ไผ่โดยปกติแล้วมักขายพันธุ์ด้วยการปักชำ แยกกอ ไม่ก็ตอนกิ่ง แต่ไม่ใช่กับเกษตรกรจากบ้านท่ามะปราง หมู่ 6 ต.นาหินลาด อ.ปากพลี จ.นครนายก ที่เขาขยายพันธุ์โดยชำเหง้าไผ่ ทำให้อัตรารอดสูงกว่าวิธีการอื่น แถมพ่วงด้วยได้ราคาสูงกว่า
ลุงสมัย พลสันศรี วัย 58 ปี เจ้าของสวนไผ่พลสันศรี เผยว่า ทำไผ่มานานกว่า 10 ปี โดยการซื้อมาขายไป ก่อนจะได้ที่ดินมรดกจากพี่ๆ ได้แบ่งให้กว่า 10 ไร่ เริ่มลงมือปลูกไผ่พันธุ์ปักกิ่ง อย่างจริงจังเมื่อ 5 ปีก่อน จำนวน 200 กอ บนพื้นที่ 2 ไร่ ส่วนที่เหลือทำเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชหลายชนิด ทั้งมะม่วง ส้มโอ มะยงชิด มะละกอ และพืชผักไว้กิน ที่เหลือขาย
แต่ที่ขายดีที่สุด คือกิ่งไผ่ ช่วงแรกตัดกิ่งตอนขายไม่ต่างจากคนทั่วไป แต่ระยะหลัง มีลูกค้ามาสอบถามต้องการเหง้าไผ่ชำ เพราะเมื่อไปปลูกจะรอดตายมากกว่ากิ่งพันธุ์ไผ่ แถมให้ราคาสูงอีกด้วย เลยเห็นโอกาสนี้ เพราะสวนไผ่แห่งนี้ปลูกมานานกว่า 5 ปี มีเหง้าใหม่ๆออกมากอละ 5–6 เหง้าทุกปี โดยหลังจากลงมือตัดเหง้ามาปักชำแล้วทดลองปลูกด้วยตัวเอง พบว่า ภายใน 1 ปี เหง้าไผ่ขยายพันธุ์แตกออกหน่อให้กิน ได้ดีกว่าใช้กิ่งพันธุ์ที่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 2–3 ปี ถึงจะได้กินหน่อ
...
สำหรับขั้นตอนการตัดเหง้า ลุงสมัย แนะให้เลือกเหง้าที่อายุ 1 ปีขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 2 ปี เพราะลำแก่ การแตกตาจะไม่ดี ให้เลือกเฉพาะส่วนกลางกอไผ่ เพื่อให้ลำไผ่ด้านข้างแตกหน่อออกมาได้โดยง่าย จากนั้นตัดที่โคน 2 ด้าน แล้วโยกด้านล่างให้รากหักก่อนจะนำมาตัดแต่งโคน และปลายลำ ให้สูง 80 ซม. หรือตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ ในการตัดแต่งตอพยายามอย่าให้ใบมีดไปโดนตาหน่อ ไม่เช่นนั้นไผ่จะไม่แตกหน่อ
จากนั้นนำเหง้าไผ่ที่ได้ใส่กระป๋อง ที่ใส่น้ำยาเร่งราก ทิ้งไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือค้างไว้ 1 คืน จะยิ่งดี ก่อนจะนำมาใส่ในถุงปักชำ โรยด้วยแกลบดำล้วน ในระยะ 3-6 เดือน รากเดินเต็มถุง สามารถนำปลูกลงดินได้ทันที เพียงปีเดียวไผ่ก็จะแตกหน่อให้ผลผลิตไว้กินไว้ขายได้ทุกปีสำหรับสนนราคามีตั้งแต่ 100-300 บาท ขึ้นกับขนาดเหง้า สนใจมาเยี่ยมสวนไผ่พลสันศรี ติดต่อที่ลุงสมัย 06-1427-9018.