สืบภาค 2 บุกรวบ “โจรกางเกงใน” หลังล่าสุดบุกยกเค้าร้าน BANANA สาขานครนายก กวาดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทหลบหนี หอบทรัพย์สินเข้ากรุงเปิดห้องคอนโดฯและโรงแรมไว้กบดาน 2 แห่ง ตรวจค้นพบของกลางถึง 149 รายการ สารภาพจองเวรร้านขายคอมพิวเตอร์ชื่อดังมาตลอด หาเป้าหมายจากกูเกิลแม็ป ก่อเหตุตั้งแต่อีสานจดภาคใต้ จ.นราธิวาส บ้านเกิด มีหมายจับติดตัวอยู่แล้ว 4 หมาย แต่ไม่เคยถูกจับ เร่งขยายผลร้านขายโทรศัพท์รับของโจร

กรณีคนร้ายบุกลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” (บานาน่า) สาขานครนายก อ.เมืองนครนายก ได้ทรัพย์สิน 128 รายการ ค่าเสียหายรวม 1,914,895 บาท คนร้ายเลือกลักโทรศัพท์มือถือบางยี่ห้อ เหลือทิ้งไว้เฉพาะเครื่องที่ล็อกซิมการ์ดได้ แสดงถึงความเชี่ยวชาญเรื่องโทรศัพท์ หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 ฐานะหน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT5) นำชุดสืบสวน บก.สส.ภ.2 ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายใส่เพียงกางเกงในตัวเดียว ก่อนลงมือจะตัดสายกล้องวงจรปิดและถอดเซิร์ฟเวอร์ไปด้วย เหตุเกิดเวลา 03.00 น. วันที่ 3 ก.ค.

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 5 ก.ค. หลัง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำกำลังสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบว่าคนร้ายคือ นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี ชาว จ.นราธิวาส นักวิเคราะห์แผนประทุษกรรม ศปอส.ตร. (PCT) ชุด 5 วิเคราะห์แผนประทุษกรรมคนร้ายเหมือนกับแผนประทุษกรรมอีกหลายแห่ง เช่น ร้าน BANANA สาขาจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 27 ม.ค.64 และที่ร้าน BANANA สาขาสายไหม 109 ซอยสายไหม 9 กทม. เมื่อวันที่ 9 ม.ค.65 ทั้ง 3 คดีคนร้ายใส่กางเกงในตัวเดียวเช่นกัน ตรวจสอบประวัติการต้องโทษพบว่า ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ไปทั่วกว่า 9 คดีใน 9 พื้นที่ ทั้ง สภ.เมืองยะลา สภ.หาดใหญ่ สภ.เมืองพัทลุง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สภ.เมืองหนองบัวลำภู สภ.เมืองอุบลราชธานี สภ.หัวหิน และ สน.สายไหม จนได้รับฉายาว่า “โจรกางเกงในตัวเดียว”

...

ต่อมาชุดสืบสวน บก.สส.ภ.2 และตำรวจ PCT ชุด 5 สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่ห้องเลขที่ 46/185 ชั้น 7 อาคาร 624 คอนโดเลต ลาดพร้าว ถนนเสรีไทย แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. นำหมายจับเข้าควบคุมตัวนายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ หรือคาร์มัส อายุ 23 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 25 ถนนทรายทอง ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือจำนวนหนึ่ง นำตัวไปขยายผลตรวจค้นห้องเลขที่ 704 โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยรามคำแหง 40 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. พบโทรศัพท์มือถืออีกจำนวนมาก กล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นฯ หรือรับของโจร และสอบสวนขยายผลเรื่อยมาตั้งแต่คืนวันที่ 4 ก.ค.

สอบสวนนายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ รับสารภาพว่า ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ “BANANA” สาขานครนายกจริง แล้วหลบหนีมาอยู่ที่อาคาร 624 คอนโดเลต ย่านลาดพร้าว และเปิดห้องโรงแรมย่านรามคำแหงไว้ซุกซ่อนโทรศัพท์ที่ขโมยมา เตรียมขนของกลางที่ขโมยมาหลายร้อยเครื่องกลับ จ.นราธิวาส แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน นอกจากนี้ นายเจ๊ะอิสมะแอยังใช้บัตรประชาชนเพื่อนเปิดห้องโรงแรมเพื่อหลบเลี่ยงการติดตามจับกุมของตำรวจ การตรวจค้นทั้ง 2 จุดตรวจ
ยึดของกลางรวม 149 รายการ เป็นโทรศัพท์มือถือ ที่ขโมยมา 89 เครื่อง

“ที่จ้องขโมยแต่ร้าน BANANA เพราะชอบกล้วยและชอบสีเหลืองจึงขโมยแต่ร้านนี้ ที่ชอบถอดเสื้อผ้าเหลือกางเกงในตัวเดียวเพราะทำให้เกิดความรู้สึกมั่นใจเป็นตัวของตัวเอง ที่ขโมยกล้องวงจรปิดไปด้วยเพราะเมื่อปี 2564 ถูกตีข่าวที่จังหวัดยะลาว่า เป็นโจรกางเกงในโรคจิต รู้สึกไม่ชอบ จึงขโมยกล้องไปด้วยทุกครั้ง หลังจากคดีนั้น หาเป้าหมายจากกูเกิลแม็ปหาร้าน BANANA สุ่มไปเรื่อย ก่อนก่อเหตุ 3-6 ชม.จะไปสำรวจเส้นทางรอบๆเป้าหมายและลงมือหลังเที่ยงคืน มุ่งขโมยแต่โทรศัพท์เพราะฝังใจตอนเด็กๆที่เพื่อนมีโทรศัพท์แต่ตนไม่มี เริ่มขโมยเล็กน้อยจนเยอะขึ้นเรื่อยๆจนแทบกวาดหมดร้าน” นายเจ๊ะอิสมะแอ ฮามะ กล่าว

นอกจากนี้ยังเป็นบุคคลตามหมายจับอีก 4 หมาย ประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดศาลจังหวัดยะลาที่ จ.54/2564 ลงวันที่ 4 ก.พ.64 หมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.48/2565 ลงวันที่ 20 ม.ค.65 หมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางจังหวัดสงขลาที่ 8/2564 ลงวันที่ 27 พ.ค.64 และหมายจับศาลจังหวัดพัทลุงที่ 129/2564 ลงวันที่ 23 เม.ย.64 ทุกหมายจับข้อหาเดียวกันคือลักทรัพย์ในเวลากลางคืนฯ เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก ดำเนินคดี

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า เป็นผลงานของชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบภาค 2 และตำรวจ PCT ชุด 5 ตามแนวคิดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมรูปแบบต่างๆที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม ตรวจพบว่าคนร้ายคดีนี้มีลายเซ็นอาชญากร มีรูปแบบที่แปลกกว่าคดีอื่นเป็นอย่างมาก จะขยายผลการจับกุมให้ถึงที่สุด รวมไปถึงกลุ่มผู้รับซื้อของโจรด้วย จะตามทลายให้หมด