ตำรวจไซเบอร์บุกรวบหนุ่มแอดมินกลุ่มไลน์ลับ Dek D คาบ้านในตัวเมืองประจวบฯ หลังขายคลิปโป๊เปลือยของเด็กชาย อายุต่ำกว่า 18 ปี ให้กลุ่มลูกค้าขาหื่น ผงะในมือถือผู้ต้องหา เจอคลิปอนาจารเด็กกว่า 1 พันคลิป เจ้าตัวยอมรับทำมานานกว่า 2 ปี ให้ลูกค้าโอนเงินซื้อคลิป 50-350 บาทต่อครั้ง อ้างหาเงินใช้จ่ายและเติมเกมออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์รวบแอดมินกลุ่มลับ Dek D ขายคลิปโป๊เปลือยเด็ก ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 สั่งการให้ พ.ต.อ.สุวัฒชัย ศรีทองสุข ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.2 พ.ต.ท.ประวิทย์ วงษ์เกษม รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก. สอท.2 พ.ต.ท.อโนทัย ดียิ่ง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.2 นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าค้นบ้านเลขที่ 408/6 หมู่ 9 ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 กล่าวว่า สืบเนื่องจากตำรวจ บก.สอท.2 ได้สืบสวนพบว่ามีกลุ่มไลน์ลับ ชื่อกลุ่ม “Dek D” มีนายธนิต ชนะพันธ์ อายุ 24 ปี เป็นแอดมินกลุ่ม มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายคลิปวิดีโออนาจารเด็ก พร้อมโฆษณาขายสื่อลามกเด็ก เมื่อมีลูกค้าสนใจจะแอดไลน์ทักให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ ครั้งละ 50-350 บาทต่อครั้ง คลิปดังกล่าวเป็นคลิปเด็กชายอายุต่ำกว่า 18 ปี ลักษณะเป็นคลิปอนาจารและการร่วมเพศ ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนนำหมายศาลเข้าตรวจค้น

ระหว่างตรวจค้นพบนายธนิตอยู่ที่บ้าน ได้ตรวจยึดเอกสารหลักฐาน พร้อมของกลาง เช่น คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือไว้ตรวจสอบ พบคลิปอนาจารเด็กในมือถือที่แยกเก็บไว้จำนวนกว่า 1,000 คลิป นายธนิตให้การรับสารภาพว่า ครอบครองและเผยแพร่คลิปลักษณะนี้มาได้ประมาณ 2 ปี คลิปอนาจารเด็กดังกล่าวได้มาจากแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ที่สามารถโหลดได้ฟรีและจ่ายเงิน จากนั้นนำมาโพสต์ขายต่อ นำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายและเติมเกมออนไลน์ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง และรายได้น้อย

...

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา “ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก และเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเด็ก” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.สอท.2 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับความผิดดังกล่าวตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดดังกล่าวส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ