พ่อค้าหนุ่มใหญ่ขับเก๋งพาครอบครัวพ่อแม่ลูก 3 ชีวิตจะไปร่วมงานแต่งงานญาติที่ จ.สงขลา แต่ถนนพระราม 2 รถติดหนักจนแก๊สรถยนต์ใกล้หมด เปลี่ยนจากเลน 2 เข้าเลนซ้ายสุดเตรียมออกทางคู่ขนานเพื่อหาปั๊มแก๊ส ปาดหน้ารถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เลยถูกชนไถลอัดแท่งปูนแบริเออร์กันจุดกลับรถ พ่อค้ากับลูกสาวถูกอัดก๊อบปี้สาหัส ส่วนภรรยากระเด็นออกมาตายนอกรถ ส่วนรถบรรทุกพ่วงเสียหลักพลิกตะแคงขวางถนน โชเฟอร์บาดเจ็บอีกราย เสี่ยเคเบิลทีวีซิ่ง จยย.เสียหลักชนศาลาผู้โดยสารข้างทางจนเสาหัก ส่วนเสี่ยหนุ่มเสียชีวิตคาที่

อุบัติเหตุสยอง 2 ราย มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เจ็บ 3 คน รายแรกรถพ่วงชนท้ายเก๋งอัดกับแท่งปูนแบริเออร์ตาย 1 ศพ เจ็บ 3 คน เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 20.40 น.วันที่ 25 ก.ค. ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนกับรถเก๋งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดบริเวณจุดกลับรถช่องทางด่วนถนนพระราม 2 กม.69 หมู่ 6 ต.บางขันแตก นำกำลังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรม รุดไปสอบสวน

ที่เกิดเหตุเป็นช่องทางด่วนถนนพระราม 2 ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ พบรถเก๋งนิสสันซันนี่ สีเทา ทะเบียน 1 ษ 1864 กรุงเทพมหานคร พังยับเป็นเศษเหล็ก หลังคายุบ จอดอยู่ช่องกลับรถเลนขวาสุด ส่วนเพลาและล้อหลังขาดทั้งยวงติดกับแท่งปูนแบริเออร์กั้นจุดกลับรถ นายสุวิทย์ ภูมี อายุ 51 ปี คนขับ บ้านอยู่ซอยเสรีไทย 42 แยก 3 แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพฯ ถูกอัดก๊อบปี้ติดคาเบาะคนขับ ศีรษะแตก กรามหักและมีแผลตามร่างกายหลายแห่งอาการสาหัส กับ น.ส.วาสินี ภูมี อายุ 18 ปี ลูกสาว ขาซ้ายหักติดคาเบาะหลัง ส่วนผู้เสียชีวิตกระเด็นออกมาอยู่นอกรถ ชื่อนางมณฑา ภูมี อายุ 48 ปี เป็นภรรยาของนายสุวิทย์

...

คู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 70-5629 สุราษฎร์ธานี ตัวพ่วงทะเบียน 70-6645 สุราษฎร์ธานี ของ หจก.บุญมา ขนส่งบรรทุกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเต็มคันรถ พลิกตะแคงขวางถนนทั้ง 4 เลน เหลือเพียงไหล่ทางที่รถยนต์พอจะผ่านได้ คนขับชื่อนายอุดม จินดาพล อายุ 32 ปี ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก รอมอบตัวในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เครื่องตัดถ่างงัดร่างนายสุวิทย์กับลูกสาวนานร่วมครึ่งชั่วโมงจึงสามารถนำออกจากซากรถได้นำส่ง รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ส่วนนายอุดมถูกส่งไป รพ.มหาชัย แม่กลอง

น.ส.วาสินี ภูมี คนเจ็บ ให้การว่า พ่อกับแม่มีอาชีพค้าขาย ก่อนเกิดเหตุพ่อขับรถพาตนกับแม่ออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นเพื่อไปร่วมงานแต่งงานญาติที่ จ.สงขลา แต่เนื่องจากถนนเส้นดังกล่าวรถติดหนักทำให้แก๊สรถใกล้หมดถัง พ่อเปลี่ยนเลนจากเลนสองเข้าเลนซ้ายสุดเพื่อออกคู่ขนานหาปั๊มเติมแก๊สรถยนต์ ถูกรถบรรทุกพ่วงคู่กรณีชนท้ายอย่างจัง

ส่วนนายอุดม โชเฟอร์รถบรรทุกพ่วง ให้การว่า ขับรถบรรทุกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกจากโรงงานที่ จ.ชลบุรี เพื่อไปส่งลูกค้าที่ จ.สงขลา ก่อนถึงจุดเกิดเหตุราว 20 เมตร รถเก๋งคู่กรณีขับนำหน้าอยู่เลนสอง ส่วนตนอยู่เลนซ้ายสุด จู่ๆ รถเก๋งปาดเข้ามาเลนของตนกะทันหัน ทำให้เบรกไม่ทันพุ่งชนท้ายดันไปอัดกับแท่งปูนแบริเออร์กับจุดกลับรถจนรถเก๋งพังยับทั้งคัน ส่วนรถของตนเสียหลักพลิกตะแคงขวางถนน ซึ่งตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อหาใครเพราะต้องรอสอบปากคำคู่กรณี รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุก่อนสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า เหตุที่เกิดทำให้ถนนฝั่งขาล่องที่มีรถยนต์ใช้เส้นทางจำนวนมาก ต้องบีบเลนวิ่งทางไหล่ทาง ส่งผลให้รถติดขัดอย่างหนักเป็นระยะทางนับ 10 กิโลเมตร ตำรวจต้องปัดให้รถช่องทางด่วนไปใช้เส้นทางคู่ขนานล่องใต้ทั้งสองเลนเพื่อเร่งระบายรถ พร้อมประสานรถยกขนาด ใหญ่ยกรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ และซากรถเก๋งออกจากผิวการจราจร ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง จึงสามารถเปิดใช้เส้นทางได้ตามปกติ

อีกรายเวลา 04.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ร.ต.อ.ศราวุธ เสริมกลิ่น รอง สว. (สอบสวน) สภ.สาขลา จ.สมุทรปราการ สอบสวนเหตุรถ จยย.เสียหลักพุ่งชนศาลาพักผู้โดยสารริมถนนสุขสวัสดิ์-สาขลา หมู่ 1 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ พบศาลาพักผู้โดยสารถูกชนเสาหัก หลังคาเอียง มีศพนายคมกริช หรือแดฟ อิ่มทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 284 หมู่ 3 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เจ้าของบริษัทคมกริชเคเบิลทีวี ศีรษะแตก มีแผลฉีกขาดที่ใบหน้าและลำตัว นอนคว่ำบนไหล่ทาง มีรถ จยย.ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว ทะเบียน สตท 784 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย ล้มอยู่ใกล้กัน

สอบสวนนายสุริน บุญแช่ม อายุ 64 ปี อาชีพขี่รถ จยย.รับจ้าง ทราบว่า ช่วงเวลา 04.00 น. ตนขี่รถออกจากบ้านไปตลาดสามแยกพระสมุทรเจดีย์ เพื่อไปทำงานวิ่งผ่านศาลาพักผู้โดยสาร เห็นรถ จยย. ล้ม รีบจอดรถลงไปดูพบผู้เสียชีวิตรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ