อีกคดีสะเทือนขวัญที่อยู่ในความสนใจของคนไทย กระทบต่อกระบวนการยุติธรรม ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครกล้าทำคดี “อุ้มฆ่า” พี่ชายผู้พิพากษาเพื่อต่อรองทางคดี ตั้งแต่เดือน ก.พ.2563 พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. นำทีมกองปราบปรามร่วมกับชุดสืบสวนนครบาล พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. ขออนุมัติหมายจับและจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตนักการเมืองชื่อดังกับพวกรวม 6 คน
พร้อมหลักฐานดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” รวมกับฐานความผิดอื่นๆอีก 9 ข้อหา พ.ต.ท.บรรยินถูกฟ้องเพิ่มในข้อหา “สวมแต่งเครื่องแบบเพื่อให้คนอื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิและแต่งเครื่องแบบตำรวจโดยไม่มีสิทธิ” มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงว่า พ.ต.ท.บรรยินแต่งเครื่องแบบตำรวจมาอุ้ม นายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายของ น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาหญิงเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้น มี พ.ต.ท.บรรยินเป็นผู้ต้องหา ในชั้นสอบสวน พ.ต.ท.บรรยินให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา บอกไม่เกี่ยวข้อง

...
ชุดสืบสวนกองปราบปรามของ พล.ต.ต.จิรภพ ทำงานเป็นมืออาชีพ รวบรวมหลักฐานเป็นขั้นตอน เชื่อมโยงคดีด้วยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ข้อมูลทางเทคโนโลยี ตำรวจมั่นใจในหลักฐานที่มีเอาผิดผู้ต้องหาได้
ระหว่างรอการพิจารณาคดีของศาลอาญากรุงเทพใต้ มีข่าว พ.ต.ท.บรรยิน ใช้คนสนิทที่อยู่ในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ วางแผนแหกคุกหนีคดี ให้นักโทษคดียาเสพติดที่ พ.ต.ท.บรรยินติดต่อทนายช่วยเหลือออกจากเรือนจำ เป็นผู้ประสานงานกับเครือข่ายของ พ.ต.ท.บรรยิน ที่ยังมีอิทธิพลอยู่ร่วมกันวางแผนหลบหนี
พล.ต.ต.จิรภพทราบเรื่องสั่งชุดตำรวจกองปราบปรามลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน จับกุมคนที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีตามหลักฐานที่มี “ตัดไฟแต่ต้นลม” กดดันจนทำให้แผนแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยินไม่สำเร็จ
ไม่มีลูกน้องคนไหนกล้ามาเสี่ยง มายุ่งเกี่ยว เพราะคดีนี้กองปราบปรามเอาจริง
เมื่อแผนที่วางไว้พังไม่เป็นท่า พ.ต.ท.บรรยิน จำเลยคดี “อุ้มฆ่า” พี่ชายผู้พิพากษาหญิงที่กำลังจะตัดสินคดี หันไปพึ่งใครไม่ได้ รู้ว่าพยานหลักฐานที่กองปราบปรามทำมาแน่น เป็นสิ่งที่น่าสนใจว่าจะคิดทำอย่างไร
วันที่ 14 ก.ย. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดสืบพยานคดี “อุ้มฆ่า” พี่ชายผู้พิพากษาอดีตเจ้าของสำนวนโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ที่อัยการยื่นฟ้อง พ.ต.ท.บรรยินกับพวก 6 คน คือ นายมานัส ทับทิม นายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์
นายชาติชาย เมณฑ์กูล นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข และ ด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ

พ.ต.ท.บรรยินกลับคำให้การจากที่ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด รับสารภาพว่าร่วมกับนายณรงค์ศักดิ์ จัดเตรียมอุปกรณ์ น้ำมัน ยางรถยนต์ สังกะสี อิฐบล็อก ใช้เผาศพนายวีรชัยพี่ชายผู้พิพากษาหากเจรจาไม่สำเร็จ การอุ้มพี่ชายผู้พิพากษามาเพื่อต่อรองคดีโอนหุ้น วันเกิดเหตุวางแผนแต่งตัวเป็นตำรวจอุ้มนายวีรชัยด้วยตัวเองจากหน้าศาล ระหว่างเดินทางนายวีรชัยขัดขืน ลูกน้อง พ.ต.ท.บรรยินได้ชกต่อยจนถึงแก่ความตาย ตอนแรกผู้พิพากษาจะยอมพูดคุยเจรจาด้วย แต่ขอคุยกับพี่ชายก่อน ซึ่งตอนนั้นนายวีรชัยเสียชีวิตไปแล้ว ไม่สามารถพูดสายได้
พ.ต.ท.บรรยินนำศพนายวีรชัยเผาเพื่อทำลายหลักฐานที่เขาใบไม้ ต.ตาคลี จ.นครสวรรค์
เป็นคดีสะเทือนขวัญและท้าทายกฎหมาย คดี “อุ้มฆ่า” พี่ชายผู้พิพากษา เริ่มต้นขึ้นจากคดี “โอนหุ้น” และคดีฆาตกรรมอำพราง “เสี่ยชูวงษ์” นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้าน เหตุเกิดวันที่ 26 มิ.ย.2558 มี พ.ต.ท.บรรยินมาเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงคดี “อุ้มฆ่า” พี่ชายผู้พิพากษาหญิงเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้น
จากเหตุคดีอุบัติเหตุรถชนต้นไม้พบ “ปมพิรุธ” นำมาสู่คดีฆาตกรรมซ่อนเงื่อน
เริ่มจากครอบครัวเสี่ยชูวงษ์ตรวจสอบเอกสารบริษัทหลักทรัพย์ที่ส่งมาถึงเสี่ยชูวงษ์ ก่อนเกิดเหตุ 10 วัน แจ้งว่า นายชูวงษ์ได้โอนหุ้นในนามของผู้ตายเข้าไปไว้ในบัญชีหุ้นของพริตตี้สาว 9.5 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 228 ล้านบาทและโบรกเกอร์สาว บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งมูลค่าเกือบ 40 ล้าน
สองสาวสนิทกับ พ.ต.ท.บรรยิน มีหลายประเด็นที่ญาติ “เสี่ยชูวงษ์” ไม่เชื่อเป็นอุบัติเหตุ
...
เข้าร้องเรียน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ตำแหน่งในขณะนั้น สำนวนถูกส่งมาให้กองปราบปราม พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ตำแหน่งขณะนั้น ได้ตั้งทีมสืบสวนสอบสวนขึ้นมาชุดหนึ่ง มี พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ขณะนั้นเป็น ผกก.1 บก.ป. อยู่ในทีมสืบสวนยิ่งสืบสวน
ยิ่งสาวลงลึกในรายละเอียดคดี ยิ่งพบว่าเรื่องนี้ไม่ใช่คดีธรรมดา

มีข้อสงสัยว่า พ.ต.ท.บรรยิน ใช้ปากการุ่นพิเศษที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่น สามารถเขียนและลบได้ ปลอมลายเซ็นของนายชูวงษ์ โอนหุ้นไปให้พริตตี้และโบรกเกอร์สาวคนสนิท ก่อน “เสี่ยชูวงษ์” เสียชีวิตไม่กี่วัน
ชุดสืบสวนพบหลักฐานสำคัญ พ.ต.ท.บรรยิน มีส่วนพัวพัน “ฆ่าอำพราง” นายชูวงษ์ ซึ่งแนวทางสืบสวนเชื่อว่า มีการใช้ของแข็งทุบตีนายชูวงษ์จนถึงแก่ความตาย ก่อนจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ พ.ต.อ.จิรภพ ผกก.1 บก.ป. นำกำลังกองปราบปราม พร้อมหมายจับศาลจังหวัดพระโขนงเข้าจับกุม พ.ต.ท.บรรยิน ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ได้ที่รีสอร์ตเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ส่งสำนวนอัยการก่อนนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 มี.ค.2563
...
แต่มาเกิดการฆาตกรรมพี่ชายผู้พิพากษาหญิงเจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้นเสียก่อน
กลายมาเป็นคดีฆาตกรรมอำพราง 2 คดีที่ชุดสืบสวนสอบสวนกองปราบฯปิดคดี
พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาของ พ.ต.ท.บรรยินกับพวกรวม 6 คน ที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมคนทำผิดได้ครบทีม แม้ตอนแรก พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาสำคัญจะปฏิเสธ แต่เรามั่นใจว่าหลักฐานที่เรามีเอาผิดได้จนในการพิจารณาที่ศาลทราบว่า พ.ต.ท.บรรยินรับสารภาพว่าทำผิดจริง คดีนี้มีความเกี่ยวพันมาทั้งคดีโอนหุ้น คดีฆ่าอำพรางนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา ซึ่งตนได้มีส่วนในการรับผิดชอบเข้าร่วมสืบสวนสอบสวนทุกคดี
“ในการเข้าทำคดีนี้เห็นตั้งแต่แรกแล้วว่าจะปล่อยคนร้ายหลุดลอยไปไม่ได้ เพราะจะกระทบต่อกระบวนการยุติธรรม กระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ยิ่งเป็นผู้มีอิทธิพล จะใช้อำนาจมืดมาทำให้กระบวนการยุติธรรมสั่นคลอน เป็นเรื่องที่ตำรวจกองปราบปรามยอมไม่ได้ จึงสั่งการให้ตำรวจกองปราบฯทำงานให้หนักในคดีนี้ เอาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่มีพิสูจน์ความจริงเอาคนกระทำผิดมาลงโทษและคงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จนสุดท้ายผู้ต้องหาทั้งหมดยอมรับสารภาพ”
คดี พ.ต.ท.บรรยินปลอมแปลงโอนหุ้น 300 ล้าน จัดฉาก “ฆาตกรรมอำพราง” นำไปสู่คดี “อุ้มฆ่า” พี่ชายผู้พิพากษาเพื่อต่อรองทางคดี เป็นคดีสะเทือนขวัญเย้ยกระบวนการยุติธรรมของไทย แม้ผู้ต้องหาจะมีอิทธิพล วางแผนมาเป็นอย่างดี แต่ไม่รอดฝีมือ ความเป็นมืออาชีพและเทคนิคสืบสวนทำคดีของกองปราบปราม
...
อีกคดี “ต้นแบบ” งานกองปราบปรามที่ไม่ยอมให้ผู้มีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย.
ทีมข่าวอาชญากรรม