เหตุไฟไหม้โรงงานพลาสติก ที่ซอยกิ่งแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อิทธิฤทธิ์สารเคมี ทางการต้องอพยพประชาชนในรัศมี 3-5 กม.จากโรงงานออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ผมโทร.ไปทบทวนกับเพื่อนนักข่าว ตลอดช่วงชีวิตการทำงานของพวกเรา ฉวดเฉียดกับข่าว จะต้องอพยพคนกรุงในรัศมี 5 กม. หนีหายนภัยทำนองนี้ กี่ครั้ง
เอาแค่ที่พอจดจำกันได้ ไม่เรียงลำดับเรื่อง ไม่ระบุเดือนปี ใครอยากรู้ถามอากู๋ คงบอกได้
ครั้งหนึ่ง ตำรวจรับแจ้งเจอรถบรรทุกจอดทิ้งไว้ริมสวนลุมพินี ท้ายรถมีแท็งก์น้ำบรรจุสารเคมีระเบิด เปิดดูเจอศพชายคนหนึ่งถูกฆ่าหมกไว้
ปริมาณระเบิดในแท็งก์ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ หากระเบิดรัศมีทำการจะไปไกลราว 5 กม.
สืบสาวลึกลงไป รถบรรทุกคันนั้น คนขับเป็นชายชาวตะวันออกกลาง ที่พอจำกันได้ก็เพราะเกิดไปเฉี่ยวชนกับรถมอเตอร์ไซค์ในห้างสรรพสินค้าใหญ่ใกล้ๆ
ข้อสันนิษฐานที่เห็นความเป็นไปได้ เป็นแผนระเบิดสถานทูตอิสราเอล หรือสหรัฐอเมริกา ถ้าไม่ไปเฉี่ยวชนมอเตอร์ไซค์ก่อน เมื่อระเบิดทำงาน ตึกรามอาคารบ้านเรือนในรัศมี 5 กม.บริเวณนั้น คงจะราบป็นหน้ากลอง
ครั้งสอง...ในสงครามกลางเมือง ฝ่ายม็อบยั่วยุฝ่ายรัฐบาล ก่อนกรณี 6-7 ศพในวัดปทุมวนาราม รถบรรทุกน้ำมันคันใหญ่ จอดยั่วให้ใจหายใจคว่ำอยู่สามเหลี่ยมดินแดง
ท่ามกลางเสียงปืน ม่านควันจากการเผาล้อยางรถยนต์ ผมนั่งเขียนข่าวในโรงพิมพ์ ลองเดินขึ้นชั้นดาดฟ้า จะอุปาทานหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ จมูกได้กลิ่นควันเผายาง ที่ตามข่าวนัวเนียกันตั้งแต่สามเหลี่ยมดินแดงไปถึงบ่อนไก่
เอาที่ทำงานเป็นตัวตั้ง จากสามเหลี่ยมดินแดงมาถึงไทยรัฐ มีข่าวว่าถ้ารถบรรทุกน้ำมันระเบิด...รัศมีทำการก็อาจจะไปไกลถึง 5 กม. ก็เสียววูบไปตามข่าว
...
เคราะห์ดีที่รถบรรทุกน้ำมันคันนั้นเป็นแค่เกมขู่ทางการเมือง
ครั้งที่สาม ไฟไหม้ละแวกชุมชน ติดวัดคลองเตยใน ตอนนั้น สวรรค์ชั้น 7 ก็อาคารทำงาน นสพ.สยามโพสต์ อยู่ติดรั้วคลังน้ำมันยักษ์ ของหลายบริษัทฝรั่ง ก็อีกด้านของชุมชนวัดคลองเตยใน
แค่ไฟไหม้ชาวบ้านก็ต้องหนีอยู่แล้ว แต่คราวนั้นไฟไหม้ติดคลังน้ำมันยักษ์ ก็อีกนั่นแหละ คราวนี้มีผู้รู้บอกว่าถ้าไฟลามทำให้คลังน้ำมันระเบิด หลับตานึกถึงคลังน้ำมันใหญ่หลายๆแห่งติดกัน...รัศมีระเบิดจะไกล
เขาก็ประมาณการว่า 5 กม.อีกเหมือนกัน
ตอนที่ถูกสั่งให้ออกจากที่ทำงาน เดินออกมาถึงปากซอย ห้าแยกคลองเตย ก็ราว 300 เมตร นึกว่าปลอดภัยแล้ว มีรถโฆษณาประกาศว่า แค่นี้ยังห่างไม่พอ เราต้องชวนกันเดินต่อ ห่างไปอีก
สติปัญญาการเอาตัวรอดแบบเราๆ ยังไม่เท่ากับกลุ่มหัวหน้าโรจน์ เจอกันตอนหลังจึงรู้ กลุ่มนี้หนีไปตั้งหลักไกลถึงแยก รพ.จุฬาฯหน้าสวนลุมพินี
เรื่องที่คาใจ บก.อรุณ ลานเหลือ เดินบ่นเข้าหู ทำไมผู้บริหารใหญ่ที่เป็นฝรั่ง จึงมาเอาที่ดินแปลงติดคลังน้ำมัน ไม่เลือกแปลงปากซอย ที่ตอนนี้บริษัทล็อกซเล่ย์ตั้งอยู่ ฟังแล้วคิดได้ว่า เอาชีวิตคนหนังสือพิมพ์สองฉบับมาสุ่มเสี่ยง
เอาล่ะ...เท่าที่พอนึกได้...อย่างน้อยก็สามครั้ง ที่คนในเมืองแออัด ฉวดเฉียดกับหายนภัยใหญ่
มาครั้งนี้ ครั้งไฟไหม้โรงงานพลาสติกที่บางพลี...นี่แหละ...ที่ฝันร้าย...กลายเป็นจริง
ต้องอพยพคนหนีในรัศมี 5 กม.จริงๆ
ผมไม่ยอมเชื่อ...ฝันร้ายที่กลายเป็นจริงอย่างนี้ จะเกิดจะมีขึ้นอีก สงครามโควิด-19 แม้หนักหนาสาหัสแค่ไหน...ด้วยน้ำใจคนไทยทุกฝ่าย หมอพยาบาล เจ้าหน้าที่ แม้เหนื่อยแค่ไหน ก็ยังตั้งรับอยู่
ผมมั่นใจ เราจะไม่แพ้ นี่เป็นสงครามที่มีเดิมพันด้วยบ้านเมือง คนละเรื่องกับเรื่องการเมือง.
กิเลน ประลองเชิง