ชุดสืบสวนนครบาลเร่งคลี่ปมสงสัย การพบชิ้นส่วนของสาวร้านอาหารญี่ปุ่น ตรวจวงจรปิดที่เกิดเหตุซ้ำ พบอีกมุมขณะ “แป้ง” เดินดูโทรศัพท์ขึ้นสะพานพระราม 8 โดยยังไม่ได้สวมแมสก์ เห็นหน้าชัดเจน ส่วนกรณีชายเร่ร่อนฉกกระเป๋าผู้ตายไปจากที่เกิดเหตุ ตำรวจตามโทรศัพท์มือถือพบแล้ว อยู่กับสามีภรรยาคู่หนึ่ง สามีรับซื้อจากชายคนหนึ่งบริเวณถนนราชดำเนินราคา 500 บาทเอามาให้เมียใช้ อาจซวยเพราะตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาดำเนินคดี ส่วนผลชันสูตรศพจาก รพ.ศิริราช เบื้องต้น พบบาดแผลผู้เสียชีวิตลักษณะไม่เรียบ เชื่อไม่ได้ถูกมีดเฉือนแยกส่วน น่าจะเป็นใบพัดเรือ หรือเครื่องกำจัดขยะบริเวณประตูระบายน้ำ
กรณีพบศพ น.ส.มณีรัตน์ หรือแป้ง กระจกภาพ อายุ 28 ปี พนักงานร้านอาหารญี่ปุ่นบางกอก ไทก้า หมู่บ้านสัมมากร 1 เป็นชิ้นส่วนกระจัดกระจายในแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองบางกอกใหญ่ สภาพสยดสยองศีรษะไปทาง ลำตัวและขาทั้ง 2 ข้างลอยไปคนละทางถึง 4 จุดท้องที่ สน.บางกอกน้อย สน.ตลิ่งชัน และ สน.บุปผาราม เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะถูกฆาตกรรม แต่ต่อมาชุดสืบสวนพบหลักฐานสำคัญภาพวงจรปิดบนสะพานพระราม 8 เห็นผู้เสียชีวิตกระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงเที่ยงวันที่ 7 ก.พ.ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 ก.พ. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.เผยว่า พนักงานสอบสอนสอบปากคำพยานไปแล้ว 5 ปาก รอผลการชันสูตรประเด็นการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เนื่องจากอวัยวะบางส่วนของผู้เสียชีวิตหายไปโดยเฉพาะปอด มีผลต่อการชันสูตรว่า เป็นการเสียชีวิตด้วยการจมน้ำหรือสาเหตุอื่น แต่แพทย์ระบุว่า ยังสามารถตรวจสอบจากไขกระดูกหรืออวัยวะอื่นได้ แต่ต้องใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์ ส่วนการติดตามกระเป๋าผู้เสียชีวิตที่วางไว้บนสะพานพระราม 8 ที่หายไป เบื้องต้นทราบว่า คนเร่ร่อนหยิบไป ตำรวจพอทราบตัวแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวนำกระเป๋าและทรัพย์สินคืนมา
...
มีรายงานด้วยว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.สั่งการ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น.นำชุดสืบสวนคลี่คลายคดี น.ส.มณีรัตน์ จนพบว่าฆ่าตัวตาย แต่ยังเหลือประเด็นการตามหากระเป๋าสะพายสีดำของผู้ตายที่วางไว้บนสะพาน ล่าสุดชุดสืบสวนคุมตัวสามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นชาวบ้านย่านนางเลิ้งมาสอบปากคำ หลังนำโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงของผู้ตายไปใช้ สามีให้ข้อมูลว่า ขณะไปทำธุระย่านถนนราชดำเนินรับซื้อโทรศัพท์มือถือดังกล่าวราคา 500 บาท จากผู้ชายไม่ทราบชื่อนามสกุล รูปพรรณสัณฐานตรงกับหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดบนสะพานพระราม 8 ขณะหยิบกระเป๋า น.ส.มณีรัตน์ ไป ก่อนนำโทรศัพท์มาให้ภรรยาใช้โดยไม่ทราบว่าเป็นโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิต ชุดสืบสวนตรวจยึดโทรศัพท์ไว้ ก่อนบันทึกคำให้การของทั้งคู่และตามหาตัวชายคนขายมาดำเนินคดี
ส่วนประเด็นโลกโซเชียลมีเดียตั้งข้อสงสัยหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด บันทึกภาพ น.ส.มณีรัตน์ กระโดดสะพานพระราม 8 ว่า รูปพรรณสัณฐานไม่เหมือนผู้เสียชีวิต ชุดคลี่คลายคดียืนยันว่า หลักฐานที่หามาได้โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดมีครบทุกมิติ พ่อแม่และคนใกล้ชิดผู้ตายตรวจสอบแล้วยืนยันบุคคลจากภาพได้ จุดสำคัญคือ ภาพจากกล้องตัวที่อยู่ฝั่งสวนสาธารณะใต้สะพาน จับภาพผู้ตายเดินขึ้นไปบนสะพานขณะถอดหน้ากากอนามัย กำลังเล่นโทรศัพท์ไปด้วย ทำให้เห็นหน้าผู้ตายชัดเจน หลังจากนี้จะรอผลชันสูตรบาดแผลที่พบตามชิ้นส่วนอวัยวะจากแพทย์ว่า ถูกของมีคมชนิดใดตัดขาด เพื่อตอบข้อสงสัยของญาติและสังคมที่กำลังตั้งข้อสงสัย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ผู้ชันสูตรชิ้นส่วน น.ส.มณีรัตน์ กระจกภาพ ผลการชันสูตรแพทย์ลงความเห็นว่า ชิ้นส่วนที่แยกออกจากกันไม่ได้ถูกของมีคม เช่น มีดอย่างแน่นอน อาจเป็นใบพัดเรือ หรือเครื่องทำลายขยะที่ประตูกั้นน้ำ เนื่องจากบาดแผลไม่เรียบ ขณะนี้ต้องเอาชิ้นส่วนไปต้มและตรวจหาดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบให้แน่ชัดว่าเป็นของคนคนเดียวกัน ก่อนให้ญาติมาติดต่อรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.ฐานะโฆษก บช.น.เผยว่า จากกระแสสังคมตั้งข้อสงสัยว่า บุคคลที่กระโดดสะพานพระราม 8 อาจไม่ใช่ น.ส.มณีรัตน์ ทั้งลักษณะตอนกระโดดที่ดูรูปร่างใหญ่และผมไม่กระจายตัวขณะกระโดดลงน้ำ รวมถึงมารดายังมองภาพไม่ชัดว่าบุคคลดังกล่าวคือลูกสาวจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้ง กระทั่งพบภาพขณะผู้ตายกำลังเดินขึ้นมาบนสะพานพระราม 8 สวมเสื้อคลุมมีฮูดคลุมศีรษะ แต่ยังไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยเดินใช้โทรศัพท์มือถืออยู่บนสะพานเห็นหน้าชัดเจน
โฆษก บช.น.กล่าวด้วยว่า ส่วนข้อสงสัยเรื่องการกระโดดน้ำ เห็นรูปร่างใหญ่กว่าตัวจริง และผมยาวไม่กระจายขณะกระโดด จากภาพแสดงให้เห็นว่า ผู้ตายสวมฮูดและใส่เสื้อคลุม การกระโดดลงไปจะทำให้เกิดลมสวนขึ้นมาในเสื้อคลุมเป็นไปตามธรรมชาติ อีกทั้งการสวมฮูดคลุมศีรษะทำให้ผมไม่กระจายขณะตกลงน้ำ นอกจากนี้ตำรวจยังพบโทรศัพท์มือถือผู้ตายแล้วอยู่ที่หญิงสาวคนหนึ่ง ตำรวจอาจพิจารณาแจ้งข้อหาลักทรัพย์ด้วย ส่วนผู้นำมาขายอยู่ระหว่างตรวจสอบ ส่วนญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว หลังจากนี้จะนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ต่อมาเวลา 18.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สราวุธ คนใหญ่ รอง ผบก.สส.บช.น. สั่งการ พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.จับกุมนายปิยะพงษ์ หรือโก๊ะ พวงเพ็ชร อายุ 40 ปี พร้อมของกลางกระเป๋าสะพายสีกรมท่า 1 ใบ บริเวณตรอกสาเก แขวงบวรนิเวศ สอบสวนนายปิยะพงษ์ ยอมรับว่า วันที่ 7 ก.พ.เวลาประมาณ 12.50 น. ขณะเดินข้ามสะพานพระราม 8 จากฝั่งธนบุรีไปฝั่งพระนคร เห็นกระเป๋าสะพายผู้หญิงตกอยู่ที่พื้นจึงเก็บมา ภายในมีเงินสด 200 บาท เอกสารส่วนตัว และโทรศัพท์มือถือซัมซุง 1 เครื่อง นำกระเป๋าขึ้นรถแท็กซี่จากใต้สะพานพระราม 8 ไปยังตลาดเสือป่า นำโทรศัพท์มือถือไปให้ร้านปลดล็อกหน้าจอ ระหว่างรอเดินไปเข้าห้องน้ำ นำบัตรประชาชน น.ส.มณีรัตน์ หรือแป้ง กระจกภาพ อายุ 28 ปี ผู้ตายไปทิ้งในห้องน้ำ หลังปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์นำไปขายให้สามีภรรยาในชุมชนริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี ราคา 500 บาท เงินที่ได้นำไปใช้จ่ายส่วนตัวหมดแล้ว เบื้องต้นชุดจับกุมคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บวรมงคล แจ้งข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ส่วนสามีภรรยาที่รับซื้อโทรศัพท์ของกลางอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะ แจ้งข้อหาด้วยหรือไม่
...