ตามที่จะมีการประชุมสภา กทม. สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 3 ประจำปี 2566 ในวันที่ 5 ก.ค.นี้ แต่กลับไม่มีญัตติโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเพื่อแก้ไขปัญหาภาระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ซึ่ง กทม.จะต้องชำระหนี้ค่าจ้างติดตั้งระบบ อาณัติสัญญาณ (E&M) ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ 20,000 ล้านบาท เข้าสู่การพิจารณานั้น เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงว่า เนื่องจากต้องรอข้อสรุปจากคณะกรรมการวิสามัญศึกษาระบบขนส่งมวลชนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่มีนายนภาพล จีระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย เป็นประธานคณะกรรมการวิสามัญฯ ทราบว่าอยู่ ระหว่างเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ประกอบด้วย สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) และบีทีเอสซี ให้ข้อมูลรายละเอียดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการทั้งหมด เพื่อหาข้อยุติและแนวทางที่เหมาะสมที่สุด ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะหากเร่งรีบเสนอเข้าที่ประชุมสภา กทม. ก็จะถกเถียงไม่ได้ข้อสรุปและยื้อเวลาออกไปอีก หากได้ข้อสรุปจากคณะกรรมาธิการวิสามัญฯแล้วจึงนำเข้าสู่วาระการประชุมของสภากทม. เพื่อขอความเห็นชอบในการอนุมัติงบประมาณซึ่งเป็นเงินสะสมจ่ายขาดต่อไป

นายวิศณุกล่าวว่า ขณะเดียวกัน กทม.ได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงมหาดไทย (มท.) เพื่อขอให้รัฐบาลอุดหนุนค่าโครงสร้างพื้นฐาน E&M ส่วนต่อขยาย 2 และให้ต่อสัญญาสัมปทานด้วยวิธีเปิดให้มีการประมูลตาม พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2562 ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อตอบกลับมาจากกระทรวงมหาดไทย คาดว่าต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาพิจารณาแก้ไขปัญหาดังกล่าว.