ถั่งเช่าพ่นพิษไม่ใช่แค่ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” แต่ยังมีนักร้องลูกทุ่ง อาวุโสชื่อดังอีกรายลุ้นระทึก อย. ส่งหลักฐานให้ตำรวจ ปคบ.พิจารณาเข้าข่ายโฆษณาเกินจริง ต้องเรียกมาดำเนินคดีด้วยหรือไม่ เลขาธิการ อย.แฉมีดารา นักร้องคนดังถูกดำเนินคดีแล้ว 230 คน กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและกาแฟถูกร้องเรียนสูงสุด ยันก่อนโฆษณาออกสื่อทุกช่องทางต้องขออนุญาต อย.ก่อนทุกครั้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท
กรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดำเนินคดีผู้โฆษณาขายผลิตภัณฑ์ถั่งเช่ารายหนึ่ง ที่มีดารา นักร้องเป็นพรีเซนเตอร์ อวดอ้างสรรพคุณรักษาโรคทางสื่อต่างๆ ทำให้ประชาชน เสียโอกาสรักษาโรคอย่างถูกต้อง จากการตรวจสอบสื่อโฆษณาดังกล่าว พบโฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าผสมมัลติวิตามินบี และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดถั่งเช่าผสมยูซี-ทู ฝ่าฝืน พ.ร.บ.อาหาร 2522 สั่งระงับการโฆษณา พร้อมดำเนินมาตรการทางปกครอง กับบริษัทผู้ผลิตอาหาร ผู้โฆษณา รวมถึงพรีเซนเตอร์ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ล่าสุดตำรวจกองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เตรียมออกหมายเรียกนายประยงค์ บัวงาม หรือ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง และบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าจาก บก.ปคบ. เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 31 ม.ค. พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ. กล่าวถึงกรณีการเรียกตัวนายประยงค์ บัวงาม หรือ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง มารับทราบข้อกล่าวหาว่า คาดว่าน่าจะออกหมายเรียกนักร้องลูกทุ่งคนดังกล่าวได้ภายในสัปดาห์หน้า ขอสอบพยานอีกนิดหน่อยเท่านั้น จากนั้นสามารถออกหมายเรียกได้เลย ส่วนจะมีดารานักแสดงหรือนักร้องรายอื่นเข้าข่ายการกระทำผิดด้วยหรือไม่ เท่าที่ตรวจสอบจากหลักฐานที่ อย.ส่งมาให้พบว่า ไม่น่ามีดารากระทำผิดมากกว่านี้ ถ้าจะมีอาจเป็นนักร้องลูกทุ่งอาวุโสอีก 1 คน แต่ทั้งนี้ต้องนำหลักฐานมาพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบอีกครั้งว่า เข้าข่ายกระทำความผิดขนาดไหนด้วย แต่ที่แน่ๆขณะนี้เห็นเพียงนักร้องลูกทุ่งชื่อดังเพียงรายเดียว
...
ด้าน ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากสถิติการรับเรื่องร้องเรียนของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แต่ละปีพบว่า กว่าร้อยละ 60 ร้องเรียนโฆษณาผลิตภัณฑ์ยา อาหาร เครื่องมือแพทย์ และสมุนไพรโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือแสดงสรรพคุณโอ้อวดเกินจริง ผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้ต้องได้รับอนุญาตโฆษณาจาก อย.ก่อน จึงสามารถโฆษณาได้ ช่วง 6 ปีที่ผ่านมา พบว่า มีดารา นักร้อง พรีเซนเตอร์ ยูทูบเบอร์ รีวิวสินค้าและโฆษณาสรรพคุณผลิตภัณฑ์ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายและไม่ได้รับอนุญาตทางสื่อต่างๆ ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ สื่อโซเชียลมีเดียทุกประเภท ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม และยูทูบ ถูกดำเนินคดีกว่า 230 คน ผลิตภัณฑ์ที่พบการโฆษณาผิดกฎหมายมากที่สุดคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและกาแฟ
รองเลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า การโฆษณาอาหารด้วยข้อความ เสียง ภาพ ที่สื่อถึงคุณประโยชน์ คุณภาพ และสรรพคุณของอาหารทุกช่องทาง ไม่ว่าโทรทัศน์ วิทยุ สื่ออินเตอร์เน็ต แผ่นพับ ใบปลิว ป้าย พาหนะ ต้องได้รับอนุญาตจาก อย.ก่อนโฆษณาทุกกรณี รวมทั้งการไลฟ์สด โดยยื่นคำขอผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Submission) ใช้ระยะเวลาพิจารณาไม่เกิน 8 วันทำการ เจ้าของผลิตภัณฑ์และผู้เกี่ยวข้องกับการโฆษณาควรศึกษาหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโฆษณาอาหารจากประกาศ อย. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การโฆษณาอาหารอย่างถี่ถ้วน เพราะการฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย เฉพาะอย่างยิ่งห้ามโฆษณาอาหารลักษณะเป็นเท็จ เกินความจริง หรือสื่อให้เข้าใจว่า สามารถบำบัด บรรเทา รักษา หรือป้องกันโรค ความเจ็บป่วย หรืออาการของโรคได้ เพราะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“หากไม่แน่ใจสามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่ อย. หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ หรือผ่านระบบให้คำปรึกษาทางออนไลน์ (Consultation e-Services) สำหรับผู้บริโภคสามารถตรวจสอบว่า โฆษณาผลิตภัณฑ์อาหารนั้นได้รับอนุญาตจาก อย.หรือไม่ เบื้องต้นให้สังเกตข้อความ “ฆอ.../...” ที่ปรากฏอยู่ในชิ้นงานโฆษณา และสามารถนำเลข ฆอ.ไปตรวจสอบในฐานข้อมูลการขออนุญาตของ อย. http://mauris.fda.moph. go.th/AdvertriseSearch หากไม่มีเลข ฆอ. หรือชื่อผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาไม่ตรงกับฐานข้อมูล ให้เชื่อไว้ก่อนว่า เป็นโฆษณาที่ไม่ได้อนุญาตจาก อย. ไม่ควรเชื่อเนื้อหาโฆษณานั้น หากพบโฆษณาที่น่าสงสัย อวดอ้างสรรพคุณเกินจริงร้องเรียนได้ที่สายด่วน อย.1556” รองเลขาธิการ อย.กล่าว