กรมอุทยานแห่งชาติฯแจงเสือโคร่งวัดป่าหลวงตาบัวฯเมืองกาญจน์ที่ยึดมาเป็นของกลาง ตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 147 ตัว ตายแล้ว 86 ตัวส่วนใหญ่เป็นเสือไซบีเรีย พบสาเหตุป่วยตายด้วยโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียง ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯ ยันดูแลอย่างดีตามหลักวิชาการ พร้อมขอให้มหาวิทยาลัยมหิดลตรวจพิสูจน์ให้ชัดเจนอีกครั้ง ระบุเสือทยอยตาย ไม่ได้ตายรวดเดียวเสือโคร่งของกลางที่ยึดมาจากวัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน จ.กาญจนบุรี กว่าร้อยตัวที่เคยเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกเมื่อหลายปีก่อน ตายไปแล้วกว่าครึ่ง ในครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ว่าเสือโคร่งของกลาง จำนวน 147 ตัว ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยึดมาจากวัดป่าหลวงตาบัวฯ จ.กาญจนบุรี แล้วส่งไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี นั้น ป่วยตายด้วยโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียงไปแล้วจำนวน 86 ตัว โดยเจ้าหน้าที่พบอาการของโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียงในเสือโคร่งของกลาง มาตั้งแต่แรกรับมาดูแลที่เขาประทับช้าง ในช่วงเดือน มิ.ย.2559 ซึ่งแม้จะมีการจัดการสุขภาพเสือและดูแลสุขอนามัยมาเรื่อยๆ แต่พบว่ากลุ่มเสือโคร่งที่ตายส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ไซบีเรีย ที่เกิดจากการเพาะพันธุ์ในครอบครัวเดียวกันจนเลือดชิดที่ไม่มีภูมิคุ้มกันตัวเองที่ดีพอ โดยโรคอัมพาตลิ้นกล่องเสียงถือเป็นโรคที่มักพบในกลุ่มเสือและกลุ่มแมวผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เสือของกลาง เริ่มทยอยตายตัวแรกตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.2559 และทยอยตายเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โดยเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาประทับช้าง และเขาสน จ.ราชบุรี ได้รายงานเรื่องนี้ให้นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯรับทราบข้อมูลแล้ว ส่วนซากเสือของกลางได้จัดการซาก บางส่วนมีการแช่ฟอร์มาลีน และฝังตามหลักวิชาการเมื่อสอบถามไปยังนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯก็ได้รับคำตอบถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้ได้ให้มหาวิทยาลัยมหิดล มาตรวจพิสูจน์ คาดว่าจะได้ผลสัปดาห์หน้า ยืนยันว่ากรมอุทยานฯ ดูแลเสือเป็นอย่างดีตามหลักวิชาการ ซึ่งการติดเชื้ออาจจะเกิดขึ้นมาได้ เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด โดยเสือ 86 ตัวทยอยตาย ไม่ได้ตายรวดเดียวสำหรับเสือโคร่งของกลางจากวัดป่าหลวงตาบัวฯ ถูกตรวจสอบ และยึดเป็นของกลาง โดยกรมป่าไม้ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2544 เนื่องจากวัดครอบครองเสือโคร่ง สัตว์ป่าคุ้มครองภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยไม่ได้รับอนุญาต แต่กรมป่าไม้มอบหมายให้สัตวแพทย์สมชัย วิเศษมงคลชัย เป็นผู้ดูแลเสือของกลางและฝากไว้เลี้ยงไว้ที่วัดนี้ โดยจากเดิมที่มีพ่อแม่เสือของกลางเพียง 7 ตัว แต่ช่วง 15 ปีจำนวนเสือโคร่งเพิ่มขึ้นเป็น 148 ตัว ท่ามกลางการร้องเรียนจากต่างชาติ เรื่องการทรมานเสือด้วยการล่ามโซ่ การเลี้ยงดูเสือที่ไม่ดีตลอดจนความปลอดภัย และยังถูกระบุเป็นแหล่งลักลอบค้าเสือ จนรัฐบาลไทยถูกตั้งคำถามจากประเทศภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ต่อมาในเดือน พ.ค.-มิ.ย.2559 กรมอุทยานฯใช้กฎหมายบังคับย้ายเสือโคร่งมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เขาประทับช้าง จำนวน 85 ตัว แต่ตายไปแล้ว 54 ตัว ส่วนเสือโคร่งอีก 62 ตัว ส่งไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี ตายไปแล้ว 32 ตัวด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า ได้รับ รายงานเรื่องนี้แล้ว กำลังให้ทีมวิชาการของมหาวิทยาลัยมหิดลสรุปข้อมูลส่งกลับมาให้ คาดว่าภายใน 1-2 วัน จะทราบผล เบื้องต้นคาดว่า น่าจะเป็นโรคติดเชื้อ ซึ่งเป็นโรคติดต่อ ที่เป็นมาตั้งแต่เอาออกมาจากวัด ทั้งนี้ เสือเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างจะอ่อนไหวต่อโรคติดต่อที่เกิดขึ้น จึงทำให้ค่อยทยอยตาย อย่างไร ก็ตาม ต้องรอฟังผลสรุปละเอียดจากทีมนักวิชาการของมหิดลก่อน