อุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4 วัน ยอดตายพุ่ง 152 ศพ บาดเจ็บรวม 1,494 คน สาเหตุหลักเมาแล้วขับขี่ ส่วนเหตุรถทัวร์ไหม้ย่างสด 5 ศพ ญาติได้รับเงินเยียวยารายละ 1.1 ล้านบาท แต่ต้องรอผลตรวจอัตลักษณ์บุคคลก่อนรับศพ ขณะที่ตำรวจเร่งตรวจสอบหาสาเหตุอุบัติเหตุสยอง
ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 4 วัน ยอดตายพุ่ง 152 ศพ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ศปถ.) กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2564 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย. เกิดอุบัติเหตุ 376 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 29 ราย ผู้บาดเจ็บ 392 คน สรุปช่วง 4 วันของการรณรงค์ (10-13 เม.ย.) เกิดอุบัติเหตุ 1,465 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 152 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,494 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 20 จังหวัด สาเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถ จยย. มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 70,130 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,950 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 17,530 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือนครศรีธรรมราช 16 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กทม. กาฬสินธุ์ จังหวัดละ 3 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 17 คน
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เลขานุการ ศปถ. กล่าวว่า ประสานจังหวัดคุมเข้มด่านตรวจในพื้นที่ กวดขันพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็ว และการขับขี่ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย พร้อมควบคุมการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ 2564 เป็นไปด้วยความปลอดภัย
...
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวเนื่องในโอกาส “วันผู้สูงอายุแห่งชาติ” และ “วันแห่งครอบครัว” ประจำปี 2564 ว่า ขอส่งความปรารถนาดีมายังผู้สูงอายุ และครอบครัวทุกคนที่มีบทบาทสำคัญ พัฒนาสถาบันครอบครัวให้มีความอบอุ่นเข้มแข็ง ผู้สูงอายุเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจที่เชื่อมโยง ความรัก และความผูกพันให้แก่คนในครอบครัว เป็นผู้บ่มเพาะภูมิปัญญาความรู้ในการดำเนินชีวิต เพื่อให้รู้บทบาทหน้าที่ตนเองที่มีต่อสังคม ถือเป็นภูมิคุ้มกันให้ครอบครัวมีความเข้มแข็ง และเป็นพื้นฐานสำคัญพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมคุณภาพ

ส่วนเหตุสยองไฟไหม้รถทัวร์ 2 ชั้นของบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ จำกัด สายอุดรธานี-กรุงเทพฯ ทะเบียน 10-7387 อุดรธานี บนถนนมิตรภาพ ที่บ้านหนองขาม ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น ย่างสดผู้โดยสารเสียชีวิต 5 ศพ และบาดเจ็บ 29 ราย พ.ต.อ.ถนอมศักดิ์ โสภา ผกก.สภ.บ้านแฮด กล่าวว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำคนขับรถทัวร์และแจ้งข้อหาเรียบร้อยแล้ว ยังไม่ให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน ส่งตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น ส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้นั้น มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบสภาพรถแล้ว แต่ยังไม่สรุปผล เนื่องจากการตรวจที่ถูกต้องตามขั้นตอนต้องให้ผู้เชี่ยวชาญจากกรมการขนส่งทางบกมาตรวจสอบและสรุปผลเท่านั้น
ด้าน พ.ต.ท.ชูเกียรติ ไชยวิเศษ สว. (สอบสวน) สภ.บ้านแฮด เจ้าของคดี กล่าวว่า สำหรับรายชื่อ ผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ศพ ตรวจสอบจากบริษัท 407 พัฒนาทัวร์ จำกัด ประกอบด้วย น.ส.สุกัลยา เกษหอม อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 14 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี นายสหรัฐ อ้อมแก้ว อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 158/2 หมู่ 4 ต.ม่วงไข่ อ.พังโคน จ.สกลนคร น.ส.ปรางค์ทอง กาล้อม อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 5 ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ด.ญ.ปวรรัตน์ กาล้อม อายุ 6 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 64 หมู่ 6 ต.ชีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา และ น.ส.หนึ่งฤดี ปิ่นแคน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68 หมู่ 4 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ สภาพศพร่างไหม้เกรียมต้องตรวจดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบอัตลักษณ์บุคคลที่ตรงกันกับญาติถึงจะรับศพออกไปได้ ส่วนรถ จยย.ที่พบในห้องเก็บสัมภาระในรถทัวร์นั้น จะทำหนังสือไปถึงกรมการขนส่งทางบกว่า ขนส่งสินค้าได้หรือไม่
ขณะที่นายธนาดล บุญประมวล พ่อ ด.ญ.ปวรรัตน์ กาล้อม อายุ 6 ขวบ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมญาตินิมนต์พระ 1 รูป เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณของลูกสาวกลับบ้าน ปลดปล่อยดวงวิญญาณตามความเชื่อ บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า รถทัวร์ทำประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำหรับการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของผู้เสียชีวิต 5 ศพ อยู่ระหว่างการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ สั่งการให้ประสานบริษัทประกันภัยดังกล่าว เร่งจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตโดยทันที เบื้องต้นครอบครัวผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 1,100,000 บาท รวมเป็นเงิน 5,500,000 บาท สำหรับผู้บาดเจ็บ 29 ราย ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ใน รพ.สิรินธร จ.ขอนแก่น 5 ราย และ รพ.ศูนย์ขอนแก่น 5 ราย และอีก 19 ราย เดินทางกลับบ้านแล้ว ประสานกับบริษัทประกันภัยเข้าไปอำนวยความสะดวก และรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลกับ รพ.โดยตรง ผู้บาดเจ็บไม่ต้องสำรองจ่าย
...