเดินทางโดยมีรถบัสมารับกลุ่มผู้เสียหายไปเที่ยว ต่อมาเจ้าของรถบัสเรียกเก็บเงิน โดยแจ้งว่าทางบริษัททัวร์ที่ไทยยังไม่จ่ายเงินค่าพาทัวร์ นักท่องเที่ยวชาวไทยไม่มี เงินให้ ถูกปล่อยทิ้งไว้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง และยึดสัมภาระพร้อมหนังสือเดินทางไว้ ก่อนพากันขอความช่วยเหลือจากตำรวจโอซากาให้ช่วยติดตามหนังสือเดินทางและทรัพย์สินคืน ต้องนำเงินส่วนตัวสำรองจ่ายค่าโรงแรม ค่ารถ ค่าอาหาร ระหว่างรอกลับประเทศไทย เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แสนสุข จ.ชลบุรี

ด้าน น.ส.สุชาดา นาดี อายุ 56 ปี เจ้าของ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพนำเข้าจากต่างประเทศ ผู้เสียหายเล่าว่า ทางบริษัทพาตัวแทนจำหน่ายที่ทำยอดขาย ทะลุเป้าไปเที่ยวต่างประเทศ นายสนธยา กก.ผจก. บริษัท เคพีเอส เวิร์ด เซอร์วิส จำกัด เสนอขายทัวร์ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ดูจากโปรแกรมและราคารวมค่าใช้จ่ายตลอดการเดินทาง ตั้งแต่ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ค่ารถทัวร์ และค่าที่พัก ตกลงไปเที่ยวเมืองโอซากา ประเทศญี่ปุ่น วันเดินทางขึ้นเครื่องบินได้ปกติ แต่พอเข้าวันที่ 2 ทางรถบัสนำเที่ยว ขอเก็บเงิน จึงทราบความจริงว่าบริษัทไม่ได้ชำระค่าที่พักและค่ารถบัสที่ญี่ปุ่น เลยต้องควักเงินเองอีก 1.3 แสนบาท รวมเสียไปกว่า 1.3 ล้านบาท ถามไปทางพนักงานของบริษัทที่ไปด้วย อ้างว่ายังไม่ได้รับค่าจ้าง 5 หมื่นบาทเหมือนกัน พอโทร. หานายสนธยาก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าหมุนเงินไม่ทัน ขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่จับกุมตัวนายสนธยามาดำเนินคดี

...

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวต่ออีกว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทท. จับกุม น.ส.อภิณห์พร พงษ์ปรีชาวงศ์ อายุ 47 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเทรน จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 796/2561 ลง 18 เม.ย. ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน นำเข้าข้อมูลซึ่งระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน น.ส.อภิณห์พร ผู้ต้องหา ได้โพสต์เฟซบุ๊กว่า ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเสนอโปรแกรมทัวร์ประเทศตุรกี 9 วัน 8 คืน ราคา 31,000 บาทต่อคน ทำให้กลุ่มผู้เสียหาย 35 คนหลงเชื่อซื้อโปรแกรมทัวร์ รวม 1,085,000 บาท มีกำหนดเดินทางวันที่ 23-31 มี.ค.พอถึงวันเดินกลับ ไม่ได้เดินทางตามที่ตกลงไว้ กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันตามทวงเงินคืน ถูกบ่ายเบี่ยงก่อนหลบหนีไป เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางเขน

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส. อภิณห์พรขอจดทะเบียนพาณิชย์ในชื่อบริษัท อินเทรน จำกัด แต่ไม่ได้ขออนุญาตจดทะเบียนกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ

“รัฐบาลกำชับให้บูรณาการปราบปรามกลุ่มบริษัทนำเที่ยวผิดกฎหมายในลักษณะนอมินี มีพฤติการณ์เอาเปรียบนักท่องเที่ยว ทำให้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยเสียหาย รวมถึงการเลี่ยงเสียภาษีอากร ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าว