สร้างความเสียหายหนัก 2 หน่วยงานสำคัญหลักในขบวนการยุติธรรม “ตำรวจ บก.สปพ. 191” และ “กรมสอบสวนคดีพิเศษ” กับพฤติกรรมฉาวกับเจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านพัก นายโอนาซิส ซานริค ดาเม่ อดีตกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย แต่ภายในบ้านมีแก๊งชาวจีนรับปลอมหนังสือเดินทาง

หลังเข้าค้นนำตัว น.ส.เซี่ยง หยาง ชาวจีน พร้อมของกลางเงินสด2.5 ล้านบาท ตรวจยึดส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดี ต่อมาชุดจับกุมถูกร้องเรียนยักยอกเงินของกลางและรีดเงินชาวจีนที่มีหมายแดง

แลกกับปล่อยผู้ต้องหา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สืบสวนพบว่ามูลเหตุของเรื่องเริ่มจากสถานกงสุลนาอูรูประจำประเทศไทย ขอให้ กรม สอบสวนคดีพิเศษ ตรวจสอบบ้านเช่าของอดีตกงสุลนาอูรู ประจำประเทศไทย อยู่ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ

พบมีชาวจีนเข้าออกบ้านปลอมป้ายทะเบียนรถเดียวกับอดีตกงสุลและมีตรากงสุล

แทนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษขอหมายเข้าค้นเอง กลับประสาน รอง ผบช.น. ที่รู้จักกันขอให้ตำรวจ 191 ขอหมายค้นชุดตรวจค้น ก่อนเป็นเรื่องยักยอกเงิน และเรียกรับเงินแลกกับปล่อยแก๊งชาวจีนหลบหนี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้พยานสำคัญล่ามชาวจีนที่ถูกรวบตัวได้ขณะหนีนอกประเทศ รับสารภาพว่าตำรวจ 191 และกรมสอบสวนคดีพิเศษเรียกรับผลประโยชน์จริงแลกกับปล่อยตัว นายเหมา เติ้ง เผิง ผู้ต้องหาที่มีหมายแดงของตำรวจสากล และแก๊งชาวจีนปลอมแปลงหนังสือเดินทาง

เงินสดของกลางอยู่ในบ้าน 8 ล้านบาท แต่ชุดจับกุมทำบันทึกตรวจยึดของกลางเงินสด 2.5 ล้านบาท ส่งตัว น.ส.เซี่ยง หยาง ผู้ดูแลบ้านให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา “ไม่พกพาหนังสือเดินทาง”

...

เงินของกลางอยู่ในบ้านถูกยักยอกไป 5.5 ล้านบาท และมีการเรียกรับเงิน 4 ล้าน แลกกับปล่อยผู้ต้องหาชาวจีนที่มีหมายจับของประเทศจีนตามคำให้การของล่ามชาวจีนที่อยู่ในที่เกิดเหตุและเป็นคนรับเงิน 4 ล้านบาท

ภาพกล้องมือถือหลักฐานมัด

พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ขออนุมัติออกหมายจับ16ราย กรมสอบสวนคดีพิเศษ 5 นาย มีระดับ ผอ. 1 นาย ตำรวจ บก.สปพ.9นาย ทหารยศ ส.อ. 1 นาย และล่ามแปลชาวจีนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ

ภาพ กล้องมือถือ และ กล้องวงจรปิด บ้านที่เกิดเหตุที่ไม่ทันทำลาย ลำดับเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุแสดงให้เห็นพฤติกรรมน่าสงสัยเจ้าหน้าที่2หน่วยที่อยู่ในบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนทางคดีผู้ใดที่มีส่วนยักยอกเงินของกลาง และเรียกเงินแลกกับปล่อยแก๊งชาวจีน เป็นข้อมูลสืบสวนที่อยู่ในมือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่นานก็รู้ความจริง

มีใครบ้างที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th